กุมภาพันธ์ 06, 2025, 09:15:26 PM
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
*

ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
หน้า: « 1 2 3 4 5 6 7 8 »   ลงล่าง
  พิมพ์  

  ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
ผู้เขียน ข้อความ
0 สมาชิก และ 38 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #30 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2016, 09:17:37 AM »

แถมที่ข้างๆสถานีบริการ  ไม่รู้ใครเอารูปหล่อทองเหลือง ทาสีพิลึกพิลั่นไปตั้งไว้  มีทั้งท่าทางปีนเขา ปั่นจักรยาน ฯลฯ  คงเอาไว้เป็นสัญญลักษณ์ของการท่องเที่ยวที่นี่มั้ง


* 38.JPG (337.58 KB, 674x1000 - ดู 43 ครั้ง.)


Share

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #31 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2016, 09:19:19 AM »

เรายังใช้เส้นทาง S303 กันต่อไป   ไม่นานนักพวกเราก็เรียกร้องให้ พขร.จอดรถ เพราะเล็งเห็นทิวเขาหิมะข้างทาง  และเมื่อรถจอดแล้วผมก็จำได้ว่า ภูเขาหิมะลูกนี้ ผมเคยมาเมื่อสองปีก่อน  ภูเขาที่ชื่อ “ยาลา” นั่นเอง


* 41.jpg (383.29 KB, 1200x421 - ดู 43 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #32 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2016, 09:20:44 AM »

พวกเราเสียเวลากันราวครึ่งชั่วโมง  เสียงของเจ้าRicky ก็ตะโกนขึ้นว่า  “ไปได้เลี้ยว..  ไปได้เลี้ยว...” ก็ไม่รู้ใครไปสอนภาษาไทยให้มันเหมือนกัน   


* 40.JPG (342.2 KB, 1000x673 - ดู 43 ครั้ง.)

* 42.JPG (334.31 KB, 1000x673 - ดู 42 ครั้ง.)

* 43.jpg (343.42 KB, 1000x674 - ดู 41 ครั้ง.)

* 44.JPG (362.66 KB, 1000x673 - ดู 42 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #33 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2016, 12:56:54 PM »

รถมาจอดแวะพักรถที่จุดนี้  เมื่อราว 2 ปีที่แล้ว เราก็มาแวะพักรถตรงนี้เหมือนกัน  มีห้องน้ำบริการแต่กลิ่นก็ยังไม่เคยปรับปรุงมากนัก  แต่นับว่าห้องน้ำที่นี่ดีกว่าห้องน้ำสาธารณะที่ไหนๆแล้วครับ

ที่ริมน้ำ  มีสิ่งก่อสร้างโบราณ จะว่าเป็นอนุเสาวรีก็ไม่เชิง   ขึงโซ่เส้นใหญ่ๆหลายเส้น ดูแล้วก็ไม่เข้าใจว่าจะขึงไว้ทำประโยชน์อะไร   ไกด์จึงอธิบายว่าในสมัยเหมาเจ๋อตุงเดินทัพทางไกล  ต้องผ่านแม่น้ำแห่งนี้  ไม่มีสะพานข้ามแม่น้ำ  เลยให้ทหารนำเอาโซ่มาขึงแทนสะพานให้ทหารทั้งกองทัพปีนป่ายข้ามไป


* 46.jpg (335.96 KB, 577x1000 - ดู 42 ครั้ง.)

* 47.jpg (289.89 KB, 1200x479 - ดู 43 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #34 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2016, 12:58:38 PM »

เราแวะกินข้าวข้างทางระหว่างทางไปซินตูเฉียว   บริเวณนี้เป็นลักษณะสามแยก  ซึ่งมาครั้งที่แล้วเมื่อ 2 ปีก่อน  พวกเราก็มากินข้าวกันที่นี่เหมือนกัน   แต่คนล่ะร้านกัน 


* 48.JPG (331.94 KB, 1000x675 - ดู 42 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #35 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2016, 12:59:47 PM »

กินข้าวแล้วเดินทางต่อโดยเลี้ยวซ้ายที่สามแยกเข้าถนน S215 หลังจากที่เรานั่งรถมาอีกไม่นานนัก  เราก็เจอรถติดยาวเป็นกิโลๆบนยอดเขาสูง  ซึ่งตลอดทั้งวันนี้  เราเดินทางอยู่บนเขาสูงมาตลอดเส้นทาง  ความสูงอยู่ระหว่าง 4000-4500 เมตรจากระดับน้ำทะเล    แรกๆที่รถติดเราทุกคนเข้าใจว่ามันคงมีอุบัติเหตุข้างหน้า  สักพักเมื่อเคลียร์เหตุออกก็คงเดินทางต่อไปได้  แต่แล้วเราต้องนั่งรอกันอยู่บนรถนานนับชั่วโมงจึงทำให้พวกเราเริ่มกระสับกระส่าย  ผมลงจากรถแล้วลองเดินไปข้างหน้าเพื่อจะสืบดูว่ามันเกิดเหตุอะไรนักหนา  ถึงได้ติดมหาวินาศสันตะโรขนาดนี้   ก็พบว่า  มันไม่ใช่อุบัติเหตุครับ  แต่ทางกรมทางหลวงของจีนกำลังอัดผิวถนนใหม่   จึงปิดถนนไม่ให้รถผ่านทั้งขาไปและขากลับ  โอ้...แม่จ้าว....  มันคิดได้ไงฟ๊ะ


* 49.JPG (274.5 KB, 1000x675 - ดู 41 ครั้ง.)

* 51.JPG (236.4 KB, 1000x675 - ดู 41 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #36 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2016, 01:01:06 PM »

พวกเราต้องรอจนกว่ากรมทางหลวงเค้าเลิกงานตอน 5 โมงเย็น  พวกช่างกรมทางจึงเก็บเครื่องมือทำงานแอบลงข้างถนน ปล่อยให้รถผ่านได้  สรุปว่าพวกเราจึงต้องเสียเวลาไปกะการซ่อมถนนของจีนไป 3 ชั่วโมงเต็มๆ  ดังนั้น  วันนั้นกว่าพวกเราจะเดินทางไปถึงเมืองซินตูเฉียวก็ปาเข้าไป 3 ทุ่มแล้ว  ไอ้ที่บอกว่าจะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีเหลืองอร่ามอย่างงดงามจนถูกยกย่องจากบรรดานักถ่ายภาพชาวจีนว่าเมืองซินตูเฉียวเป็นสวรรค์ของช่างภาพ  ก็เป็นอันว่าหมดไป   แต่ถึงพวกเราจะมาทันเวลา ผมก็ว่าคงได้เห็นแต่ใบไม้เขียวๆอีกนั่นแหละ เพราะดูแล้วมันยังไม่เปลี่ยนสีนั่นเอง  เพราะเรามาผิดฤดูก่อนที่อาทิตย์จะลับเหลี่ยมเขาลงไปก็ได้ทอแสงจับยอดเขาหิมะลูกหนึ่งสะท้อนแสงสีทองงามอร่ามตา  ในยามโพล้เพล้ มันช่างสวยงามจับใจยิ่งนัก  พวกเราหลายคนเรียกร้องให้ พขร. จอดรถ  แต่ พขร.ไม่ยอมจอดรถอีกแล้ว  เพราะตอนที่เรารอซ่อมถนน เราเสียเวลามามากเกินไปแล้ว  ดังนั้นทุกคนจึงต้องถ่ายผ่านกระจกรถสถานเดียว  เมื่อเล็งไปเล็งมา  ผมก็จำได้ว่า มันก็คือยอดเขา “ยาลา” ที่เราจอดถ่ายเมื่อตอนบ่ายนั่นเอง และก่อนมืดสนิท  รถได้เลี้ยวขวาอีกครั้งเข้าสู่เส้นทาง G318  มุ่งหน้าตรงสู่เมืองซินตูเฉียว


* 52.JPG (297.65 KB, 1000x675 - ดู 42 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #37 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2016, 01:03:39 PM »

เมื่อเข้ามาถึงโรงแรมที่พักในเมืองซินตูเฉียว  ปรากฏว่า พนักงานโรงแรมบอกว่าให้พวกเรารีบๆเข้าไปกินข้าวที่ห้องอาหารกันก่อนเลย  เพราะห้องอาหารจะปิดแล้ว  พวกเราจึงเฮเข้าห้องอาหาร  ส่วนคนขับกับไกด์ก็ไปเคลียร์เอากระเป๋าเดินทางของพวกเราลงจากรถ ไปวางรอไว้ในล๊อปบี้ก่อน   พอพวกเรากินข้าวเสร็จกลับมาถามหากุญแจห้อง  พนักงานโรงแรมถึงบอกว่าห้องของพวกเราที่ทางบริษัททัวร์จองไว้มันอยู่ทางด้านหลัง  ต้องขึ้นรถเข้าไปอีกหลายร้อยเมตร  เอาล่ะซี...  เจ้า Ricky มันทำหน้ายังกะถูกผีหลอก  เพราะมันเพิ่งจะเหนื่อยจากการขนกระเป๋าของพวกเราลง  แล้วนี่มันจะต้องขนกระเป๋าขึ้นรถเพื่อจะได้ไปลงที่ห้องนอนของพวกเราอีกที  มันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ซะให้ได้  ยังดีที่พนักงานโรงแรมมาเห็นสีหน้ามันเข้าแล้วมองเห็นกองสัมภาระของพวกเราก็เข้าใจ   พนักงานนั่นจึงรับอาสาว่าจะไปเอารถปิคอัฟมาขนกระเป๋าให้ก็แล้วกัน  ผมก็ได้แต่นึกค่อนขอดมันในใจว่า   เจ้า Rickyเอ๋ย....  ก่อนมา  แกไม่ได้ทำการบ้านมาก่อนมั่งเหรอไงฟ๊ะ  ถึงไม่รู้ว่าที่โรงแรมนี้ ที่พักมันอยู่ด้านในลึกเข้าไป  เมื่อผมเข้าไปเห็นที่พักของคืนนี้  ก็ส่ายหัวเลย  เพราะมันคือ ตู้คอนเทรนเน่อร์ที่ใช้ส่งสินค้าทางเรือนั่นเอง   แล้วนำตู้นั่นมาดัดแปลงให้เป็นห้องนอน  ฉะนั้นก็คิดได้เลยว่ามันคงคับแคบมาก เพราะตู้คอนเทรนเน่อร์  อย่างดีมันก็กว้างเพียง 3 เมตรเท่านั้น  เมื่อต้องเข้าไปอยู่ในตู้แคบๆ  ผมก็รู้สึกอึดอัด แถมพื้นห้องก็ปูด้วยไม้บางๆ  เวลาเดินที มันจึงสั่นไปทั้งห้อง  เวลากลางคืนหนาวๆอย่างนี้  ผมจะต้องลุกขึ้นฉี่หลายครั้ง ก็เกรงใจเพื่อนร่วมห้องสิครับ  แถมซวยหนักเข้าไปอีกที่ เตียงของผมดันไม่มีที่นอนไฟฟ้า  คืนนี้ผมได้นอนหนาวจนปอดบวมแน่ๆ  กรรม


* 53.JPG (282.29 KB, 1000x673 - ดู 42 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #38 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2016, 01:06:14 PM »

เช้าตีสี่กว่าๆ  มีคนมาร้องเรียกว่าสนใจจะออกไปถ่ายดาวบ้างไหม   ผมนึกขำในใจ  อยากถ่ายดาวคงไม่ต้องถ่อสังขารมาถ่ายถึงซินตูเฉียวก็ได้มั้ง  ถ่ายที่เมืองไทย ไม่ต้องทรมานหนาวขนาดนี้ก็ได้ดาวเหมือนๆกันนั่นแหละ  ผมยกโทรศัพท์ขึ้นดู  มันบอกว่าอุณหภูมิ 3 องศาพอดี   มันก็คงเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว  เพราะเมืองซินตูเฉียวอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลราวๆ 3400 เมตร  ความสูงขนาดนั้น บวกกับอย่างเข้าต้นฤดูหนาวอย่างนี้  มันก็ต้องหนาวเป็นธรรมดาอยู่แล้ว  กดดูอุณหภูมิแล้วผมก็เอาตัวซุกไปใต้ผ้าห่มนวมต่อไปโดยไม่สนใจดงดาวอะไรอีก  แถมวันนี้ไกด์บอกว่าจะปลุกเช้ากว่าทุกวัน  เพราะวันนี้ต้องเดินทางไกล 400 กว่ากิโล  กลัวว่าจะมืดค่ำกลางทางซะก่อน จึงต้องออกแต่เช้าๆหน่อย  แต่นั่นมันไม่ใช่ปัญหาของพวกเราอยู่แล้ว  จะเช้าแค่ไหนก็ขอให้บอกเท่านั้น  แต่...เอ๊ะ  ในรายการทัวร์  บอกว่าวันที่นอนอยู่ที่ซินตูเฉียวต้องตื่นแต่เช้าไปล่าแสงเช้าที่จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นนี่นา   สรุปว่ามันได้หายไปแล้วใช่ป่ะ  ไม่ได้ไปจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นแล้วใช่ป่ะ  ทั้งผู้จัด ทั้งไกด์ก็ไม่ได้พูดถึงอีกเลย


* 54.JPG (320.72 KB, 1000x673 - ดู 41 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #39 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2016, 01:10:35 PM »

ตามรายการวันที่ 4  วันอังคารที่ 11 ตุลาคม 2559
ตามโปรแกรมเดิม  รายการมีไว้ดังนี้ครับ
“หลังอาหารเช้าที่โรงแรม  เตรียมตัวออกเดินทางสู่ดินแดนที่เต็มไปด้วยภูเขาสูงสู่จุดหมายที่เรียกว่าเต้าเฉิง   ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง เส้นทางจะผ่านเมือง “หลี่ถัง” ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 4014 เมตร  นับเป็นเมืองที่อยู่บนพื้นที่สูงที่สุดในประเทศจีน และส่วนใหญ่เป็นที่อยู่ของชาวทิเบต ที่มีวัฒนธรรมและประเพณีเก่าแก่  มองเห็นวัดทิเบตได้ตลอดเส้นทาง  แวะถ่ายภาพวิถีชีวิตของชาวทิเบตที่พบเห็นตามจุดต่างๆที่เหมาะสม   หลังจากผ่านเมืองออกไปจะผ่านทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ไพศาล  รายล้อมด้วยภูเขาสูงที่มีหิมะขาวโพลนปกคลุมตลอดทั้งปี และผ่านด่านกลาเซียร์หรือธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพื้นที่ของชาวทิเบต   การเดินทางจะสิ้นสุดลงที่เมืองเต้าเฉิง   ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลราวๆ 3700 เมตร  ในวันนี้พักผ่อนให้เต็มที่เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ย่าติ่งในวันรุ่งขึ้น”

จากรายการ จะเห็นว่าวันนี้มีแต่รายการเดินทางทั้งวัน  แทบไม่มีรายการถ่ายภาพแต่อย่างใด  ยกเว้นว่าจะแวะเป็นรายทางที่ไม่ได้กำหนดตายตัวเป็นจุดท่องเที่ยว  แถมต้องเดินทางกันถึง 8 ชั่วโมง  ฉะนั้นวันนี้ไกด์จึงนัดปลุก 5.45น. กินข้าว 6.30น. และล้อหมุน 7.15น.  ผมรู้สึกดีใจที่วันนี้ไกด์ยอมทำงานก่อนเวลาเล็กน้อย  โดยปกติผมเป็นคนที่ทำธุระส่วนตัวค่อนข้างเร็ว  ฉะนั้น ราว 6 โมงเช้าผมจึงเรียบร้อยก่อนจะออกไปเดินเอากล้องส่องอะไรต่อมิอะไรรอบๆบริเวณที่พัก และพบกับเพื่อนๆร่วมทริปที่มาด้วยกันที่ทยอยๆกันออกจากห้องมาถ่ายภาพยามเช้าๆกัน  พอได้เวลา 6.30น.  พวกเราก็เดินไปห้องอาหารของโรงแรมที่อยู่ด้านหน้า  และรีบๆทำเวลาเพราะเกรงใจเจ้า  Ricky ที่สั่งเอาไว้นักหนาว่าต้องออกเดินทางกันแต่เช้า  แต่กว่าที่พวกเราจะเห็นหน้านาย  Ricky เดินนวยนาดเข้ามาล๊อปบี๊ของโรงแรม ก็ปาเข้าไป 7.15น.เข้าไปแล้ว  มาถึงแล้ว พ่อเจ้าประคุณทั้งไกด์ทั้ง พขร. ก็เข้าไปหม่ำอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรมอีก  (โดยปกติที่ไปกับทัวร์มามากครั้ง  ไกด์และคนขับรถมักจะกินข้าวเช้าก่อนลูกทัวร์เสมอ  พอลูกทัวร์พร้อมก็เดินทางได้ทันที  แต่นี่เพิ่งจะครั้งแรก ที่ลูกทัวร์พร้อมแต่ไกด์ยังไม่พร้อม)  กว่าแกจะกินข้าวเสร็จ  ค่อยออกมาว่าจะเอากระเป๋าของพวกเราขึ้นรถ  แต่วันนี้ ที่พักของเราอยู่ด้านหลัง  ซึ่งต้องผ่านเส้นทางที่โรยด้วยหินคลุก ไม่ได้ราบเรียบเหมือนพื้นซีเมนต์   ฉะนั้นพวกเราจึงไม่มีปัญญาจะหิ้วกระเป๋าใบโตๆของพวกเราออกมาที่ล๊อปบี๊ได้   พวกเราจึงยังคงวางเอาไว้ที่หน้าห้องพักของเรานั่นเอง  เมื่อเป็นเช่นนี้  เจ้า Ricky จึงต้องให้คนขับรถ เอารถไปรับกระเป๋าทีล่ะใบที่หน้าห้องพักของลูกทัวร์ทีล่ะห้อง  พอกระเป๋ามันไม่ได้มาพร้อมกัน  การจัดกระเป๋าที่ห้องเก็บสัมภาระมันจึงมั่วไปหมด  ใบที่ควรขึ้นก่อน ก็ดันยังไม่มา  ใบที่ควรขึ้นทีหลังก็ดันเก็บเอามาขึ้นก่อน  จึงสลับตำแหน่งมั่วไปหมด  เมื่อตำแหน่งเปลี่ยนไป  มันจึงจัดไม่ลงตัว  เหลือกระเป๋าอีก 4-5 ใบที่ใส่ไม่ลง  ครั้นจะเอาขึ้นข้างบนอย่างวันแรกที่สนามบินก็ทำไม่ได้  เพราะวันนี้ต้องเดินทางไกล ขืนมีกระเป๋าใบใหญ่ๆไปเกะกะอยู่ข้างบนพวกเราคงไม่สนุกแน่ๆ  เหตุการณ์ที่ต้องรื้อกระเป๋าเข้าๆออกๆเป็นอย่างนี้มาเกือบทุกเช้าก็ว่าได้  วันนี้ก็เช่นกัน  เมื่อจัดแล้วไม่ลงตัว  ก็รื้อกระเป๋าทั้งหมดลงมาใหม่ จัดใหม่อีกที  พอจัดแล้วยังไม่ลงตัวก็ต้องรื้อออกจัดใหม่จนกว่าจะลงตัว เจ้า Ricky บ่นว่าเหนื่อยกับการจัดกระเป๋ามาก  แต่จำไม่ได้สักทีว่าใบไหนต้องอยู่ตรงไหนมันถึงจะลงตัว  จึงมีลูกทัวร์คนหนึ่งไปสอนว่า  เมื่อจัดลงตัวแล้วก็ให้เอากล้องโทรศัพท์ถ่ายภาพเอาไว้เสียสิ  พรุ่งนี้จะได้จัดให้เหมือนเดิมตามภาพแค่นั้น  เจ้า Ricky ลืมตาโพงเอามือตบกระบาลตัวเอง บ่นว่า โง่มาตั้งหลายวัน  เออ.... กะอีแค่ปัญหากล้วยๆแค่นี้  เอ็งยังจนปัญญา  ชักสงสัยเสียแล้วสิว่าเอ็งเคยเป็นไกด์มาจริงๆเปล่าวะเนี่ย.....

(ช่วงหนึ่งของเส้นทางที่รถวิ่งผ่านไป มองเห็นถนนที่เพิ่งจะผ่านมาอยู่ลิบๆเบื้องล่างโน่นครับ  และสภาพถนนเป็นเช่นนี้ตลอดเส้นทาง)


* 55.JPG (255.27 KB, 1000x673 - ดู 42 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #40 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2016, 03:58:51 PM »


สุดท้าย.... กว่าจะขยับก้นออกจากโรงแรมได้ก็ปาเข้าไป 9 โมงเช้าเหมือนทุกๆวันที่ผ่านมาอีกนั่นแหละ  เช้าตรงไหน  แสดงให้เห็นถึงความอ่อนหัดของไกด์ได้ชัดเจนเลย  วันนี้เราจับเส้นทาง G318 ต่อจากเมื่อวานมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเหมือนเดิม  ตลอดเส้นทางที่พวกเราออกจากเมืองเฉิงตูมา   รถของพวกเราก็วิ่งอยู่บนภูเขาสูงมาโดยตลอดฉะนั้น สองฟากข้างทางเราจึงพบเห็นฝูงวัวจามรีเป็นระยะๆ  เจ้าของวัวคงจะเป็นพวกชนชาวทิเบตเพราะผมเห็นกระโจมลักษณะกลมๆกางอยู่ทั่วไป   แต่เท่าที่สังเกต ผมว่ามีกระโจมส่วนหนึ่งที่เจ้าของกำลังถอดถอนกระโจมของพวกเค้าเพื่ออพยพย้ายถิ่นหนีหนาวกันแล้วเหมือนกัน  บนยอดเขาสูงเช่นนี้  ส่วนใหญ่สูงมากกว่า 4000 เมตร  และบางช่วงที่สูงกว่า 5000 เมตรด้วยซ้ำ  หากเข้าหนาวเต็มๆแล้วคงมีแต่หิมะขาวโพลนไปทั่วทุกแห่งหน   เมื่อถึงเวลานั้น นอกจากจะหนาวทรมานสุดๆแล้ว  อาหารของสัตว์ประเภทวัว เช่นหญ้า คงไม่มีเหลือ  หากไม่อพยพสัตว์ลงที่ต่ำ  ต่อให้เป็นวัวจามรีก็เถอะ  คงยากที่จะมีชีวิตรอดอยู่ได้   


* 56.JPG (312.02 KB, 1000x673 - ดู 42 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #41 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2016, 04:01:10 PM »

เราผ่านกลาเซียร์หรือที่เรียกว่า ธารน้ำแข็ง  แต่เวลานี้น้ำในลำธารยังไม่แข็งตัว  เลยยังไม่มีอะไรน่าสนใจนัก  ประกอบกับมีฝนตกปรอยๆด้วย  ไกด์ถามพวกเราว่าจะลงไปถ่ายรูปกันไหม ทุกคนจึงพร้อมใจกันส่ายหน้า  ภูมิประเทศแถบนี้มันดูแปลกๆคือ  บนยอดเขาที่ผ่านไป  มองไปทางไหนก็เจอแต่ลูกหินกลิ้งเต็มพื้นไปหมด   บนยอดเขาก็ไม่มีต้นไม้สักต้น  ดูแห้งแล้ง  จะมีก็เพียงต้นหญ้าเล็กๆที่มีขึ้นอยู่ประปลายตามซอกหิน  แต่เวลานี้ก็เ***่ยวเฉาเตรียมตัวต้อนรับฤดูหนาวที่กำลังจะคืบคลานเข้ามาในไม่ช้านี้แล้ว 


* 57.JPG (149.73 KB, 667x1000 - ดู 42 ครั้ง.)

* 58.JPG (254.53 KB, 1000x673 - ดู 42 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #42 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2016, 04:02:05 PM »

พวกเราตะลอนกันมาจนกระทั่งบ่าย 2 โมงกว่าจึงมาถึงเมือง “หลี่ถัง”


* 59.JPG (237.85 KB, 675x1000 - ดู 42 ครั้ง.)

* 60.JPG (284.62 KB, 1000x673 - ดู 41 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #43 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2016, 04:04:37 PM »

รถเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทาง S217  จากนั้น ไกด์พาพวกเราลงกินข้าวเที่ยงที่นี่  หลายคนอยากเข้าห้องน้ำ  แต่เป็นเรื่องแปลกแต่จริงของเมืองจีนก็คือ  ร้านอาหารโดยส่วนใหญ่จะไม่มีห้องน้ำไว้บริการ  ไกด์พาไปเข้าห้องน้ำของสถานที่ราชการแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆร้านอาหาร  เมื่อเดินเข้าไปใกล้ห้องน้ำ (ส้วม)  ผมก็ต้องอุดจมูกเดินถอยฉากออกมา  ทีแรกคิดว่าจะหาที่แอ่นเอาข้างๆห้องน้ำน่าจะดีกว่า  แต่เมื่อมันเป็นสถานที่ราชการ  ผมจะไปแอ่นสุ่มสี่สุ่มห้าก็เกรงใจ   ในที่สุดเลยตัดสินใจอั้นเก็บเอาไว้ก่อน   กลับไปกินข้าวเที่ยง  แต่กินไปได้เพียงไม่กี่คำ  ข้าศึกดันจะบุกพังประตูหลังเข้าอีก  อีทีนี้ ไม่เข้าก็ต้องเข้าแล้ว  ผมวางตะเกียบลง  เดินเหยาะย่างกลับไปที่ห้องดับจิตนั่นอีกครั้ง  กลั้นใจเดินเข้าไปข้างในของโซนห้องน้ำชาย   ก็พบกับพ่อยอดชายทิเบตกำลังใช้บริการอยู่ในนั้น 2 ท่าน


* 61.JPG (270.16 KB, 1000x674 - ดู 41 ครั้ง.)

* 62.JPG (286.93 KB, 1000x563 - ดู 42 ครั้ง.)

* 63.jpg (257.84 KB, 1000x757 - ดู 42 ครั้ง.)

* 64.jpg (223.43 KB, 1000x635 - ดู 42 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #44 เมื่อ: ธันวาคม 25, 2016, 04:06:07 PM »

ตรงนี้ผมขออนุญาตขยายภาพห้องน้ำในเมืองจีนให้ท่านๆทั้งหลายได้เห็นภาพชัดขึ้นอีกสักนิดนะครับ  คือห้องน้ำชายของจีน โดยเฉพาะที่เป็นแบบบ้านนอกๆ  จะเป็นส้วมหลุมที่ขุดดินเป็นหลุมกลมๆขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ 1 เมตร  เอาไม้กระดานวางพาดผ่านปากหลุมสองแผ่น (ส่วนใหญ่เป็นแผ่นพื้นสำเร็จที่หล่อจากปูน) เปิดช่องตรงกลางให้สมบัติอันล้ำค่าหล่นลงไปได้  สามารถมองลงไปที่ก้นหลุมได้และจะเห็นสมบัติของใครต่อใครที่เอามาฝากไว้เยอะแยะ  มีแมลงวันทั้งหัวเขียว หัวเหลือง หัวแดง  ตอมกันหึ่งทีเดียว  ในห้องอาจจะมีหลุมหลายหลุม แต่ล่ะหลุมก็จะก่อผนังปูนกั้นแสดงอาณาเขตของหลุมคล้ายๆโถปัสสาวะของห้องน้ำชายตามปั๊มที่เมืองไทยนั่นแหละ  แต่สูงจากพื้นราวๆ 1 เมตร ทั้งสองฝั่ง ซ้าย-ขวา ไม่มีประตูปิดแต่อย่างใด  ฉะนั้นเมื่อเข้าไปนั่งยองๆทำภารกิจแล้วหากเป็นพรรคพวกเดียวกัน  ก็ยังหันหน้าไปคุยกันได้  และใครที่ผ่านเข้า ผ่านออกก็จะเห็นว่าเรายังนั่งอยู่ ไม่ได้ตกลงไปในหลุมแต่อย่างใด  เวลาจะใช้  ก็เดินเข้าไปยืนบนกระดานสองแผ่นนั่น แล้วหมุนตัวหันหน้าออก  ถอดสิ่งกีดขวางทางข้าศึกออกลงนั่งยองๆ แล้วเล็งช่องทางลูกระเบิดว่าตรงช่องระหว่างไม้กระดานเป็นอันใช้ได้  แค่นั้น  เวลาทำภารกิจก็อย่าเล่นลวดลายอะไรมาก  มิฉะนั้นอาจจะพลัดตกลงไปกองรวมกับมหาสมบัติที่ก้นหลุมได้
เมื่อผมย่างเข้าไปเจอกับเจ้าของพื้นที่ 2 ท่านอย่างที่ว่า   ผมจึงสะดุ้งสุดตัวว่าทำไมเค้าทำอะไรประเจิดประเจ้ออย่างนี้ว๊ะ  ประตงประตูก็ไม่ปิด   แต่เจ้าสองคนนั่นไม่สะดุ้งสะเทือนอะไรเลย  พี่แกคนหนึ่งนั่งกดโทรศัพท์แชตคุยกับสาวหน้าตาเฉย  ส่วนอีกคนก็กำลังเล่นเกมส์ออนไลน์ยิงกันอีล้งช้งเช้งดังสนั่นหวั่นไหว  ผมจึงต้องทำกระมิดกระเมี้ยน กลั้นหายใจค่อยๆปลดเข็มขัดออกทำวิธีเดียวกับเขาสองคนคือ หันหน้าออก  ปลดลูกระเบิดทิ้งลงพื้นปฐพีไป  ส่วนมันจะไปลงหัวใครก็ช่างหัวมัน  และผมต้องทำเวลาให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้  เพราะผมรู้สึกว่าออกซิเจนภายในห้องเหมือนมันกำลังจะหมดไป  ขืนอยู่นานผมอาจเป็นลมเป็นแล้งกลิ้งตกลงไปกองรวมกับมหาสมบัติอันล้ำค่าข้างล่างโน่นก็เป็นได้  และอีกอย่างที่ต้องจดจำให้มั่นๆ  นั่นก็คือ  ภายในห้องน้ำ  จะไม่มีกระดาษชำระ หรือน้ำล้างใดๆทั้งสิ้น  หากท่านต้องใช้บริการจากห้องน้ำแบบนี้   ท่านจะต้องเตรียมทุกอย่างที่จำเป็นเข้าไปเองเท่านั้น
ผมใช้เวลาไปราว 3 นาที  ผมก็รีบเผ่นออกมาตั้งหลักข้างนอก   ไอ้ครั้นจะเดินกลับไปกินข้าวเที่ยงต่อก็เห็นจะกลืนอะไรไม่ลงเสียแล้ว  ผมเลยเดินเอาโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพดอกคอสมอส  ดอกไม้ในสวนของสถานที่ราชการแห่งนั้นแทนไปจนกว่าไกด์จะมาตามให้ไปขึ้นรถ


* 65.jpg (297.97 KB, 1000x755 - ดู 43 ครั้ง.)

* 66.jpg (279.74 KB, 1000x755 - ดู 42 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 25, 2016, 04:08:33 PM โดย FRW » แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป

หน้า: « 1 2 3 4 5 6 7 8 »   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 

กระโดดไป:  

T--shirt Motor CRC