ต่อไป »

[เที่ยวกันต่อครับ..เมื่อวานหลังจากเที่ยววัดเมตตตาธรรมแล้วคณะเราก็มุ่งหน้ามาด่านเจดีย์สามองค์...จุดประสงค์คือมาเลือกซื้ออัญมณีหินสีเพชรพลอยต่างๆ..พอพลบค่ำก็เข้าพักที่เขาคอนโดรีสร์อท..ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากด่านเจดีย์ไปแค่ราวสองกิโลเมตร..เพราะเราต้องการข้ามไปฝั่งพม่าให้เช้าที่สุดด้วยหวังสายหมอกในแสงเช้าครับ..แต่ขลุกขลักนิดหน่อยเพราะความไม่พร้อมเรื่องรถของทางรีสร์อท..เล่นเอาท่านประธานหัวเสียที่ทางรีสร์อททำไม่ได้อย่างที่คุยกันไว้..แต่พอเจ็ดโมงครึ่งคณะเราก็มายืนอยู่ที่หน้าด่านชายแดนแล้วครับ..]

เที่ยวกันต่อครับ..เมื่อวานหลังจากเที่ยววัดเมตตตาธรรมแล้วคณะเราก็มุ่งหน้ามาด่านเจดีย์สามองค์...จุดประสงค์คือมาเลือกซื้ออัญมณีหินสีเพชรพลอยต่างๆ..
พอพลบค่ำก็เข้าพักที่เขาคอนโดรีสร์อท..ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากด่านเจดีย์ไปแค่ราวสองกิโลเมตร..เพราะเราต้องการข้ามไปฝั่งพม่าให้เช้าที่สุดด้วยหวังสายหมอกในแสงเช้าครับ..
แต่ขลุกขลักนิดหน่อยเพราะความไม่พร้อมเรื่องรถของทางรีสร์อท..เล่นเอาท่านประธานหัวเสียที่ทางรีสร์อททำไม่ได้อย่างที่คุยกันไว้..แต่พอเจ็ดโมงครึ่งคณะเราก็มายืนอยู่ที่หน้าด่านชายแดนแล้วครับ..

[หลังจากผ่านด่าน ตม.แล้วยังต้องยืนรอรถอีกราวสิบห้านาที..แล้วจึงได้มาถึงหมายแรก..วัดเสาร้อยต้น(คือชื่อในภาษาพม่าว่าอย่างไรไม่รู้..แต่ไทยเราเรียกที่นี่ว่าอย่างนี้ครับ)..เป็นวัดที่สร้างด้วยไม้เป็นหลัก...แต่จะมีเสาถึงร้อยต้นหรือไม่ผมก็ไม่มีเวลานับครับ..นี่เป็นชั้นล่าง]

หลังจากผ่านด่าน ตม.แล้วยังต้องยืนรอรถอีกราวสิบห้านาที..แล้วจึงได้มาถึงหมายแรก..วัดเสาร้อยต้น(คือชื่อในภาษาพม่าว่าอย่างไรไม่รู้..แต่ไทยเราเรียกที่นี่ว่าอย่างนี้ครับ)
..เป็นวัดที่สร้างด้วยไม้เป็นหลัก...แต่จะมีเสาถึงร้อยต้นหรือไม่ผมก็ไม่มีเวลานับครับ..นี่เป็นชั้นล่าง

[นี่ขึ้นบันไดมาด้านบนครับ..โปรดสังเกตุว่ามีภาพหลวงพ่ออุตตมะวัดวังวิเวการามติดอยู่ด้านหน้านี้ถึงสามใบ..สอบถามได้ใจความว่าเพราะพระที่สร้างวัดนี้เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่ออุตตมะนั่นเอง..จึงถือว่าเป็นแคมปัสกันครับ..]

นี่ขึ้นบันไดมาด้านบนครับ..โปรดสังเกตุว่ามีภาพหลวงพ่ออุตตมะวัดวังวิเวการามติดอยู่ด้านหน้านี้ถึงสามใบ..
สอบถามได้ใจความว่าเพราะพระที่สร้างวัดนี้เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่ออุตตมะนั่นเอง..จึงถือว่าเป็นแคมปัสกันครับ..

[ด้านในศาลา...เป็นพระพุทธรูปศิลปะมอญ-พม่าสวยงามแปลกตาครับ]

ด้านในศาลา...เป็นพระพุทธรูปศิลปะมอญ-พม่าสวยงามแปลกตาครับ

[จากนั้นก็เดินมาที่ 108 พระอรหันต์บิณฑบาตรซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน..รู้สึกว่าท่านประธานไปรอบนี้ไม่ถ่ายที่วัดเสาร้อยต้นเลย..พอลงรถก็เดินดิ่งมาที่นี่เลยมังครับ..คงกลัวสายแล้วหมอกจะหงอย..ฮี่ๆๆ]

จากนั้นก็เดินมาที่ 108 พระอรหันต์บิณฑบาตรซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน..
รู้สึกว่าท่านประธานไปรอบนี้ไม่ถ่ายที่วัดเสาร้อยต้นเลย..พอลงรถก็เดินดิ่งมาที่นี่เลยมังครับ..คงกลัวสายแล้วหมอกจะหงอย..ฮี่ๆๆ

[สองสาวนี่มาเซลฟี่อยู่แถวนี้ด้วย...เล่นเอาหมาแถวนั้นหอนกันระงมเลย..มันคงนึกว่ากลางวันแสกๆยังจะมาปรากฏตัวอีกรึ..เหอๆๆ]

สองสาวนี่มาเซลฟี่อยู่แถวนี้ด้วย...เล่นเอาหมาแถวนั้นหอนกันระงมเลย..มันคงนึกว่ากลางวันแสกๆยังจะมาปรากฏตัวอีกรึ..เหอๆๆ

[จากนั้นคณะเราก็เข้าสู่หมายต่อไปครับ..เจดีย์ทอง..อยู่บนเขาเตี้ยๆ..แต่คิดว่าไม่ได้มีสถานะเป็นวัดนะเป็นเจดีย์ที่มีซุ้ม 7 วันอาทิตย์-เสาร์ อยู่รอบองค์เจดีย์..เพื่อให้ผู้คนได้กราบไหว้ขอพรตามวันเกิดครับ]

จากนั้นคณะเราก็เข้าสู่หมายต่อไปครับ..
เจดีย์ทอง..อยู่บนเขาเตี้ยๆ..แต่คิดว่าไม่ได้มีสถานะเป็นวัดนะ
เป็นเจดีย์ที่มีซุ้ม 7 วันอาทิตย์-เสาร์  อยู่รอบองค์เจดีย์..เพื่อให้ผู้คนได้กราบไหว้ขอพรตามวันเกิดครับ

[จบจากนั้นขึ้นรถเดินทางต่อไปที่วัดพระนอนซึ่งก็ห่างจากเจดีย์ทองราวสองกิโล..ระหว่างทางก็มีด่านเก็บค่าต๋ง..เอ๊ยยย..ด่านบุญ เพื่อขอศรัทธาญาติโยมร่วมบุญถวายปัจจัยสร้างวัดครับ..มีการประพรมน้ำมนต์ด้วย..เล่นเอายกกล้องหลบแทบไม่ทัน.]

จบจากนั้นขึ้นรถเดินทางต่อไปที่วัดพระนอนซึ่งก็ห่างจากเจดีย์ทองราวสองกิโล..
ระหว่างทางก็มีด่านเก็บค่าต๋ง..เอ๊ยยย..ด่านบุญ  เพื่อขอศรัทธาญาติโยมร่วมบุญถวายปัจจัยสร้างวัดครับ..
มีการประพรมน้ำมนต์ด้วย..เล่นเอายกกล้องหลบแทบไม่ทัน.

[ถึงวัดพระนอนครับ..คนอื่นเค้าถ่ายองค์พระด้านนอกเพราะพระองค์ตาหวานขนตางอนช้อยตามแบบศิลปะมอญ-พม่าแต่ผมมาเมื่อตอนปีใหม่ถ่ายไปเยอะแล้วครับ..เลยเดินเข้ามาด้านในองค์พระ..จึงได้พบว่าในพระนอนยังมีพระครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่ด้วย...อิๆๆกระดาษขาวๆที่เห็นติดเต็มผนังนั่นมิใช่ยันต์อันใดหรอกนะ...เป็นชื่อที่อยู่ของผู้ที่เคยมาเยือนสถานที่แห่งนี้เขียนติดเอาไว้เป็นอนุสรณ์ครับ..นับว่าเป็นกุศโลบายสายธรรมอีกแขนงหนึ่ง..]

ถึงวัดพระนอนครับ..คนอื่นเค้าถ่ายองค์พระด้านนอกเพราะพระองค์ตาหวานขนตางอนช้อยตามแบบศิลปะมอญ-พม่า
แต่ผมมาเมื่อตอนปีใหม่ถ่ายไปเยอะแล้วครับ..เลยเดินเข้ามาด้านในองค์พระ..จึงได้พบว่าในพระนอนยังมีพระครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่ด้วย...อิๆๆ
กระดาษขาวๆที่เห็นติดเต็มผนังนั่นมิใช่ยันต์อันใดหรอกนะ...เป็นชื่อที่อยู่ของผู้ที่เคยมาเยือนสถานที่แห่งนี้เขียนติดเอาไว้เป็นอนุสรณ์ครับ..นับว่าเป็นกุศโลบายสายธรรมอีกแขนงหนึ่ง..

[จากนั้นตามโปรแกรมแล้วคณะเราจะเข้าไปวัดหลวงพ่อทันใจและพระธาตุอินแขวนจำลอง..แต่คนขับรถแจ้งว่าวันนี้คงเข้าไม่ได้เนื่องด้วยมีงานบุญกฐิน..รถราผู้คนหนาแน่นล้นออกมาเป็นกิโล..ก็เลยไปโปรแกรมท้ายสุด...ตลาดสดและดิวตี้ฟรีครับ..ระหว่างทางก็ได้พบเจอรถกฐินวิ่งสวนทางไปหลายคัน..โปรดสังเกตุว่าว่าเงินกฐินนั้นเป็นเงินบาทไทยล้วนๆเลย..ตลาดชายแดนแห่งนี้ไม่นิยมเงินจ๊าดพม่าครับ..]

จากนั้นตามโปรแกรมแล้วคณะเราจะเข้าไปวัดหลวงพ่อทันใจและพระธาตุอินแขวนจำลอง..
แต่คนขับรถแจ้งว่าวันนี้คงเข้าไม่ได้เนื่องด้วยมีงานบุญกฐิน..รถราผู้คนหนาแน่นล้นออกมาเป็นกิโล..
ก็เลยไปโปรแกรมท้ายสุด...ตลาดสดและดิวตี้ฟรีครับ..ระหว่างทางก็ได้พบเจอรถกฐินวิ่งสวนทางไปหลายคัน..
โปรดสังเกตุว่าว่าเงินกฐินนั้นเป็นเงินบาทไทยล้วนๆเลย..ตลาดชายแดนแห่งนี้ไม่นิยมเงินจ๊าดพม่าครับ..

[เข้ามาเดินตลาดผมก็ไม่รู้จะถ่ายอะไร..แต่ที่แปลกใจคือเห็นอุบาสิกาสองท่านนี้ใส่หมวกวัดเดินเรี่ยไรเงินครับ..เมื่อตอนปีใหม่ที่มานี่ก็เจอสามเณรเดินเรี่ยไรในตลาดแห่งนี้เช่นกัน..เอ..หรือวัดส่งมาเก็บค่าเช่าที่-ค่าคุ้มครองหว่า..อิๆ]

เข้ามาเดินตลาดผมก็ไม่รู้จะถ่ายอะไร..แต่ที่แปลกใจคือเห็นอุบาสิกาสองท่านนี้ใส่หมวกวัดเดินเรี่ยไรเงินครับ..
เมื่อตอนปีใหม่ที่มานี่ก็เจอสามเณรเดินเรี่ยไรในตลาดแห่งนี้เช่นกัน..เอ..หรือวัดส่งมาเก็บค่าเช่าที่-ค่าคุ้มครองหว่า..อิๆ

[หลังจากนั้นก็เข้าร้านดิวตี้ฟรีครับ..เหล้าไม่เกินสองขวด-บุหรี่ไม่เกินสองแถว/คนแต่ผมได้มาแค่ถั่วตัดหนึ่งลังและชาพม่าสองห่อ..นี่ธงชาติพม่าครับ..โบกพริ้วปลิวไสวในสายลมเย็น]

หลังจากนั้นก็เข้าร้านดิวตี้ฟรีครับ..เหล้าไม่เกินสองขวด-บุหรี่ไม่เกินสองแถว/คน
แต่ผมได้มาแค่ถั่วตัดหนึ่งลังและชาพม่าสองห่อ..
นี่ธงชาติพม่าครับ..โบกพริ้วปลิวไสวในสายลมเย็น

[นี่กลับเข้ามาฝั่งไทยแล้ว..ยืนรอรถบริการของทางรีสร์อทมารับ(มันน่าหงุดหงิดใจจริงๆ..ชาวคณะเรามากันสิบห้าคน..ด้วยรถสามคัน..แต่ทางรีสร์อทกลับมีรถปิคอัปติดหลังคามาบริการแค่คันเดียว)ถ่ายสาวพม่าค่าเวลาครับ..เสร็จแล้วเดินเข้าไปคุย..แต่น้องเค้าเห็นว่าผมแก่เลยไม่ยอมคุยด้วย..แกล้งทำเป็นพูดไทยไม่ได้..ชิๆ]

นี่กลับเข้ามาฝั่งไทยแล้ว..ยืนรอรถบริการของทางรีสร์อทมารับ(มันน่าหงุดหงิดใจจริงๆ..ชาวคณะเรามากันสิบห้าคน..ด้วยรถสามคัน..แต่ทางรีสร์อทกลับมีรถปิคอัปติดหลังคามาบริการแค่คันเดียว)
ถ่ายสาวพม่าค่าเวลาครับ..เสร็จแล้วเดินเข้าไปคุย..แต่น้องเค้าเห็นว่าผมแก่เลยไม่ยอมคุยด้วย..แกล้งทำเป็นพูดไทยไม่ได้..ชิๆ

[ส่วนนี่เป็นพ่อค้าขายซามูซ่า..ซึ่งเป็นอาหารแบบทอดของชาวเบงกาลี..และผมคิดว่าเค้าคงเป็นโรฮิงญาครับ..ก่อนถ่ายภาพเค้าผมขออนุญาติด้วยภาษาอังกฤษก่อน..เพราะโดยทั่วไปในพม่าจะใช้อังกฤษได้ดีเพราะเคยเป็นเมืองขึ้นมาก่อน..ดูสีผิวและสีเสื้อชั่งตัดกันอย่างยิ่ง..กล้องผมนี่วัดแสงไม่ถูกเลยครับ...อิๆๆ]

ส่วนนี่เป็นพ่อค้าขายซามูซ่า..ซึ่งเป็นอาหารแบบทอดของชาวเบงกาลี..และผมคิดว่าเค้าคงเป็นโรฮิงญาครับ..
ก่อนถ่ายภาพเค้าผมขออนุญาติด้วยภาษาอังกฤษก่อน..เพราะโดยทั่วไปในพม่าจะใช้อังกฤษได้ดีเพราะเคยเป็นเมืองขึ้นมาก่อน..
ดูสีผิวและสีเสื้อชั่งตัดกันอย่างยิ่ง..กล้องผมนี่วัดแสงไม่ถูกเลยครับ...อิๆๆ

[ลิงค์กระทู้ของปีใหม่ครับ.....ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..]

http://www.spc2010.net/index.php/topic,9345.0.html ลิงค์กระทู้ของปีใหม่ครับ..
...ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..