ต่อไป »

[ครับ..ตั้งหัวเรื่องให้เร้าใจกันนิดหน่อย..อิๆๆแต่ก็ไม่ได้ห่างไกลไปจากความเป็นจริงสักเท่าไหร่..ก็ลองคิดว่าท่านเป็นหนูแล้วจะรู้ว่าเจ้านกแสกมันคือพญามัจจุราชที่น่าเกรงกลัวนั่นแหละ..หรือแม้แต่คนเรา..โบร่ำโบราณพร่ำสอนกันมานักต่อนัก..ว่าถ้านกแสกบินผ่านหลังคาบ้านไหนแล้วร้องเสียงดัง..บ้านนั้นจะมีคนตายภายในสามวันเจ็ดวัน..เพราะเค้าคือยมทูตที่จะมาคร่าวิญญาณ..นั่นคงเพราะเจ้าแสกนี่เสียงร้องเค้าน่ากลัวจริงๆครับ..ผมเคยตามถ่ายเค้าที่ป่าช้าวัดปราโมทย์..เค้าบินข้ามหัวผมร้องแซ๊กกกกก..เสียงก้องกังวาลสะท้านทะลุทะลวงความเงียบแห่งราตรีกาล..เล่นเอาผมขนหัวตั้งเลย..นี่ยังโชคดีที่จังหวะนั้นผมเดินอยู่กลางแจ้ง..ไม่ได้อยู่ใต้หลังคาบ้าน..ไม่งั้นอาจตายภายในเจ็ดวันไปแล้ว...ฮี่ๆๆ..(แต่ก็เฉียดตายไปหลายครั้งแล้วเหมือนกัน).....นอกเรื่องไปซะไกล..กลับเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ..คือเมื่อราวสองสามเดือนที่แล้วไปถ่ายกะเต็นลายที่บ้านกร่าง..ได้เจอกับน้องหนูรัน...และน้องเค้ามีน้ำใจบอกหมายนกแสกนี้มา..หลังจากนั้นเมื่อตอนไปถ่ายมาโครกับท่านประธานและน้านะ..ขากลับเราก็แวะไปเซอร์เวย์ที่หมายนี้มาและได้เจอตัวแล้ว..แต่ถ่ายไม่ทัน..ประกอบกับไฟฉายแรงไม่พอด้วย..มาเมื่อปลายเดือนที่แล้วอาไห่เพื่อนชาวฮ่องกงของผมมาเมืองไทย..และได้นำไฟฉายแรงสูงที่ผมฝากซื้อมาให้..เมื่อได้ไฟฉายมาแล้วผมเลยเกิดอาการอยากไปทดลองครับ.......ผมเข้าถึงหมายตอนราวสองทุ่ม..วนรถหาจนเกือบสามทุ่ม..คิดว่าแห้วซะแล้วมัง..แต่ในที่สุดพระเจ้าก็ปราณีครับ..เจอเค้าเกาะกิ่งไม้ริมถนนพร้อมด้วยเหยื่อในกำมือ...เอ๊ยยย..ขา]

ครับ..ตั้งหัวเรื่องให้เร้าใจกันนิดหน่อย..อิๆๆ
แต่ก็ไม่ได้ห่างไกลไปจากความเป็นจริงสักเท่าไหร่..ก็ลองคิดว่าท่านเป็นหนูแล้วจะรู้ว่าเจ้านกแสกมันคือพญามัจจุราชที่น่าเกรงกลัวนั่นแหละ..
หรือแม้แต่คนเรา..โบร่ำโบราณพร่ำสอนกันมานักต่อนัก..ว่าถ้านกแสกบินผ่านหลังคาบ้านไหนแล้วร้องเสียงดัง..บ้านนั้นจะมีคนตายภายในสามวันเจ็ดวัน..เพราะเค้าคือยมทูตที่จะมาคร่าวิญญาณ
..นั่นคงเพราะเจ้าแสกนี่เสียงร้องเค้าน่ากลัวจริงๆครับ..ผมเคยตามถ่ายเค้าที่ป่าช้าวัดปราโมทย์..เค้าบินข้ามหัวผมร้องแซ๊กกกกก..เสียงก้องกังวาลสะท้านทะลุทะลวงความเงียบแห่งราตรีกาล..เล่นเอาผมขนหัวตั้งเลย..
นี่ยังโชคดีที่จังหวะนั้นผมเดินอยู่กลางแจ้ง..ไม่ได้อยู่ใต้หลังคาบ้าน..ไม่งั้นอาจตายภายในเจ็ดวันไปแล้ว...ฮี่ๆๆ..(แต่ก็เฉียดตายไปหลายครั้งแล้วเหมือนกัน)..
...นอกเรื่องไปซะไกล..กลับเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ..คือเมื่อราวสองสามเดือนที่แล้วไปถ่ายกะเต็นลายที่บ้านกร่าง..ได้เจอกับน้องหนูรัน...และน้องเค้ามีน้ำใจบอกหมายนกแสกนี้มา..
หลังจากนั้นเมื่อตอนไปถ่ายมาโครกับท่านประธานและน้านะ..ขากลับเราก็แวะไปเซอร์เวย์ที่หมายนี้มาและได้เจอตัวแล้ว..แต่ถ่ายไม่ทัน..ประกอบกับไฟฉายแรงไม่พอด้วย..
มาเมื่อปลายเดือนที่แล้วอาไห่เพื่อนชาวฮ่องกงของผมมาเมืองไทย..และได้นำไฟฉายแรงสูงที่ผมฝากซื้อมาให้..เมื่อได้ไฟฉายมาแล้วผมเลยเกิดอาการอยากไปทดลองครับ..
.....ผมเข้าถึงหมายตอนราวสองทุ่ม..วนรถหาจนเกือบสามทุ่ม..คิดว่าแห้วซะแล้วมัง..แต่ในที่สุดพระเจ้าก็ปราณีครับ..เจอเค้าเกาะกิ่งไม้ริมถนนพร้อมด้วยเหยื่อในกำมือ...เอ๊ยยย..ขา

[แล้วไฟฉายแรงสูง 3200 ลูเมนต์ก็ได้เห็นศักยภาพที่น่าพึงพอใจสมกับราคาค่าตัวครับ..เริ่มแรกผมถ่ายจากในรถตามที่น้องหนูรันได้แนะนำไว้..แต่มันอึดอัดถ่ายไม่ถนัด..เมื่อได้ภาพมามัดจำไว้แล้วผมก็ค่อยๆเปิดประตูเอากล้องพาดหลังคารถถ่ายครับ..]

แล้วไฟฉายแรงสูง 3200 ลูเมนต์ก็ได้เห็นศักยภาพที่น่าพึงพอใจสมกับราคาค่าตัวครับ..เริ่มแรกผมถ่ายจากในรถตามที่น้องหนูรันได้แนะนำไว้..
แต่มันอึดอัดถ่ายไม่ถนัด..เมื่อได้ภาพมามัดจำไว้แล้วผมก็ค่อยๆเปิดประตูเอากล้องพาดหลังคารถถ่ายครับ..

[ไอเอสโอ 2000 เอฟ 6.3 ได้สปีดราว 1/128 ถึง 1/25 วินาที..ซึ่งแล้วแต่ระยะซูมใกล้-ไกล..เลนส์ซูมแทมร่อน 150-600 มิล..ใช้ไม่สุดระยะครับ..ดึงอยู่ที่ราว 400-500 มิล..เพราะมันแน่นจนคับเฟรมแล้ว..แทมร่อนตัวนี้เป็นเลนส์ที่ยืดหยุ่นน่าใช้มาก..ถ้าเป็นเลนส์ฟิกนี่จะทำยังไง...มิต้องถอยหลังกรูดเลยรึ?....ถ่ายด้วย 7D มร์าค 2 ตั้งชัตเตอร์แบบไซเรนซ์เพื่อให้ทำงานร่วมกับระบบกันสั่นของเลนส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ..]

ไอเอสโอ 2000 เอฟ 6.3 ได้สปีดราว 1/128 ถึง 1/25 วินาที..ซึ่งแล้วแต่ระยะซูมใกล้-ไกล..
เลนส์ซูมแทมร่อน 150-600 มิล..ใช้ไม่สุดระยะครับ..ดึงอยู่ที่ราว 400-500 มิล..เพราะมันแน่นจนคับเฟรมแล้ว..
แทมร่อนตัวนี้เป็นเลนส์ที่ยืดหยุ่นน่าใช้มาก..ถ้าเป็นเลนส์ฟิกนี่จะทำยังไง...มิต้องถอยหลังกรูดเลยรึ?..
..ถ่ายด้วย 7D มร์าค 2  ตั้งชัตเตอร์แบบไซเรนซ์เพื่อให้ทำงานร่วมกับระบบกันสั่นของเลนส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ..

[เกือบลืม..เจ้านี้ชื่อ"แสก"Barn Owl.เมื่อโตเต็มที่ขนาดราวๆ 34 เซ็นติเมตร..แต่ผมว่าเจ้านี่ยังวัยรุ่นครับ...โดยดูจากขนาดและหน้าตา..เพราะตัวที่วัดปราโมทย์ตัวใหญ่และหน้าดุกว่านี้....เป็นนกประจำถิ่นหากินประจำที่..อาหารส่วนใหญ่ก็พวกหนู-กบเขียด-สัตว์เลื้อยคลานเล็กๆ...และคนโบราณว่ามันกินศพตามป่าช้าด้วย..เหอๆๆๆมีอาศัยอยู่ทั่วประเทศครับ..แต่มีน้อยและพบไม่บ่อย..เพราะเค้าออกหากินเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น..กลางวันหลบนอนตามหลังคาโบสถ์-ศาลาวัด]

เกือบลืม..เจ้านี้ชื่อ"แสก"Barn Owl.เมื่อโตเต็มที่ขนาดราวๆ 34 เซ็นติเมตร..แต่ผมว่าเจ้านี่ยังวัยรุ่นครับ...โดยดูจากขนาดและหน้าตา..เพราะตัวที่วัดปราโมทย์ตัวใหญ่และหน้าดุกว่านี้..
..เป็นนกประจำถิ่นหากินประจำที่..อาหารส่วนใหญ่ก็พวกหนู-กบเขียด-สัตว์เลื้อยคลานเล็กๆ...และคนโบราณว่ามันกินศพตามป่าช้าด้วย..เหอๆๆๆ
มีอาศัยอยู่ทั่วประเทศครับ..แต่มีน้อยและพบไม่บ่อย..เพราะเค้าออกหากินเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น..กลางวันหลบนอนตามหลังคาโบสถ์-ศาลาวัด

[ผมถ่ายจนสามทุ่มกว่า..ได้มาสามร้อยกว่าใบ..แต่หงุดหงิดที่ตาเค้าไม่แดงสะท้อนไฟเพราะมุมไฟฉายที่ส่องกับมุมของกล้องไม่ตรงกัน..เรตินาของตาเค้าเลยไม่แดง..สุดท้ายผมเอาแฟลชติดหัวกล้องยิงเข้าไปด้วย..ก็ได้แดงเป็นสีทับทิมมานี่แหละครับ....ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..]

ผมถ่ายจนสามทุ่มกว่า..ได้มาสามร้อยกว่าใบ..แต่หงุดหงิดที่ตาเค้าไม่แดงสะท้อนไฟเพราะมุมไฟฉายที่ส่องกับมุมของกล้องไม่ตรงกัน..เรตินาของตาเค้าเลยไม่แดง..
สุดท้ายผมเอาแฟลชติดหัวกล้องยิงเข้าไปด้วย..ก็ได้แดงเป็นสีทับทิมมานี่แหละครับ..
..ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..

ช่างโชคร้ายซะนี่กระไร  ที่ไปเจอมันเข้า  กลับบ้านมาเลยต้องไปนอน รพ.เลย อิๆ

[ครับ..นี่ยังถือว่าดวงแข็ง..เลยยังไม่ถึงฆาตครับ..]

ช่างโชคร้ายซะนี่กระไร  ที่ไปเจอมันเข้า  กลับบ้านมาเลยต้องไปนอน รพ.เลย อิๆ

ครับ..นี่ยังถือว่าดวงแข็ง..เลยยังไม่ถึงฆาตครับ..

[ครับ..นี่ยังถือว่าดวงแข็ง..เลยยังไม่ถึงฆาตครับ..]

ช่างโชคร้ายซะนี่กระไร  ที่ไปเจอมันเข้า  กลับบ้านมาเลยต้องไปนอน รพ.เลย อิๆ

ครับ..นี่ยังถือว่าดวงแข็ง..เลยยังไม่ถึงฆาตครับ..

55555