กุมภาพันธ์ 06, 2025, 08:44:42 PM
หน้าแรก
|
ช่วยเหลือ
|
เข้าสู่ระบบ
|
สมัครสมาชิก
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ชมรมภาพถ่ายสมุทรปราการ
»
Gallery
»
Landscape
»
ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
หน้า:
«
1
2
3
4
5
6
7
8
»
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
ผู้เขียน
ข้อความ
0 สมาชิก และ 10 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
«
ตอบ #30 เมื่อ:
ธันวาคม 25, 2016, 09:17:37 AM »
แถมที่ข้างๆสถานีบริการ ไม่รู้ใครเอารูปหล่อทองเหลือง ทาสีพิลึกพิลั่นไปตั้งไว้ มีทั้งท่าทางปีนเขา ปั่นจักรยาน ฯลฯ คงเอาไว้เป็นสัญญลักษณ์ของการท่องเที่ยวที่นี่มั้ง
38.JPG
(337.58 KB, 674x1000 - ดู 43 ครั้ง.)
Share
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
«
ตอบ #31 เมื่อ:
ธันวาคม 25, 2016, 09:19:19 AM »
เรายังใช้เส้นทาง S303 กันต่อไป ไม่นานนักพวกเราก็เรียกร้องให้ พขร.จอดรถ เพราะเล็งเห็นทิวเขาหิมะข้างทาง และเมื่อรถจอดแล้วผมก็จำได้ว่า ภูเขาหิมะลูกนี้ ผมเคยมาเมื่อสองปีก่อน ภูเขาที่ชื่อ “ยาลา” นั่นเอง
41.jpg
(383.29 KB, 1200x421 - ดู 43 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
«
ตอบ #32 เมื่อ:
ธันวาคม 25, 2016, 09:20:44 AM »
พวกเราเสียเวลากันราวครึ่งชั่วโมง เสียงของเจ้าRicky ก็ตะโกนขึ้นว่า “ไปได้เลี้ยว.. ไปได้เลี้ยว...” ก็ไม่รู้ใครไปสอนภาษาไทยให้มันเหมือนกัน
40.JPG
(342.2 KB, 1000x673 - ดู 43 ครั้ง.)
42.JPG
(334.31 KB, 1000x673 - ดู 42 ครั้ง.)
43.jpg
(343.42 KB, 1000x674 - ดู 41 ครั้ง.)
44.JPG
(362.66 KB, 1000x673 - ดู 42 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
«
ตอบ #33 เมื่อ:
ธันวาคม 25, 2016, 12:56:54 PM »
รถมาจอดแวะพักรถที่จุดนี้ เมื่อราว 2 ปีที่แล้ว เราก็มาแวะพักรถตรงนี้เหมือนกัน มีห้องน้ำบริการแต่กลิ่นก็ยังไม่เคยปรับปรุงมากนัก แต่นับว่าห้องน้ำที่นี่ดีกว่าห้องน้ำสาธารณะที่ไหนๆแล้วครับ
ที่ริมน้ำ มีสิ่งก่อสร้างโบราณ จะว่าเป็นอนุเสาวรีก็ไม่เชิง ขึงโซ่เส้นใหญ่ๆหลายเส้น ดูแล้วก็ไม่เข้าใจว่าจะขึงไว้ทำประโยชน์อะไร ไกด์จึงอธิบายว่าในสมัยเหมาเจ๋อตุงเดินทัพทางไกล ต้องผ่านแม่น้ำแห่งนี้ ไม่มีสะพานข้ามแม่น้ำ เลยให้ทหารนำเอาโซ่มาขึงแทนสะพานให้ทหารทั้งกองทัพปีนป่ายข้ามไป
46.jpg
(335.96 KB, 577x1000 - ดู 42 ครั้ง.)
47.jpg
(289.89 KB, 1200x479 - ดู 43 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
«
ตอบ #34 เมื่อ:
ธันวาคม 25, 2016, 12:58:38 PM »
เราแวะกินข้าวข้างทางระหว่างทางไปซินตูเฉียว บริเวณนี้เป็นลักษณะสามแยก ซึ่งมาครั้งที่แล้วเมื่อ 2 ปีก่อน พวกเราก็มากินข้าวกันที่นี่เหมือนกัน แต่คนล่ะร้านกัน
48.JPG
(331.94 KB, 1000x675 - ดู 42 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
«
ตอบ #35 เมื่อ:
ธันวาคม 25, 2016, 12:59:47 PM »
กินข้าวแล้วเดินทางต่อโดยเลี้ยวซ้ายที่สามแยกเข้าถนน S215 หลังจากที่เรานั่งรถมาอีกไม่นานนัก เราก็เจอรถติดยาวเป็นกิโลๆบนยอดเขาสูง ซึ่งตลอดทั้งวันนี้ เราเดินทางอยู่บนเขาสูงมาตลอดเส้นทาง ความสูงอยู่ระหว่าง 4000-4500 เมตรจากระดับน้ำทะเล แรกๆที่รถติดเราทุกคนเข้าใจว่ามันคงมีอุบัติเหตุข้างหน้า สักพักเมื่อเคลียร์เหตุออกก็คงเดินทางต่อไปได้ แต่แล้วเราต้องนั่งรอกันอยู่บนรถนานนับชั่วโมงจึงทำให้พวกเราเริ่มกระสับกระส่าย ผมลงจากรถแล้วลองเดินไปข้างหน้าเพื่อจะสืบดูว่ามันเกิดเหตุอะไรนักหนา ถึงได้ติดมหาวินาศสันตะโรขนาดนี้ ก็พบว่า มันไม่ใช่อุบัติเหตุครับ แต่ทางกรมทางหลวงของจีนกำลังอัดผิวถนนใหม่ จึงปิดถนนไม่ให้รถผ่านทั้งขาไปและขากลับ โอ้...แม่จ้าว.... มันคิดได้ไงฟ๊ะ
49.JPG
(274.5 KB, 1000x675 - ดู 41 ครั้ง.)
51.JPG
(236.4 KB, 1000x675 - ดู 41 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
«
ตอบ #36 เมื่อ:
ธันวาคม 25, 2016, 01:01:06 PM »
พวกเราต้องรอจนกว่ากรมทางหลวงเค้าเลิกงานตอน 5 โมงเย็น พวกช่างกรมทางจึงเก็บเครื่องมือทำงานแอบลงข้างถนน ปล่อยให้รถผ่านได้ สรุปว่าพวกเราจึงต้องเสียเวลาไปกะการซ่อมถนนของจีนไป 3 ชั่วโมงเต็มๆ ดังนั้น วันนั้นกว่าพวกเราจะเดินทางไปถึงเมืองซินตูเฉียวก็ปาเข้าไป 3 ทุ่มแล้ว ไอ้ที่บอกว่าจะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีเหลืองอร่ามอย่างงดงามจนถูกยกย่องจากบรรดานักถ่ายภาพชาวจีนว่าเมืองซินตูเฉียวเป็นสวรรค์ของช่างภาพ ก็เป็นอันว่าหมดไป แต่ถึงพวกเราจะมาทันเวลา ผมก็ว่าคงได้เห็นแต่ใบไม้เขียวๆอีกนั่นแหละ เพราะดูแล้วมันยังไม่เปลี่ยนสีนั่นเอง เพราะเรามาผิดฤดูก่อนที่อาทิตย์จะลับเหลี่ยมเขาลงไปก็ได้ทอแสงจับยอดเขาหิมะลูกหนึ่งสะท้อนแสงสีทองงามอร่ามตา ในยามโพล้เพล้ มันช่างสวยงามจับใจยิ่งนัก พวกเราหลายคนเรียกร้องให้ พขร. จอดรถ แต่ พขร.ไม่ยอมจอดรถอีกแล้ว เพราะตอนที่เรารอซ่อมถนน เราเสียเวลามามากเกินไปแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงต้องถ่ายผ่านกระจกรถสถานเดียว เมื่อเล็งไปเล็งมา ผมก็จำได้ว่า มันก็คือยอดเขา “ยาลา” ที่เราจอดถ่ายเมื่อตอนบ่ายนั่นเอง และก่อนมืดสนิท รถได้เลี้ยวขวาอีกครั้งเข้าสู่เส้นทาง G318 มุ่งหน้าตรงสู่เมืองซินตูเฉียว
52.JPG
(297.65 KB, 1000x675 - ดู 42 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
«
ตอบ #37 เมื่อ:
ธันวาคม 25, 2016, 01:03:39 PM »
เมื่อเข้ามาถึงโรงแรมที่พักในเมืองซินตูเฉียว ปรากฏว่า พนักงานโรงแรมบอกว่าให้พวกเรารีบๆเข้าไปกินข้าวที่ห้องอาหารกันก่อนเลย เพราะห้องอาหารจะปิดแล้ว พวกเราจึงเฮเข้าห้องอาหาร ส่วนคนขับกับไกด์ก็ไปเคลียร์เอากระเป๋าเดินทางของพวกเราลงจากรถ ไปวางรอไว้ในล๊อปบี้ก่อน พอพวกเรากินข้าวเสร็จกลับมาถามหากุญแจห้อง พนักงานโรงแรมถึงบอกว่าห้องของพวกเราที่ทางบริษัททัวร์จองไว้มันอยู่ทางด้านหลัง ต้องขึ้นรถเข้าไปอีกหลายร้อยเมตร เอาล่ะซี... เจ้า Ricky มันทำหน้ายังกะถูกผีหลอก เพราะมันเพิ่งจะเหนื่อยจากการขนกระเป๋าของพวกเราลง แล้วนี่มันจะต้องขนกระเป๋าขึ้นรถเพื่อจะได้ไปลงที่ห้องนอนของพวกเราอีกที มันทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ซะให้ได้ ยังดีที่พนักงานโรงแรมมาเห็นสีหน้ามันเข้าแล้วมองเห็นกองสัมภาระของพวกเราก็เข้าใจ พนักงานนั่นจึงรับอาสาว่าจะไปเอารถปิคอัฟมาขนกระเป๋าให้ก็แล้วกัน ผมก็ได้แต่นึกค่อนขอดมันในใจว่า เจ้า Rickyเอ๋ย.... ก่อนมา แกไม่ได้ทำการบ้านมาก่อนมั่งเหรอไงฟ๊ะ ถึงไม่รู้ว่าที่โรงแรมนี้ ที่พักมันอยู่ด้านในลึกเข้าไป เมื่อผมเข้าไปเห็นที่พักของคืนนี้ ก็ส่ายหัวเลย เพราะมันคือ ตู้คอนเทรนเน่อร์ที่ใช้ส่งสินค้าทางเรือนั่นเอง แล้วนำตู้นั่นมาดัดแปลงให้เป็นห้องนอน ฉะนั้นก็คิดได้เลยว่ามันคงคับแคบมาก เพราะตู้คอนเทรนเน่อร์ อย่างดีมันก็กว้างเพียง 3 เมตรเท่านั้น เมื่อต้องเข้าไปอยู่ในตู้แคบๆ ผมก็รู้สึกอึดอัด แถมพื้นห้องก็ปูด้วยไม้บางๆ เวลาเดินที มันจึงสั่นไปทั้งห้อง เวลากลางคืนหนาวๆอย่างนี้ ผมจะต้องลุกขึ้นฉี่หลายครั้ง ก็เกรงใจเพื่อนร่วมห้องสิครับ แถมซวยหนักเข้าไปอีกที่ เตียงของผมดันไม่มีที่นอนไฟฟ้า คืนนี้ผมได้นอนหนาวจนปอดบวมแน่ๆ กรรม
53.JPG
(282.29 KB, 1000x673 - ดู 42 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
«
ตอบ #38 เมื่อ:
ธันวาคม 25, 2016, 01:06:14 PM »
เช้าตีสี่กว่าๆ มีคนมาร้องเรียกว่าสนใจจะออกไปถ่ายดาวบ้างไหม ผมนึกขำในใจ อยากถ่ายดาวคงไม่ต้องถ่อสังขารมาถ่ายถึงซินตูเฉียวก็ได้มั้ง ถ่ายที่เมืองไทย ไม่ต้องทรมานหนาวขนาดนี้ก็ได้ดาวเหมือนๆกันนั่นแหละ ผมยกโทรศัพท์ขึ้นดู มันบอกว่าอุณหภูมิ 3 องศาพอดี มันก็คงเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เพราะเมืองซินตูเฉียวอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลราวๆ 3400 เมตร ความสูงขนาดนั้น บวกกับอย่างเข้าต้นฤดูหนาวอย่างนี้ มันก็ต้องหนาวเป็นธรรมดาอยู่แล้ว กดดูอุณหภูมิแล้วผมก็เอาตัวซุกไปใต้ผ้าห่มนวมต่อไปโดยไม่สนใจดงดาวอะไรอีก แถมวันนี้ไกด์บอกว่าจะปลุกเช้ากว่าทุกวัน เพราะวันนี้ต้องเดินทางไกล 400 กว่ากิโล กลัวว่าจะมืดค่ำกลางทางซะก่อน จึงต้องออกแต่เช้าๆหน่อย แต่นั่นมันไม่ใช่ปัญหาของพวกเราอยู่แล้ว จะเช้าแค่ไหนก็ขอให้บอกเท่านั้น แต่...เอ๊ะ ในรายการทัวร์ บอกว่าวันที่นอนอยู่ที่ซินตูเฉียวต้องตื่นแต่เช้าไปล่าแสงเช้าที่จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นนี่นา สรุปว่ามันได้หายไปแล้วใช่ป่ะ ไม่ได้ไปจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นแล้วใช่ป่ะ ทั้งผู้จัด ทั้งไกด์ก็ไม่ได้พูดถึงอีกเลย
54.JPG
(320.72 KB, 1000x673 - ดู 41 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
«
ตอบ #39 เมื่อ:
ธันวาคม 25, 2016, 01:10:35 PM »
ตามรายการวันที่ 4 วันอังคารที่ 11 ตุลาคม 2559
ตามโปรแกรมเดิม รายการมีไว้ดังนี้ครับ
“หลังอาหารเช้าที่โรงแรม เตรียมตัวออกเดินทางสู่ดินแดนที่เต็มไปด้วยภูเขาสูงสู่จุดหมายที่เรียกว่าเต้าเฉิง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง เส้นทางจะผ่านเมือง “หลี่ถัง” ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 4014 เมตร นับเป็นเมืองที่อยู่บนพื้นที่สูงที่สุดในประเทศจีน และส่วนใหญ่เป็นที่อยู่ของชาวทิเบต ที่มีวัฒนธรรมและประเพณีเก่าแก่ มองเห็นวัดทิเบตได้ตลอดเส้นทาง แวะถ่ายภาพวิถีชีวิตของชาวทิเบตที่พบเห็นตามจุดต่างๆที่เหมาะสม หลังจากผ่านเมืองออกไปจะผ่านทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ไพศาล รายล้อมด้วยภูเขาสูงที่มีหิมะขาวโพลนปกคลุมตลอดทั้งปี และผ่านด่านกลาเซียร์หรือธารน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพื้นที่ของชาวทิเบต การเดินทางจะสิ้นสุดลงที่เมืองเต้าเฉิง ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลราวๆ 3700 เมตร ในวันนี้พักผ่อนให้เต็มที่เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ย่าติ่งในวันรุ่งขึ้น”
จากรายการ จะเห็นว่าวันนี้มีแต่รายการเดินทางทั้งวัน แทบไม่มีรายการถ่ายภาพแต่อย่างใด ยกเว้นว่าจะแวะเป็นรายทางที่ไม่ได้กำหนดตายตัวเป็นจุดท่องเที่ยว แถมต้องเดินทางกันถึง 8 ชั่วโมง ฉะนั้นวันนี้ไกด์จึงนัดปลุก 5.45น. กินข้าว 6.30น. และล้อหมุน 7.15น. ผมรู้สึกดีใจที่วันนี้ไกด์ยอมทำงานก่อนเวลาเล็กน้อย โดยปกติผมเป็นคนที่ทำธุระส่วนตัวค่อนข้างเร็ว ฉะนั้น ราว 6 โมงเช้าผมจึงเรียบร้อยก่อนจะออกไปเดินเอากล้องส่องอะไรต่อมิอะไรรอบๆบริเวณที่พัก และพบกับเพื่อนๆร่วมทริปที่มาด้วยกันที่ทยอยๆกันออกจากห้องมาถ่ายภาพยามเช้าๆกัน พอได้เวลา 6.30น. พวกเราก็เดินไปห้องอาหารของโรงแรมที่อยู่ด้านหน้า และรีบๆทำเวลาเพราะเกรงใจเจ้า Ricky ที่สั่งเอาไว้นักหนาว่าต้องออกเดินทางกันแต่เช้า แต่กว่าที่พวกเราจะเห็นหน้านาย Ricky เดินนวยนาดเข้ามาล๊อปบี๊ของโรงแรม ก็ปาเข้าไป 7.15น.เข้าไปแล้ว มาถึงแล้ว พ่อเจ้าประคุณทั้งไกด์ทั้ง พขร. ก็เข้าไปหม่ำอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรมอีก (โดยปกติที่ไปกับทัวร์มามากครั้ง ไกด์และคนขับรถมักจะกินข้าวเช้าก่อนลูกทัวร์เสมอ พอลูกทัวร์พร้อมก็เดินทางได้ทันที แต่นี่เพิ่งจะครั้งแรก ที่ลูกทัวร์พร้อมแต่ไกด์ยังไม่พร้อม) กว่าแกจะกินข้าวเสร็จ ค่อยออกมาว่าจะเอากระเป๋าของพวกเราขึ้นรถ แต่วันนี้ ที่พักของเราอยู่ด้านหลัง ซึ่งต้องผ่านเส้นทางที่โรยด้วยหินคลุก ไม่ได้ราบเรียบเหมือนพื้นซีเมนต์ ฉะนั้นพวกเราจึงไม่มีปัญญาจะหิ้วกระเป๋าใบโตๆของพวกเราออกมาที่ล๊อปบี๊ได้ พวกเราจึงยังคงวางเอาไว้ที่หน้าห้องพักของเรานั่นเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้า Ricky จึงต้องให้คนขับรถ เอารถไปรับกระเป๋าทีล่ะใบที่หน้าห้องพักของลูกทัวร์ทีล่ะห้อง พอกระเป๋ามันไม่ได้มาพร้อมกัน การจัดกระเป๋าที่ห้องเก็บสัมภาระมันจึงมั่วไปหมด ใบที่ควรขึ้นก่อน ก็ดันยังไม่มา ใบที่ควรขึ้นทีหลังก็ดันเก็บเอามาขึ้นก่อน จึงสลับตำแหน่งมั่วไปหมด เมื่อตำแหน่งเปลี่ยนไป มันจึงจัดไม่ลงตัว เหลือกระเป๋าอีก 4-5 ใบที่ใส่ไม่ลง ครั้นจะเอาขึ้นข้างบนอย่างวันแรกที่สนามบินก็ทำไม่ได้ เพราะวันนี้ต้องเดินทางไกล ขืนมีกระเป๋าใบใหญ่ๆไปเกะกะอยู่ข้างบนพวกเราคงไม่สนุกแน่ๆ เหตุการณ์ที่ต้องรื้อกระเป๋าเข้าๆออกๆเป็นอย่างนี้มาเกือบทุกเช้าก็ว่าได้ วันนี้ก็เช่นกัน เมื่อจัดแล้วไม่ลงตัว ก็รื้อกระเป๋าทั้งหมดลงมาใหม่ จัดใหม่อีกที พอจัดแล้วยังไม่ลงตัวก็ต้องรื้อออกจัดใหม่จนกว่าจะลงตัว เจ้า Ricky บ่นว่าเหนื่อยกับการจัดกระเป๋ามาก แต่จำไม่ได้สักทีว่าใบไหนต้องอยู่ตรงไหนมันถึงจะลงตัว จึงมีลูกทัวร์คนหนึ่งไปสอนว่า เมื่อจัดลงตัวแล้วก็ให้เอากล้องโทรศัพท์ถ่ายภาพเอาไว้เสียสิ พรุ่งนี้จะได้จัดให้เหมือนเดิมตามภาพแค่นั้น เจ้า Ricky ลืมตาโพงเอามือตบกระบาลตัวเอง บ่นว่า โง่มาตั้งหลายวัน เออ.... กะอีแค่ปัญหากล้วยๆแค่นี้ เอ็งยังจนปัญญา ชักสงสัยเสียแล้วสิว่าเอ็งเคยเป็นไกด์มาจริงๆเปล่าวะเนี่ย.....
(ช่วงหนึ่งของเส้นทางที่รถวิ่งผ่านไป มองเห็นถนนที่เพิ่งจะผ่านมาอยู่ลิบๆเบื้องล่างโน่นครับ และสภาพถนนเป็นเช่นนี้ตลอดเส้นทาง)
55.JPG
(255.27 KB, 1000x673 - ดู 42 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
«
ตอบ #40 เมื่อ:
ธันวาคม 25, 2016, 03:58:51 PM »
สุดท้าย.... กว่าจะขยับก้นออกจากโรงแรมได้ก็ปาเข้าไป 9 โมงเช้าเหมือนทุกๆวันที่ผ่านมาอีกนั่นแหละ เช้าตรงไหน แสดงให้เห็นถึงความอ่อนหัดของไกด์ได้ชัดเจนเลย วันนี้เราจับเส้นทาง G318 ต่อจากเมื่อวานมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเหมือนเดิม ตลอดเส้นทางที่พวกเราออกจากเมืองเฉิงตูมา รถของพวกเราก็วิ่งอยู่บนภูเขาสูงมาโดยตลอดฉะนั้น สองฟากข้างทางเราจึงพบเห็นฝูงวัวจามรีเป็นระยะๆ เจ้าของวัวคงจะเป็นพวกชนชาวทิเบตเพราะผมเห็นกระโจมลักษณะกลมๆกางอยู่ทั่วไป แต่เท่าที่สังเกต ผมว่ามีกระโจมส่วนหนึ่งที่เจ้าของกำลังถอดถอนกระโจมของพวกเค้าเพื่ออพยพย้ายถิ่นหนีหนาวกันแล้วเหมือนกัน บนยอดเขาสูงเช่นนี้ ส่วนใหญ่สูงมากกว่า 4000 เมตร และบางช่วงที่สูงกว่า 5000 เมตรด้วยซ้ำ หากเข้าหนาวเต็มๆแล้วคงมีแต่หิมะขาวโพลนไปทั่วทุกแห่งหน เมื่อถึงเวลานั้น นอกจากจะหนาวทรมานสุดๆแล้ว อาหารของสัตว์ประเภทวัว เช่นหญ้า คงไม่มีเหลือ หากไม่อพยพสัตว์ลงที่ต่ำ ต่อให้เป็นวัวจามรีก็เถอะ คงยากที่จะมีชีวิตรอดอยู่ได้
56.JPG
(312.02 KB, 1000x673 - ดู 42 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
«
ตอบ #41 เมื่อ:
ธันวาคม 25, 2016, 04:01:10 PM »
เราผ่านกลาเซียร์หรือที่เรียกว่า ธารน้ำแข็ง แต่เวลานี้น้ำในลำธารยังไม่แข็งตัว เลยยังไม่มีอะไรน่าสนใจนัก ประกอบกับมีฝนตกปรอยๆด้วย ไกด์ถามพวกเราว่าจะลงไปถ่ายรูปกันไหม ทุกคนจึงพร้อมใจกันส่ายหน้า ภูมิประเทศแถบนี้มันดูแปลกๆคือ บนยอดเขาที่ผ่านไป มองไปทางไหนก็เจอแต่ลูกหินกลิ้งเต็มพื้นไปหมด บนยอดเขาก็ไม่มีต้นไม้สักต้น ดูแห้งแล้ง จะมีก็เพียงต้นหญ้าเล็กๆที่มีขึ้นอยู่ประปลายตามซอกหิน แต่เวลานี้ก็เ***่ยวเฉาเตรียมตัวต้อนรับฤดูหนาวที่กำลังจะคืบคลานเข้ามาในไม่ช้านี้แล้ว
57.JPG
(149.73 KB, 667x1000 - ดู 42 ครั้ง.)
58.JPG
(254.53 KB, 1000x673 - ดู 42 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
«
ตอบ #42 เมื่อ:
ธันวาคม 25, 2016, 04:02:05 PM »
พวกเราตะลอนกันมาจนกระทั่งบ่าย 2 โมงกว่าจึงมาถึงเมือง “หลี่ถัง”
59.JPG
(237.85 KB, 675x1000 - ดู 42 ครั้ง.)
60.JPG
(284.62 KB, 1000x673 - ดู 41 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
«
ตอบ #43 เมื่อ:
ธันวาคม 25, 2016, 04:04:37 PM »
รถเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทาง S217 จากนั้น ไกด์พาพวกเราลงกินข้าวเที่ยงที่นี่ หลายคนอยากเข้าห้องน้ำ แต่เป็นเรื่องแปลกแต่จริงของเมืองจีนก็คือ ร้านอาหารโดยส่วนใหญ่จะไม่มีห้องน้ำไว้บริการ ไกด์พาไปเข้าห้องน้ำของสถานที่ราชการแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆร้านอาหาร เมื่อเดินเข้าไปใกล้ห้องน้ำ (ส้วม) ผมก็ต้องอุดจมูกเดินถอยฉากออกมา ทีแรกคิดว่าจะหาที่แอ่นเอาข้างๆห้องน้ำน่าจะดีกว่า แต่เมื่อมันเป็นสถานที่ราชการ ผมจะไปแอ่นสุ่มสี่สุ่มห้าก็เกรงใจ ในที่สุดเลยตัดสินใจอั้นเก็บเอาไว้ก่อน กลับไปกินข้าวเที่ยง แต่กินไปได้เพียงไม่กี่คำ ข้าศึกดันจะบุกพังประตูหลังเข้าอีก อีทีนี้ ไม่เข้าก็ต้องเข้าแล้ว ผมวางตะเกียบลง เดินเหยาะย่างกลับไปที่ห้องดับจิตนั่นอีกครั้ง กลั้นใจเดินเข้าไปข้างในของโซนห้องน้ำชาย ก็พบกับพ่อยอดชายทิเบตกำลังใช้บริการอยู่ในนั้น 2 ท่าน
61.JPG
(270.16 KB, 1000x674 - ดู 41 ครั้ง.)
62.JPG
(286.93 KB, 1000x563 - ดู 42 ครั้ง.)
63.jpg
(257.84 KB, 1000x757 - ดู 42 ครั้ง.)
64.jpg
(223.43 KB, 1000x635 - ดู 42 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ไปร้องไห้ที่ ย่าติ่ง (แชงกรีล่า)
«
ตอบ #44 เมื่อ:
ธันวาคม 25, 2016, 04:06:07 PM »
ตรงนี้ผมขออนุญาตขยายภาพห้องน้ำในเมืองจีนให้ท่านๆทั้งหลายได้เห็นภาพชัดขึ้นอีกสักนิดนะครับ คือห้องน้ำชายของจีน โดยเฉพาะที่เป็นแบบบ้านนอกๆ จะเป็นส้วมหลุมที่ขุดดินเป็นหลุมกลมๆขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ 1 เมตร เอาไม้กระดานวางพาดผ่านปากหลุมสองแผ่น (ส่วนใหญ่เป็นแผ่นพื้นสำเร็จที่หล่อจากปูน) เปิดช่องตรงกลางให้สมบัติอันล้ำค่าหล่นลงไปได้ สามารถมองลงไปที่ก้นหลุมได้และจะเห็นสมบัติของใครต่อใครที่เอามาฝากไว้เยอะแยะ มีแมลงวันทั้งหัวเขียว หัวเหลือง หัวแดง ตอมกันหึ่งทีเดียว ในห้องอาจจะมีหลุมหลายหลุม แต่ล่ะหลุมก็จะก่อผนังปูนกั้นแสดงอาณาเขตของหลุมคล้ายๆโถปัสสาวะของห้องน้ำชายตามปั๊มที่เมืองไทยนั่นแหละ แต่สูงจากพื้นราวๆ 1 เมตร ทั้งสองฝั่ง ซ้าย-ขวา ไม่มีประตูปิดแต่อย่างใด ฉะนั้นเมื่อเข้าไปนั่งยองๆทำภารกิจแล้วหากเป็นพรรคพวกเดียวกัน ก็ยังหันหน้าไปคุยกันได้ และใครที่ผ่านเข้า ผ่านออกก็จะเห็นว่าเรายังนั่งอยู่ ไม่ได้ตกลงไปในหลุมแต่อย่างใด เวลาจะใช้ ก็เดินเข้าไปยืนบนกระดานสองแผ่นนั่น แล้วหมุนตัวหันหน้าออก ถอดสิ่งกีดขวางทางข้าศึกออกลงนั่งยองๆ แล้วเล็งช่องทางลูกระเบิดว่าตรงช่องระหว่างไม้กระดานเป็นอันใช้ได้ แค่นั้น เวลาทำภารกิจก็อย่าเล่นลวดลายอะไรมาก มิฉะนั้นอาจจะพลัดตกลงไปกองรวมกับมหาสมบัติที่ก้นหลุมได้
เมื่อผมย่างเข้าไปเจอกับเจ้าของพื้นที่ 2 ท่านอย่างที่ว่า ผมจึงสะดุ้งสุดตัวว่าทำไมเค้าทำอะไรประเจิดประเจ้ออย่างนี้ว๊ะ ประตงประตูก็ไม่ปิด แต่เจ้าสองคนนั่นไม่สะดุ้งสะเทือนอะไรเลย พี่แกคนหนึ่งนั่งกดโทรศัพท์แชตคุยกับสาวหน้าตาเฉย ส่วนอีกคนก็กำลังเล่นเกมส์ออนไลน์ยิงกันอีล้งช้งเช้งดังสนั่นหวั่นไหว ผมจึงต้องทำกระมิดกระเมี้ยน กลั้นหายใจค่อยๆปลดเข็มขัดออกทำวิธีเดียวกับเขาสองคนคือ หันหน้าออก ปลดลูกระเบิดทิ้งลงพื้นปฐพีไป ส่วนมันจะไปลงหัวใครก็ช่างหัวมัน และผมต้องทำเวลาให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะผมรู้สึกว่าออกซิเจนภายในห้องเหมือนมันกำลังจะหมดไป ขืนอยู่นานผมอาจเป็นลมเป็นแล้งกลิ้งตกลงไปกองรวมกับมหาสมบัติอันล้ำค่าข้างล่างโน่นก็เป็นได้ และอีกอย่างที่ต้องจดจำให้มั่นๆ นั่นก็คือ ภายในห้องน้ำ จะไม่มีกระดาษชำระ หรือน้ำล้างใดๆทั้งสิ้น หากท่านต้องใช้บริการจากห้องน้ำแบบนี้ ท่านจะต้องเตรียมทุกอย่างที่จำเป็นเข้าไปเองเท่านั้น
ผมใช้เวลาไปราว 3 นาที ผมก็รีบเผ่นออกมาตั้งหลักข้างนอก ไอ้ครั้นจะเดินกลับไปกินข้าวเที่ยงต่อก็เห็นจะกลืนอะไรไม่ลงเสียแล้ว ผมเลยเดินเอาโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพดอกคอสมอส ดอกไม้ในสวนของสถานที่ราชการแห่งนั้นแทนไปจนกว่าไกด์จะมาตามให้ไปขึ้นรถ
65.jpg
(297.97 KB, 1000x755 - ดู 43 ครั้ง.)
66.jpg
(279.74 KB, 1000x755 - ดู 42 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 25, 2016, 04:08:33 PM โดย FRW
»
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
หน้า:
«
1
2
3
4
5
6
7
8
»
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
News ข่าวสารต่างๆและกิจกรรมทั่วไป
-----------------------------
=> ข่าวสาร,กิจกรรม และ SPC CLUB
=> Photo contest
-----------------------------
แนะนำ Trip
-----------------------------
=> แนะนำ Trip ประจำจังหวัดสมุทรปราการ
-----------------------------
Trip & Tour
-----------------------------
=> กิจกรรมท่องเที่ยวและถ่ายภาพ
-----------------------------
Gallery
-----------------------------
=> Landscape
=> Portrait
=> สัพเพเหระ
===> Action,Sport
=> Black&White
=> ส่องนก,ส่องสัตว์
=> Macro
-----------------------------
ห้องกลุ่มอุปกรณ์ถ่ายภาพ
-----------------------------
=> อุปกรณ์เสริมต่างๆ
=> กลุ่ม Canon
=> กลุ่ม Nikon
=> กลุ่ม Sony
=> กลุ่มค่ายอื่นๆ
===> กลุ่ม Olympus
===> กลุ่ม PENTAX
===> กลุ่ม FUJI
-----------------------------
Technic & Question to Ans.
-----------------------------
=> เทคนิคการถ่ายภาพต่างๆ
=> เทคนิคการตกแต่งภาพ
=> ห้องพูดคุยสอบถามเรื่องทั่วไป
-----------------------------
ซื้อ-ขายอุปกรณ์ถ่ายภาพ
-----------------------------
=> Promotion ,new
=> ของมือสองเกี่ยวกับการถ่ายภาพ
กำลังโหลด...