กุมภาพันธ์ 07, 2025, 12:18:11 AM
หน้าแรก
|
ช่วยเหลือ
|
เข้าสู่ระบบ
|
สมัครสมาชิก
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ชมรมภาพถ่ายสมุทรปราการ
»
Gallery
»
Landscape
»
เล่าเรื่องทริป "ทีลอซู"
เล่าเรื่องทริป "ทีลอซู"
หน้า:
1
2
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
เล่าเรื่องทริป "ทีลอซู"
ผู้เขียน
ข้อความ
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
เล่าเรื่องทริป "ทีลอซู"
«
เมื่อ:
พฤศจิกายน 15, 2016, 05:44:31 PM »
ทริปอุ้มผาง ตามผมไปเที่ยวด้วยกันนะครับ
สืบเนื่องจากราวต้นเดือนสิงหาคม ทางคณะกรรมการร่วมประชุมสามัญประจำปีซึ่งจัดประชุมกันปีล่ะ 4 ครั้ง เพื่อรายงานความเคลื่อนไหวและแผนการดำเนินงานของชมรมฯ โดยในครั้งนี้ ป้าอ้อเสนอให้จัดทริปไปถ่ายภาพที่อุ้มผางกัน โดยป้าอ้อบอกว่าได้วางเงินมัดจำให้กับทางรีสอร์ตเรียบร้อยแล้ว และทางเราสามารถจะเข้าใช้สิทธิเมื่อไรก็ได้ แต่บอกว่าอยากให้จัดทันทีที่ป่าไม้อุ้มผางเปิดให้เข้าได้ ซึ่งก็คือ วันที่ 1 ตุลาคมนั่นเอง
ผมแย้งว่า ปีนี้ คาดว่าฝนจะขาดช่วงล่าช้ากว่าทุกปี ซึ่งผมคาดคำนวณว่าปีนี้ ฝนชุดสุดท้ายน่าจะล่วงเข้าถึงต้นเดือนพฤศจิกายนด้วยซ้ำไป ผมจึงเกรงว่าหากเราจัดทริปวันที่ 1 ตุลาคม เห็นทีเราจะยังไม่พ้นหน้าฝน และลูกทริปอาจจะลำบาก เพราะหนทางอาจจะยังไม่พร้อม และการต้องไปนอนเต็นท์ท่ามกลางสายฝนก็ไม่ใช่เรื่องสนุกนัก อีกทั้งการจัดทริปโดยไม่ใช่วันหยุดต่อเนื่อง อาจจะสร้างปัญหาให้กับลูกทีมอีกหลายคนได้ แต่ป้าอ้อก็ยังยืนยันว่าควรจะจัดวันที่ 1 ตุลาคม หรือภายในเดือนตุลาคม เพราะทางรีสอร์ตบอกว่า หากเลยไปจนถึงเดือนพฤศจิกายนแล้ว น้ำให้แม่กลองอาจจะแห้งเหือด น้ำตกทีลอซูอาจไม่มีน้ำก็เป็นได้ ผมพยายามอธิบายว่า ผมเคยไปที่นี่หลายครั้งแล้ว และเคยไปแม้แต่เดือน กุมภาพันธ์ด้วยซ้ำ ยังไม่เคยเห็นน้ำตกทีลอซูจะแห้งสักครั้ง เพราะฉะนั้น ป้าอ้อน่าจะโดนทางรีสอร์ตเป่าหูมามากกว่า แต่ตัวผมเองก็ละล้าละรังตัดสินใจไม่ถูก เพราะหากจัดไปวันที่ 1 ตุลาคม สมาชิกหลายท่านอาจขัดข้องไม่สามารถร่วมทางไปได้ ครั้นจะจัดลงวันที่ 23 ตุลาคม ซึ่งมีวันหยุดชดเชยเพิ่ม ผมเองก็ดันติดขัดตรงที่ทางสมาคมต้นตระกูลผมก็จัดงานมิตติ้งตรงกันพอดีอีก ในที่สุดผมก็ขัดใจป้าอ้อไม่ไหว ตกลงจัดทริปวันที่ 1 ตุลาคมจนได้
หลังจากที่ประกาศจัดทริปไปแล้วด้วยความหวั่นไหวใจอย่างยิ่งของผม เวลาผ่านไปเป็นเดือน แทบจะหาคนมาจองทริปไม่ได้ ผมเลยต้องลงชื่อคนที่คิดว่าน่าจะไปได้ เช่นป้าอ้อ ผม คุณยอด น้าหก น้าชิต น้าหนุ่ม น้านที ฯลฯ โดยมีคุณโอ๊ค และน้าเล็ก ที่เข้ามาจองทริปตั้งแต่แรกอีกสองท่าน กลางเดือนกันยายน ทางสมาคมต้นตระกูลของผมประกาศเลื่อนงานมิตติ้งออกไป ผมดีใจมาก รีบประกาศเลื่อนทริปมาลงที่วันที่ 23 ตุลาคม เพื่อหวังว่าจะมีสมาชิกที่สามารถร่วมทริปได้มากขึ้น และจะได้ใกล้หน้าหนาวให้มากขึ้น เผื่อว่าจะได้ไม่โดนฝน
ปลายเดือนกันยายน ทางรีสอร์ตก็ยิงคำถามมาถึงผมทุกวันว่าให้ส่งรายชื่อที่แน่นอนให้เค้าทั้ง 10 ท่าน และทางเค้าจะปล่อยรถมารับเราที่สมุทรปราการเลย ที่จำเป็นต้องขอรายชื่อที่แน่นอนเพราะทางเค้าต้องไปทำประกันภัยให้ ก็ยิ่งทำให้ผมลำบากใจยิ่งขึ้นไปอีก ในที่สุด ผมเลยต้องบอกทางรีสอร์ตไปว่า ทางเราจะขับรถไปกันเอง และจะเหลือเพียง 7 ท่านเท่านั้น ทางรีสอร์ตก็บอกว่าให้โอนเงินค่าทริปไปให้เค้า ผมจึงต้องรีบจัดการโอนไปให้เค้าตามนั้น
FRW_2878.JPG
(355.03 KB, 674x1000 - ดู 36 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 15, 2016, 05:59:19 PM โดย FRW
»
Share
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เล่าเรื่องทริป "ทีลอซู"
«
ตอบ #1 เมื่อ:
พฤศจิกายน 15, 2016, 05:53:00 PM »
ต้นเดือนตุลาคม ผมมีทริปเดินทางไปถ่ายภาพที่ประเทศจีนกับเพื่อนๆหลายคน กลับบ้านมาอีกทีก็พบกับข่าวมหาวิปโยค ยังความเศร้าเสียใจอย่างที่สุดของประเทศเข้าอีก ทั้งตัวผมเองก็สุขภาพไม่ค่อยจะดีนัก ติดเชื้อไข้หวัดย่าติงมาจากจีน เพราะดันไปเดินตากฝนกึ่งๆหิมะที่ย่าติ่งเข้าให้ เลยเป็นหวัดงอมแงมกลับมา อีกทั้งตาข้างขวาก็ติดเชื้อตาแดงมาจากจีน อักเสบจนมองไม่ค่อยเห็นด้วย เมื่อประกอบกับความเศร้าเสียใจ จึงทำให้ผมอยากจะยกเลิกทริปไปเลยด้วยซ้ำ แต่ติดขัดตรงที่ผมโอนเงินค่าทริปไปให้ทางรีสอร์ตก่อนที่ผมจะไปจีนแล้ว
อีกหนึ่งสัปดาห์ก่อนวันออกทริป ไม่มีรายชื่อเพิ่มเติม ส่วนน้าหนุ่ม น้าหก ก็ไม่ยอมโอนเงินค่าทริป จึงยังไม่ใช่คำตอบสุดท้ายว่าจะร่วมเดินทางไปด้วยกันไหม ที่แน่นอนแล้วจึงมีเพียงแค่ ป้าอ้อ ผม น้ายอด น้าโอ๊ค น้าเล็ก น้าชิต น้านที ที่รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า ไปชัวร์ แน่นอน แต่แล้ว.... ป้าอ้อก็โทรมาบอกขอยกเลิกทริปด้วยเหตุผลส่วนตัว และแสดงความเห็นว่า ฤดูฝนน่าจะยังไม่หมด เกรงว่าเป็นผู้หญิงต้องไปนอนเต็นท์หากฝนตกอาจจะลำบาก
เอาล่ะสิ เงินค่าทริปก็โอนไปให้เค้าไปแล้ว ทำไง ผมนึกในใจ หวังว่าในวันสองวันนี้จะมีใครสักคนมาขอร่วมทริปเพิ่มแทนที่ป้าอ้อก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้น ทริปนี้คงขาดทุนป่นปี้แน่ๆ เพราะทางชมรมฯเรา ไม่เคยคิดว่าจะจัดทริปเพื่อแสวงหากำไรอยู่แล้ว ทำทีไรอย่างดีที่สุดก็เพียงเท่าทุน หรืออาจจะมีเหลือบ้างนิดหน่อยเท่านั้น หากงานนี้ขาดสมาชิกไปคนหนึ่งคงเข้าเนื้อแน่นอน
ก่อนออกเดินทาง น้าหกเอาเงินของสมาชิกที่โอนค่าทริปมาให้กับผม ซึ่งก็มีของ น้าโอ๊ค น้าเล็ก น้าชิต รวม 3 ท่าน เมื่อบวกกับของผมและน้ายอด จึงเท่ากับ 5 ท่านเท่านั้น ส่วนของน้านที น้าหกเพิ่งมาแจ้งว่า น้านทีบอกขอถอนตัวเนื่องจากขาบวม เดินไม่ได้ ตายล่ะวา.... เหลือไปกันแค่ 5 ที่ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำคัญ ที่สำคัญคือทางเราโอนเงินค่าทริปไปแล้ว 7 ที่ งานนี้ถึงคราวเข้าเนื้ออย่างแรงแน่นอน เอาว๊ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เมื่อโอนเงินไปแล้ว เราก็หาคนไปใช้สิทธิแทนที่ว่างมั่งก็แล้วกัน มองไปมองมา ก็เห็นแต่พ่อยอดชายนายเบนซ์นี่แหละ จึงโทรถามไปว่า ไปได้ไหม ให้ไปฟรี เท่านั้นเอง นายเบนซ์ก็ตอบตกลงทันที งานนี้เราจึงมีสมาชิกสมทบเพิ่มอีกคน รวมเป็น 6 ท่านด้วยกัน
วันนัดหมาย 3 ทุ่มของวันที่ 21 ตุลาคม ที่ปั๊ม ปตท. หน้าบิกซีจัมโบ้ มีผม น้ายอด น้าชิต น้าเล็ก น้าโอ๊ค พร้อมกัน 5 ท่าน จากนั้นก็บ่ายหน้าว่าจะไปรับเจ้าเบนซ์ที่หน้าวัดเสมียนนารี แต่น้าโอ๊คแย้งว่า ถนนวิภาวดีวันนั้นรถติดมาก น้ายอดเลยตรวจสอบเส้นทางและเป็นจริงตามที่น้าโอ๊คให้ข้อมูล เราจึงต้องขอเปลี่ยนจุดนัดรับเจ้าเบนซ์ใหม่เป็นทางลงทางด่วนแถวๆบางซื่อแทน เมื่อรับเจ้าเบนซ์ได้รถเราก็บ่ายหน้าขึ้นเหนือทันที เราแวะเติมพลังงานกันที่ร้านข้าวต้ม นัดพบ นครสวรรค์ จากนั้นน้ายอดก็อาสามาเป็น พขร.แทนผมซึ่งสุขภาพยังไม่ค่อยดีนัก
อุ้มผาง 2.jpg
(109.86 KB, 704x960 - ดู 36 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เล่าเรื่องทริป "ทีลอซู"
«
ตอบ #2 เมื่อ:
พฤศจิกายน 15, 2016, 05:55:04 PM »
วันนัดหมาย 3 ทุ่มของวันที่ 21 ตุลาคม ที่ปั๊ม ปตท. หน้าบิกซีจัมโบ้ มีผม น้ายอด น้าชิต น้าเล็ก น้าโอ๊ค พร้อมกัน 5 ท่าน จากนั้นก็บ่ายหน้าว่าจะไปรับเจ้าเบนซ์ที่หน้าวัดเสมียนนารี แต่น้าโอ๊คแย้งว่า ถนนวิภาวดีวันนั้นรถติดมาก น้ายอดเลยตรวจสอบเส้นทางและเป็นจริงตามที่น้าโอ๊คให้ข้อมูล เราจึงต้องขอเปลี่ยนจุดนัดรับเจ้าเบนซ์ใหม่เป็นทางลงทางด่วนแถวๆบางซื่อแทน เมื่อรับเจ้าเบนซ์ได้รถเราก็บ่ายหน้าขึ้นเหนือทันที เราแวะเติมพลังงานกันที่ร้านข้าวต้ม นัดพบ นครสวรรค์ จากนั้นน้ายอดก็อาสามาเป็น พขร.แทนผมซึ่งสุขภาพยังไม่ค่อยดีนัก
ตี 5 โดยประมาณ พวกเราเดินทางมาถึง อ.แม่สอด น้ายอดลังเลว่าจะเข้าไปตัวอำเภอเพื่อหาอาหารเช้ารองท้องกันก่อนดีไหม แต่ผมเองเห็นว่ามันยังเช้าเกินไป คงจะหาร้านอาหารเช้าได้ยาก และอีกอย่าง ผมจำได้ว่า หากเราเลี้ยวซ้ายไปอำเภอพบพระ จะมีปั๊ม ปตท. เราจะแวะเติมน้ำมันที่นั่น และอาจมีร้านกาแฟให้เราได้ใช้บริการกัน แต่พอเลี้ยวรถไปกลับหาปั๊มที่ว่าไม่เจอ น้ายอดขับต่อไปเรื่อยๆก็มาเจอปั๊มเอสโซ่ จึงเลี้ยวเข้าไปเติมน้ำมันและให้สมาชิกแวะเข้าห้องน้ำ ปั๊มที่นี่ ไม่มีร้านกาแฟอย่างที่หวัง เมื่อเติมน้ำมันเสร็จ จึงเดินทางมุ่งหน้าเข้าอำเภออุ้มผางต่อกันเลย เอาท้องฝากไว้กับน้ำบ่อหน้าที่หวังกันว่าที่อำเภอพบพระก็น่าจะมีร้านกาแฟให้ได้อาศัยบ้าง
พวกเราผ่านอำเภอพบพระท่ามกลางความมืด ไม่มีร้านกาแฟข้างทางให้เราได้อาศัย อาจเพราะมันยังไม่สว่างก็เป็นได้ น้ายอดบ่นว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว ฝากท้องไปที่อุ้มผางกันไปเลย เพราะกะว่า เราจะถึงอุ้มผางราว 7 โมงเช้าเท่านั้น ก็ไม่ได้ผิดเวลาอะไรมากนัก
FRW_2394.jpg
(366.22 KB, 1000x674 - ดู 36 ครั้ง.)
FRW_2405.JPG
(358.86 KB, 1000x675 - ดู 36 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เล่าเรื่องทริป "ทีลอซู"
«
ตอบ #3 เมื่อ:
พฤศจิกายน 15, 2016, 05:58:48 PM »
6 โมงเศษ ระหว่างทางที่สองฟากข้างทางเริ่มสว่าง จึงทำให้ทุกคนลืมตาตื่นขึ้นมาชมวิว ที่เราพบเห็นทะเลหมอกเป็นหย่อมๆ แต่ด้วยถนนที่คดโค้ง ไม่สมควรจอดรถเพราะอาจเกิดอันตราย เราจึงต้องผ่านจุดที่น่าสนใจไปหลายจุด จนในที่สุด เราก็มาเจอจุดที่พอจะแอบรถเข้าข้างทางได้อย่างปลอดภัย เราจึงแวะเก็บภาพข้างทาง 2-3 จุดก่อนจะเดินทางถึงอำเภออุ้มผาง จึงทำให้เรามาถึงอุ้มผางราว 8 โมงเช้าเข้าไปแล้ว เราแวะเติมพลังกันที่ร้านพ่อครัว และโทรสอบถามถึงที่ตั้งของรีสอร์ตที่เราจองมา ซึ่งก็ไม่ไกลจากร้านอาหารนี้เท่าไรนัก ระหว่างที่นั่งทานอาหารเช้า น้าโอ๊คก็ยกขาให้ทุกคนดูร่องรอยเลือดที่เกิดจากฝีมือของเจ้าทากบนดอยเล่นงานเข้าให้ จึงทำให้ทุกคนตกใจและหันมาตรวจสอบตัวเองเป็นการด่วน ผลปรากฏว่ามีผมอีกคนที่โดนเล่นงานจนเลือดสาดไปโดยไม่รู้ตัว นอกนั้นก็ปลอดภัยกันดีทุกคน เมื่อเสร็จจากอาหารเช้า พวกเราก็ตรงดิ่งไปรีสอร์ตกันเลย
FRW_2429.JPG
(279.19 KB, 1000x675 - ดู 37 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เล่าเรื่องทริป "ทีลอซู"
«
ตอบ #4 เมื่อ:
พฤศจิกายน 15, 2016, 06:00:24 PM »
พวกเราเข้าไปถึงรีสอร์ตตอนที่ทางรีสอร์ตกำลังชุลมุลวุ่นวายกันพอดี เพราะเค้ากำลังเตรียมแพยางให้นักท่องเที่ยวชุดก่อนหน้าเราลงแพเข้าไปที่น้ำตกกัน กำลังเคลียร์ห้องให้ว่างเพื่อจะให้ทางเราเข้าพักผ่อนก่อนที่จะนำเราออกทัวร์ในช่วงบ่ายของวันนี้ อีกทั้งยังมีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาวันนี้อีกหลายกลุ่ม จึงวุ่นวายพอควร พวกเราลงจากรถแล้วเดินเก้ๆกังๆยังเข้าห้องพักไม่ได้ เลยเดินดูรอบๆบริเวณรีสอร์ต ก็ไปเจอเข้ากับแมงมุมหลายรัง เมื่อยังไม่มีกิจกรรมอะไร พวกเราเลยหันไปมาโครเจ้าแมงมุมนั่นฆ่าเวลา
ที่จริงการถ่ายภาพมาโครนั้น เราควรต้องเปลี่ยนไปใช้เลนส์มาโคร หรืออย่างน้อยก็ควรต้องมีท่อมาโคร แต่ด้วยความที่พวกเรารอนแรมกันมาทั้งคืน ผม และน้ายอดยังไม่ได้งีบกันเลยสักนิดเดียว จึงเหมือนคนสติยังไม่เต็ม นั่งตรงไหนก็เบลอๆไปหมด ฉะนั้นเมื่อต้องไปถ่ายแมงมุมเลยเกิดความขี้เกียจเปลี่ยนเลนส์ กล้องผมตอนนั้นบังเอิญติดเลนส์ 16-35 mm อยู่กับกล้อง 5D Mk III ก็เลยส่องมันด้วยเลนส์นั้นเอง
FRW_2434.JPG
(221.87 KB, 1000x674 - ดู 37 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เล่าเรื่องทริป "ทีลอซู"
«
ตอบ #5 เมื่อ:
พฤศจิกายน 15, 2016, 06:03:02 PM »
กว่าพวกเราจะได้ห้องพักก็ปาเข้าไป 11 โมงแล้ว ผมกับน้ายอดพอเก็บของเข้าห้องได้ก็แข่งกันกรน แต่ก็คงไม่รับรู้ว่าใครจะเสียงดังไปกว่าใคร เพราะสลบเหมือดกันทั้งคู่ ราวใกล้เที่ยว น้าเบนซ์มาตะโกนเรียกที่หน้าห้อง บอกว่าทางรีสอร์ตให้ขึ้นไปทานข้าวเที่ยงได้แล้ว พวกเราจึงลุกขึ้นจากที่นอนอย่างเสียดาย ขึ้นไปกินข้าวเที่ยงที่ทางรีสอร์ตจัดเอาไว้ให้ เพราะอยู่ในรายการอยู่แล้ว แต่... หุๆ รสชาติอาหารของรีสอร์ตที่นี่ บอกเลยว่าอ่อนมาก จึงไม่ค่อยถูกปากพวกเรากันนัก
ห้องพักของพวกเราครับ
FRW_2684.JPG
(392.23 KB, 1000x634 - ดู 35 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เล่าเรื่องทริป "ทีลอซู"
«
ตอบ #6 เมื่อ:
พฤศจิกายน 15, 2016, 06:04:38 PM »
หลังอาหารกลางวัน ทางรีสอร์ตก็ให้เด็กน้อยคนหนึ่งอายุราวๆสัก 10 ขวบได้มั้ง ดูเหมือนจะชื่อ “นันทชัย” มาพาพวกเราไปขึ้นรถกระบะสองแถวที่ปิดท้าย จึงต้องใช้วิธีปีนขึ้นไปเอา จากนั้น ไอ้หนูและคนขับก็พาพวกเราไปเที่ยวโบสถ์ไม้สักทองเป็นจุดแรก โดยหวังว่าจะให้พวกเราได้กราบไหว้สักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิเป็นอันดับแรก แต่..... วิธีคิดแบบนี้เอามาใช้กับพวกตากล้องอย่างพวกเราๆไม่ได้ครับ เพราะพอลงจากรถได้ ก็ยังไม่มีใครเข้าไปกราบไหว้พระกันหรอก แต่ลงรถมาพร้อมด้วยอาวุธคู่มือกันทุกคน จากนั้นก็กระจายมุมใครมุมมัน ถ่ายกันจนพออกพอใจแล้วนั่นแหละ ถึงยอมเข้าโบสถ์ไปไหว้พระกัน และกว่าที่ผมจะเข้าไปกราบพระ เสียงเจ้านันทชัยก็ตะโกนโหวกเหวกเรียกให้ขึ้นรถกันแล้ว ผมจึงต้องตาลีตาเหลือกกราบพระก้นกระดกสามครั้งเป็นอันเสร็จพิธีอย่างลวกๆ ออกมาจากโบสถ์ ล้วงกระเป๋าได้แบงค์ร้อยมาใบหนึ่งตั้งจิตอธิฐานเสร็จก็รีบๆหย่อนลงตู้รับบริจาคไป ไม่ทันได้เห็นด้วยซ้ำไปว่าที่ข้างๆนั่นเค้ามีซุ้มให้สาธุชนได้กินกาแฟของทางวัด รีบๆเผ่นไปขึ้นรถ
นอกจากโบสถ์ที่สร้างจากไม้สักทองทั้งหลังที่ดูงดงามและทรงค่ายิ่งแล้ว ที่ข้างๆโบสถ์นั่นเองเป็นสถานที่ประดิษฐานของศาลเจ้าพ่อตะเคียนทอง ซึ่งผมเองก็ไม่ค่อยแน่ในว่ามีประวัติเกี่ยวข้องอะไรกับโบสถ์ไม้สักทองหลังนี้หรือเปล่า จึงได้มาสร้างไว้เคียงคู่กัน ผมเองตั้งใจว่า เมื่อกราบพระเสร็จแล้วก็จะแวะเข้าไปชมหน่อย แต่พอเจ้านันทชัยตะโกนเร่งมาเลยลืมไปเสียสนิทเลยครับ จากความตั้งใจแรกว่า หากค่ำคืนนี้ อากาศเปิด พวกเราจะย้อนกลับมาที่โบสถ์ และจะอาศัยโบสถ์เป็นฉากในการล่าทางช้างเผือก แต่.... ดูๆแล้วคงหมดหวังแน่ๆ เพราะท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆหมอก
FRW_2455.JPG
(290.96 KB, 1000x675 - ดู 35 ครั้ง.)
FRW_2483.JPG
(196.05 KB, 1000x675 - ดู 36 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 15, 2016, 06:09:23 PM โดย FRW
»
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เล่าเรื่องทริป "ทีลอซู"
«
ตอบ #7 เมื่อ:
พฤศจิกายน 15, 2016, 06:08:07 PM »
ออกจากโบสถ์วัดหนองหลวงแล้ว เจ้านันทชัยก็พาพวกเราตรงดิ่งไปถ้ำ ตะโค๊ะบิ๊ ตะโค๊ะบิ๊ มาจากภาษากระเหรี่ยง ซึ่งแปลว่า มะม่วงแบน ถ้ำอยู่ห่างจากวัดหนองหลวงไม่ไกลนัก ทันทีที่เรากระโดดลงจากรถ ก็เจอเข้ากับน้องๆไกด์ที่จะพาพวกเราเข้าไปทัวร์ถ้ำแห่งนี้ เดินล้อมหน้าล้อมหลังพวกเราวุ่นวายไปหมดเป็นขโยง (คงเพราะโรงเรียนปิดเทอม เพราะดูอายุน่าจะยังเรียนชั้นประถมกันอยู่) ที่จริง ที่นี่ผมเคยมาหลายครั้งแล้วเหมือนกัน และรู้ว่าถ้ำที่นี่มันไม่ค่อยจะมีอะไรน่าสนใจมากนัก แต่คนอื่นๆยังไม่เคยมา ก็ต้องว่าไปตามรายการ เจ้านันทชัยถือโอกาสหลบฉากออกส่งลูกทัวร์ต่อให้กับเจ้าของพื้นที่ หะแรกผมเข้าใจว่าคงมีน้องไกด์มานำทัวร์ให้กับทีมของเราเพียงคนเดียว แต่เอาเข้าจริง แห่ตามกันมาเป็น 3 คนด้วยกัน อีทีนี้ เวลาที่เข้าไปในถ้ำ ไกด์ 3 คนเลยแย่งกันพากษ์ แข่งกันบรรยาย จนบางทีแข่งกันพูดจนฟังไม่รู้เรื่องเลยก็มี ถ้ำลึกเท่าไรไม่ทราบ แต่น้องๆพาไปแค่ราวๆ ½ กิโลเมตร ทางเริ่มตีบลง แกก็พากลับออกมา ประกอบกับไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจมากนักด้วย หลังจากที่เดินถ่ายภาพถ้ำกันนิดหน่อยพวกเราก็ออกจากถ้ำมา ผมล้วงเงินทิปให้ไกด์เด็กๆไปคนล่ะร้อย เจ้านันทชัยหันหน้ามามองผมแล้วทวงว่า แล้วของผมไม่มีหรือ ผมเลยต้องบอกไปว่า งานของแกยังไม่จบ จะเอาทิปได้ไง แกเลยยิ้มเจื่อนๆไป
FRW_2512.JPG
(320.96 KB, 746x1000 - ดู 35 ครั้ง.)
FRW_2485.JPG
(207.75 KB, 674x1000 - ดู 34 ครั้ง.)
FRW_2511.JPG
(325.28 KB, 1000x675 - ดู 35 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เล่าเรื่องทริป "ทีลอซู"
«
ตอบ #8 เมื่อ:
พฤศจิกายน 15, 2016, 06:14:06 PM »
จากถ้ำตะโค๊ะบิ๊ รถพาพวกเรากลับเข้าตัวอำเภออุ้มผางอีกครั้ง และมาจอดลงที่ใกล้ๆร้าน 7-11 ผมถามเจ้านันทชัยว่าพามาทำอะไรที่นี่ มันพยักหน้าบอกว่าก็พามาเดินชมและช๊อปปิ้งตลาดคนเดินไง ผมส่ายหัวคิดในใจว่า เดินชมตลาดคนเดิน ไม่ใช่ต้องเดินหัวค่ำหรอกหรือ นี่มันเพิ่งจะบ่าย 4 เอง จะมีพ่อค้า-แม่ค้ามาตั้งแผงขายของกันหรือยังเหอะ แล้วตอนที่อยู่ที่วัด แกเร่งนักเร่งหนาทำไมว๊ะ เสร็จแล้วก็พาพวกตูมาถึงตลาดก่อนแม่ค้าซะอีก เดินไปหน่อย น้ายอดตาไว เหลือบไปเห็นบ้านหลังหนึ่ง เก่าคร่ำคร่า จึงชี้มือถามเจ้านันทชัยว่า นั่นคือบ้านโบราณใช่ไหม หมอนั่นพยักหน้า พวกเราจะเข้าไปชมบ้านโบราณก่อน แต่เจ้านันทชัยก็พยายามดึงพวกเราให้เข้าไปตลาดก่อน พวกเราเห็นว่าเวลายังมีเยอะเลยเดิมตามมันไป และก็จริงดั่งว่า ตลาดยังไม่ค่อยมีอะไรขาย พ่อค้า-แม่ค้ายังจัดร้านไม่เสร็จ บางร้านยังไม่มาด้วยซ้ำ แถมอากาศครึ้มๆอย่างนี้ บางรายอาจไม่มาขายด้วยซ้ำ ในตลาดดูๆไปก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่ที่น่าสนใจนัก แต่ผมเห็นกล้วยน้ำว้าที่ชาวบ้านเอามาวางขาย ลูกใหญ่มาก... ลูกกล้วยอวบอ้วนจนเปลือกกล้วยแทบจะปริออกมา หวีใหญ่ๆ ขายหวีล่ะ 20 บาท ถูกอะไรอย่างนั้น ใจอยากจะซื้อกลับบ้าน แต่ที่บ้านผมเองก็กินกล้วยกันซะจนหน้าจะเป็นกล้วยอยู่แล้ว ขืนผมซื้อกล้วยกลับไปอีก ผมเองนั่นแหละ อาจจะโดนแม่บ้านเอากล้วยกรอกปาก เลยต้องตัดอกตัดใจ
ที่จริง ตลาดคนเดินที่อุ้มผาง ดูเหมือนเป็นตลาดที่เพิ่งจะจัดตั้งขึ้น ทุกอย่างจึงดูเหมือนยังไม่เข้าที่เข้าทางนัก พ่อค้า-แม่ค้าดูเหมือนยังมือใหม่ และยังกับว่าถูกกะเกณฑ์ให้มาตั้งแผงขายกัน จึงยังดูไม่เหมือนวิถีจริงของชนพื้นบ้านจริงๆ แถมริมถนนบริเวณตลาดก็มีเสาไฟฟ้า และสายสัญญาณสื่อสารระโยงระยางเต็มไปหมด ทำให้ทัศนวิสัยมองแล้วไม่ค่อยงามเท่าไรนัก หากทางเทศบาลอุ้มผางจะรีบจัดการเอาฝังพื้นเสียแต่ตอนนี้ก็น่าจะดี เพราะหากรอจนกระทั่งสายต่างๆมันมีมากๆเข้า และร้านค้ามีมากๆเข้า แล้วค่อยคิดทำจะยิ่งทำได้ยากกว่านี้อีกครับ รีบๆทำเสียแต่ตอนนี้ ให้ผู้ที่มาทีหลังจะได้ทำตามแนวทางเดียวกัน อย่าให้เหมือน กทม. ที่ฝรั่งมันเห็นแล้วตกใจจนล่ำลือไปถึงเมืองนอกเมืองนา
FRW_2535.JPG
(265.61 KB, 1000x674 - ดู 35 ครั้ง.)
FRW_2537.JPG
(324.9 KB, 1000x698 - ดู 35 ครั้ง.)
FRW_2543.JPG
(214.88 KB, 1000x674 - ดู 35 ครั้ง.)
FRW_2544.JPG
(238.96 KB, 1000x674 - ดู 36 ครั้ง.)
FRW_2545.JPG
(215.47 KB, 1000x674 - ดู 35 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เล่าเรื่องทริป "ทีลอซู"
«
ตอบ #9 เมื่อ:
พฤศจิกายน 15, 2016, 06:18:32 PM »
พวกเราเดินตลาดกันเพียงไม่กี่นาทีก็สุดทางตลาดคนเดิน แถมฝนก็ตกปรอยๆ จึงไม่ค่อยสนุกนักที่จะเดินตากฝน โดยเฉพาะผมที่ยังไม่ทันจะหายจากหวัดดี ยิ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง จึงพากันเดินย้อนกลับไปที่บ้านเก่าหลังนั้นตามที่น้ายอดชี้หมายไว้แต่ทีแรก ก็พบว่ามีป้ายบอกว่าบ้านหลังนี้สร้างเมื่อปี พ.ศ.2502 เอ.... มันก็เพิ่งจะราวๆ 50 กว่าปีนี่นา.... แล้วไหนในใบโฆษณาของรีสอร์ตบอกว่าเป็นบ้านโบราณอายุเป็น 100 ปีหว่า.... เราขออนุญาตเจ้าของบ้านขึ้นไปถ่ายภาพ ซึ่งก็ต้องเดินอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเกรงว่าด้วยน้ำหนักตัวของผมอาจจะไปเหยียบอะไรเก่าๆของเค้าทรุดเสียหายได้ ถ่ายภาพกันจนหนำใจแต่ผมดันลืมถามว่าเจ้าของบ้านชื่อเรียงเสียงใดซะนี่ กรรม
เนื่องจากก่อนมา ตาข้างขวาผมยังอักเสบไม่หาย และตัวผมเองก็ดันลืมเอายาหยอดตาที่หมอให้ไว้ติดตัวมาด้วย ผมจึงขอตัวไปร้านขายยา หาซื้อยาหยอดตา ทางร้านเลยจัดยาล้างตาแถมมาให้ด้วย กลับมาที่บ้านโบราณผมจัดแจงแกะยามาล้างตา เจ้านันทชัยมองดูผมหยอดตาด้วยความสนใจอย่างยิ่ง จนน้าชิตแซวว่าอยากหยอดมั่งหรือไง แกเลยยิ้มอายๆหลบไป หลังจากนั้นราวสัก 5 โมงกว่าๆ ฝนที่ปรอยๆอยู่จางหายไป น้ายอดชวนพวกเราเดินกลับไปที่ตลาดคนเดินอีกครั้ง และน้ายอดก็เดินไปซื้อคอหมูย่างเอาไปเป็นอาหารเย็นร่วมกับอาหารที่ทางรีสอร์ตจัดให้ เจ้านันทชัยทำท่าทางเหมือนลุกลี้ลุกลนชอบกล น้าชิตเลยสะกิดถามว่ามีอะไรไหม เจ้านันทชัยตอบว่า จะต้องรีบกลับไปเตรียมตัว เตรียมการแสดงในค่ำคืนนี้ ที่ทางรีสอร์ตจะจัดงานสันทนาการให้กับแขกทุกท่านที่มาพักในรีสอร์ต เมื่อน้ายอดได้ของแล้วพวกเราก็เดินกลับไปหารถที่จอดอยู่ แต่เจ้านันทชัยบอกว่าคนขับรถย้ายรถไปจอดที่แห่งใหม่แล้ว พอพวกเราเดินไปหารถซึ่งต้องผ่านสถานีตำรวจ ก็เจอมุมที่เค้าจัดซุ้มเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพไว้เป็นที่ระทึก เอ้ย... ระลึกกัน พวกเราจึงแถ...เข้าไปอีก กดกันมาอีกคนล่ะใบสองใบ เจ้านันทชัยมองพวกเราค้อนแล้วค้อนอีกที่เห็นพวกเราไปทางไหนก็ถ่ายได้ถ่ายดียังกะกินยาถ่ายมา เมื่อพวกเรากระโดด (โหน) ขึ้นรถได้ เจ้านันทชัยก็พาพวกเรากลับรีสอร์ตทันที ซึ่งก็อยู่ไม่ห่างจากถนนคนเดินมากนัก
FRW_2531.JPG
(232.76 KB, 1000x674 - ดู 35 ครั้ง.)
FRW_2514.JPG
(179.54 KB, 1000x493 - ดู 35 ครั้ง.)
FRW_2516.JPG
(368.15 KB, 1000x674 - ดู 35 ครั้ง.)
FRW_2530.JPG
(273.22 KB, 1000x674 - ดู 34 ครั้ง.)
FRW_2547.JPG
(247.78 KB, 1000x674 - ดู 34 ครั้ง.)
FRW_2549.JPG
(316.19 KB, 1000x674 - ดู 34 ครั้ง.)
FRW_2551.JPG
(366.93 KB, 1000x674 - ดู 35 ครั้ง.)
FRW_2552.JPG
(348.32 KB, 1000x674 - ดู 35 ครั้ง.)
FRW_2553.JPG
(341.66 KB, 674x1000 - ดู 34 ครั้ง.)
FRW_2554.JPG
(349.75 KB, 674x1000 - ดู 34 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 15, 2016, 06:22:00 PM โดย FRW
»
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เล่าเรื่องทริป "ทีลอซู"
«
ตอบ #10 เมื่อ:
พฤศจิกายน 15, 2016, 06:22:52 PM »
หลังจากอาบน้ำอาบท่าแล้ว พวกเราก็ออกมาร่วมรัปทานข้าวเย็นกัน มื้อนี้เรามีคอหมูย่างจากตลาดคนเดินเข้ามาเสริมกับข้าวจากทางรีสอร์ต และปรากฏว่า คอหมูย่างขายดีเป็นเทน้ำเทท่า หมดก่อนกับข้าวอย่างอื่นๆ ทุกคนยกนิ้วให้ว่าคอหมูย่างที่ตลาดคนเดินนั้นถูกปากถูกใจอย่างยิ่ง พวกเราเหลียวมองไปทางเวทีที่เชื่อว่าเจ้านันทชัยจะออกมาทำการแสดง แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเบิกโรงซะที จนกระทั่งพวกเราอิ่มหมีพลีมัน หนังท้องตึง หนังตาก็หย่อน เพราะคืนที่ผ่านมาอยู่บนรถ จึงนอนกันไม่เต็มที่ ยิ่งผมกับน้ายอดด้วยยิ่งแล้ว เพราะเพิ่งได้งีบไปชั่วโมงเดียวตอนเข้าพักที่นี่เอง ทางรีสอร์ตจะจัดสันทนาการอะไร หรือเจ้านันทชัยมันจะแสดงอะไร แสดงเมื่อไร พวกเราจึงไม่สนใจอีกต่อไป แยกย้ายกันกลับห้องทันทีที่อิ่ม แต่พอกลับไปถึงห้อง ปรากฏว่าเราเจอเข้ากับน้องตั๊กที่มาเยี่ยมพวกเราถึงหน้าห้องกันเลยทีเดียว มันเป็นตั๊กแตนใบไม้ที่ตัวใหญ่มาก แทนที่พวกเราจะได้เข้านอน เลยไปคว้ากล้องมานั่งเล็งน้องตั๊กซะก่อน ผลัดกันถ่ายไปคนล่ะชอตสองชอต สนุกสนานเฮฮากันจนลืมง่วงไปเลย มีแต่ผมกับน้ายอดเท่านั้นที่ไม่ได้ถ่าย แต่ก็นั่งดูและเป็นคนช่วยส่องไฟให้ทุกคนได้ถ่ายกันจนหนำใจ น้องตั๊กแกก็สุดแสนใจดี ให้ความร่วมมืออย่างดี ไม่หนีไปไหนเลย เอียงซ้าย เอียงขวาให้ถ่ายอย่างกะนางแบบมืออาชีพก็ไม่ปาน พอทุกคนถ่ายกันจนพอใจแล้วนั่นแหละ น้องตั๊กก็บินวูบเข้าชายป่าไป
FRW_8810.JPG
(388.67 KB, 1000x672 - ดู 34 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เล่าเรื่องทริป "ทีลอซู"
«
ตอบ #11 เมื่อ:
พฤศจิกายน 15, 2016, 06:26:26 PM »
เช้าตี 5 ของวันใหม่ เสียงเจ้านันทชัยโหวกเหวกเดินปลุกนักท่องเที่ยว พวกเราตื่นขึ้นทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ออกมายืนรอรถที่จะพาไปชมทะเลหมอกบนดอยหัวโหมด แต่นักท่องเที่ยวมีหลายกลุ่ม จึงวุ่นวายกันพอสมควร กลุ่มนี้ขาดคนหนึ่ง กลุ่มนั้นขาดสองคน จึงยังออกรถไม่ได้สักที ระหว่างที่รอ พวกเราก็แก้เซ็งด้วยกันไปมะรุมมะตุ้มรังเจ้าแมงมุมอีกครั้ง ผมอยากได้หยดน้ำบนใยแมงมุมตอนเช้า แต่มันไม่มีซะนี่ เลยต้องออกแรงให้น้ายอดเอาฟ็อคกี้สเปร์ละอองน้ำใส่ให้ เจ้าแมงมุมสะดุ้งนิดๆ แต่ก็ไม่หนีไปไหน ผมกดมา 2-3 ใบแล้วรู้สึกไม่ค่อยถูกใจ เพราะหยดน้ำมันหยดเล็กไป ถ่ายแล้วดูจากหลังกล้องแทบจะไม่เห็นหยดน้ำเลยด้วยซ้ำไป ต่อจากนั้นคนอื่นๆก็ช่วยกันเข้าแถวเรียงคิวกันคนล่ะใบสองใบ ก่อนที่จะขึ้นรถไปเที่ยวดอยกัน เนื่องจากเมื่อวานเย็นมีฝนตกปรอยๆ น้าเล็กแกจึงตั้งความหวังเอาไว้เต็มเปี่ยมว่าเช้าวันนี้พวกเราจะต้องพบเจอทะเลหมอกที่สวยงามอย่างแน่นอน
FRW_2556.JPG
(327.66 KB, 1000x674 - ดู 34 ครั้ง.)
FRW_2558.JPG
(339.13 KB, 1000x674 - ดู 33 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เล่าเรื่องทริป "ทีลอซู"
«
ตอบ #12 เมื่อ:
พฤศจิกายน 15, 2016, 06:28:17 PM »
อากาศยามเช้ามืดเย็นๆนิดหน่อย แต่ไม่ถึงกับหนาว แต่รู้สึกได้ถึงความชื้นในอากาศ รถพาพวกเราควบปุเลงๆไปราวสัก 10 กว่ากิโลเมตรเห็นจะได้ พวกเราก็มาถึงดอยหัวโหมด ที่จริงที่นี่ผมก็เคยมาหลายครั้งแล้วเช่นกัน มาครั้งแรกๆนี่แทบจะยังไม่มีคนรู้จักที่นี่ด้วยซ้ำ มากลางเต็นท์นอนกัน 2-3 คนบนนี้ กลัวผีหลอกกันแทบตาย แต่ในการมาที่นี่หลายครั้ง เคยมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเองที่มีทะเลหมอกสวยพอดูได้เท่านั้น ยังไม่เคยเจอแบบเต็มๆสักทีเหมือนกัน หวังว่าวันนี้พวกเราจะโชคดี พวกเราปีนป่ายไปจนถึงยอดเขา โห..... มีนักท่องเที่ยวที่มาถึงก่อนเรามากพอดู พวกเราแยกย้ายกันหามุมใครมุมมันอีกครั้ง ในความสลัวลางของเช้ามืดที่ยังไม่ทันจะสว่างดี ผมเลือกได้มุมที่คิดว่ามันดีที่สุดแล้วสำหรับผม ผมกางขาตั้งกล้องอย่างชนิดปักหลักมั่นคงยังกับจะปักหลักมันตรงนั้นชนิดที่ไม่คิดจะเปลี่ยนมุมอีกเลย นักท่องเที่ยวเยอะ คงเปลี่ยนมุมยากเหมือนกัน ปรับกล้อง เซตกล้องตามที่เคย จากนั้นก็รอเวลา
6 โมงกว่า ความสว่างค่อยๆเผยโฉมวิวตรงหน้า มีหมอกกระหย่อมเล็กๆอยู่กลางหุบเขาข้างหน้า นิดเดียวจริงๆ พวกเราทุกคนรวมทั้งท่องเที่ยวต่างก็รออย่างอดทนโดยหวังว่าเมื่อสายอีกนิดหมอกอาจจะหนาขึ้น 7 โมงกว่า ดวงอาทิตย์ก็เผยโฉมมาให้เห็น แต่ก็เพียงแวบเดียวแล้วก็อายม้วนหลบหน้าไปอยู่หลังเมฆาซะอีก หมอกก็จางลงไปเรื่อยๆ ไม่มีวี่แววว่าจะมีทะเลหมอกให้ชมแต่อย่างใด เสียงเจ้านันทชัยตะโกนโหวกเหวกเรียกลูกทัวร์ให้กลับขึ้นรถเพื่อกลับรีสอร์ตไปทานอาหารเช้า พวกเราเก็บอุปกรณ์อย่างเซ็งๆแล้วเดินตามเจ้านันทชัยไปขึ้นรถ
FRW_2630.JPG
(395.65 KB, 1000x675 - ดู 33 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เล่าเรื่องทริป "ทีลอซู"
«
ตอบ #13 เมื่อ:
พฤศจิกายน 15, 2016, 06:31:20 PM »
หลังอาหารเช้าก่อนจะลงแพ พวกเราก็เยี่ยมหน้าไปเยือนเจ้าแมงมุมตัวเมื่อวานอีกครั้ง อ้าว.... พี่แกมีอาหารมื้อเช้าเป็นจักจั่นตัวหนึ่ง กำลังหม่ำอาหารเช้าอยู่เลย เมื่อเห็นดังนั้น พวกเราเลยฆ่าเวลาด้วยการถ่ายเจ้านี่อีกครั้ง ผมกดมา 2-3 ใบก่อนที่จะหลบไปที่ริมน้ำก็เจอกับเจ้าหน้าที่ของทางรีสอร์ตกำลังเตรียมแพยางให้พวกเรา โดยปกติ ผมเป็นคนชอบถ่ายเรืออยู่แล้ว เลยถลาเข้าเก็บภาพ แต่เมื่อยกดูภาพถ่ายที่หลังกล้องก็เกิดเซ็งในอารมณ์อีก เพราะน้ำในแม่กลองขุ่นคลัก มองยังไงมันก็ไม่ได้เรื่องอยู่ดี
FRW_2675.JPG
(319.02 KB, 674x1000 - ดู 34 ครั้ง.)
FRW_2679.JPG
(234.99 KB, 1000x674 - ดู 34 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เล่าเรื่องทริป "ทีลอซู"
«
ตอบ #14 เมื่อ:
พฤศจิกายน 15, 2016, 06:34:06 PM »
จุดนี้เป็นจุดที่บรรดารีสอร์ตต่างๆจะพาลูกทัวร์มาลงแพยางกันที่นี่ แต่ของพวกเราไม่ต้องมาที่นี่ พวกเราลงแพจากที่รีสอร์ตเลย เพราะรีสอร์ตที่พวกเราพักนั้นอยู่ติดลำน้ำแม่กลองอยู่แล้ว
FRW_2712.JPG
(285.78 KB, 1000x524 - ดู 33 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
หน้า:
1
2
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
News ข่าวสารต่างๆและกิจกรรมทั่วไป
-----------------------------
=> ข่าวสาร,กิจกรรม และ SPC CLUB
=> Photo contest
-----------------------------
แนะนำ Trip
-----------------------------
=> แนะนำ Trip ประจำจังหวัดสมุทรปราการ
-----------------------------
Trip & Tour
-----------------------------
=> กิจกรรมท่องเที่ยวและถ่ายภาพ
-----------------------------
Gallery
-----------------------------
=> Landscape
=> Portrait
=> สัพเพเหระ
===> Action,Sport
=> Black&White
=> ส่องนก,ส่องสัตว์
=> Macro
-----------------------------
ห้องกลุ่มอุปกรณ์ถ่ายภาพ
-----------------------------
=> อุปกรณ์เสริมต่างๆ
=> กลุ่ม Canon
=> กลุ่ม Nikon
=> กลุ่ม Sony
=> กลุ่มค่ายอื่นๆ
===> กลุ่ม Olympus
===> กลุ่ม PENTAX
===> กลุ่ม FUJI
-----------------------------
Technic & Question to Ans.
-----------------------------
=> เทคนิคการถ่ายภาพต่างๆ
=> เทคนิคการตกแต่งภาพ
=> ห้องพูดคุยสอบถามเรื่องทั่วไป
-----------------------------
ซื้อ-ขายอุปกรณ์ถ่ายภาพ
-----------------------------
=> Promotion ,new
=> ของมือสองเกี่ยวกับการถ่ายภาพ
กำลังโหลด...