FRW
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2015, 06:43:04 AM » |
|
หลังจากชมพระธาตุหลวงแล้ว เพิ่งจะ 11 โมงกว่า ไกด์ก็พาไปทานข้าวเที่ยง พวกเราทุกคนร้องว่านี่มันยังไม่ทันจะเที่ยง ไกด์บอกว่า หลังอาหาร พวกเราจะต้องนั่งรถกันยาวเลยและต้องใช้เวลาเดินทางถึงวังเวียงราว 5 ชั่วโมง
ระยะทางจากเวียงจันถึงวังเวียงราว 160 ก.ม. ระหว่างทาง เวียงจัน-วังเวียง ไม่มีร้านอาหารที่ดีพอสำหรับพวกเราด้วย และตามโปรแกรมแล้ว เราจะต้องไปถึงถ้ำจังตอนบ่าย 4 โมง ฉะนั้นต้องรีบกินรีบไป โอ้เอ้ไม่ได้
โห.... 160 กิโล เราต้องเดินทาง 5 ชั่วโมง เฉลี่ย... 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง นี่มันคลานเป็นเต่าเลยอ่ะ แต่พอไปเจอเส้นทางมรดกโลกของจริงเข้า รู้เลย ว่าวิ่งได้เร็วแค่นี้ก็เก่งแล้วครับ
อยู่บนรถช่วงว่างๆ เราลองมาเรียนภาษาลาวบางคำดูครับ
คำไทย คำลาว ไฟเขียว = ไฟปลดปล่อย ไฟแดง = ไฟอำนาจ ไฟเหลือง = ไฟลังเล ไฟเหลืองกระพริบ = ไฟเสรี
...แล้วไฟหลากสีละครับเค้า เรียกว่าอะไร...หลากสี... เค้าเรียกว่า... สลิ่ม...เฮ้ย....... น่าน.... น้าชิต จุดพลุอีกแล้ว...... ก๊าก....
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2015, 06:43:02 PM » |
|
หลังจากที่ทุกคนอิ่มหนำสำราญแล้ว แม่นางป๊อกกี้ก็เชื้อเชิญให้ทุกคนไปขึ้น แต่แทนที่จะเป็นรถตู้ของเรา กลับกลายเป็นรถสองแถวทรงสูงซะนี่
เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อวาน ผมแสดงเจตจำนงว่าต้องการเข้าไปเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยงแห่งหนึ่งในวังเวียง นั่นก็คือ "บลูลากูล
ซึ่งตามโปรแกรมเดิมของการจัดทัวร์ไม่มีโปรแกรมนี้ เมื่อผมต้องการไปเป็นพิเศษนอกเหนือจากรายการ ไกด์ป๊อกกี้ก็จัดให้ แต่เราต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายอีกท่านล่ะ 200 บาท
ซึ่งไกด์บอกว่า ทางเข้ามันเป็นถนนลูกรัง บางช่วงขรุขระมาก รถตู้เข้ายาก จึงต้องว่าจ้างรถสองแถวทรงสูงมารับแทน ซึ่งเรื่องนี้ ผมพอทราบมาอยู่แล้ว
นอกจากนั้น ยังต้องมีค่าผ่านสะพาน และค่าเข้าชมสถานที่ เช้านี่ รถสองแถวจึงมารับที่โรงแรมแต่เช้าเลย น้ากบเลยได้นอนพักอีกหน่อย
รถพาพวกเรามาส่งตรงที่ลงเรือเพื่อโปรแกรมล่องเรือของเมื่อวานเย็นที่พวกเรายังไม่ได้ล่อง เลยเอามาลงที่เช้านี้ก่อนเลยครับ
เจ้าหยกถูกป้าแกกำหนดว่าให้ไปลงเรือลำเดียวกับป๊า เรือลำของผมเลยมีแม่ย่านางที่หัวเรือ แล้วดูเจ้าเหม่งสิ หันหน้ากลับมายิ้มเริงร่าใส่ป๊าซะด้วย คงชอบล่ะสิท่าที่ได้นั่งหัวเรือ
ภาพ ลำน้ำซอง ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-24-105 mm F 4 ถ่ายที่ 28mm โหมด AV F 6.3 1/800s ISO 400 รูปแบบภาพ ภาพบุคคล โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ - 0.33 EV
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2015, 06:58:48 PM » |
|
เมื่อวานทั้งวัน พวกเราแทบจะไม่เห็นแสงแดดกันเลยทีเดียว ฟ้าเน่ามาก แถมเมื่อเช้าที่ตื่นขึ้นมาก็เจอฝนตกซ้ำเข้าให้อีก ทำเอาผมเซ็งเป็ด เซ็งห่านกันเลย
แต่พอไปถึงริมน้ำซอง พอพบเข้ากับสายหมอกยามเช้าที่กำลังลอยอ้อยอิ่งแซมอยู่ระหว่างเทือกเขาที่สลับซับซ้อนเข้า ก็ทำเอาความคิดของผมเปลี่ยนไป
บางครั้ง บนความโชคร้าย ก็อาจจะมีความโชคดีปะปนอยู่บ้างก็ได้ อย่างเช่นเช้านี้ พอลงเรือและทุกคนได้มองไปยังอีกฝั่งของลำน้ำซอง
เห็นสายหมอกที่ประดับฉากกับเทือกเขา และลำน้ำซองที่ใสสะอาด ทุกอย่างดูสดชื่นด้วยฝนเพิ่งจะกระหน่ำผ่านไปหยกๆเมื่อกี้นี้เอง ทุกคนยิ้มอย่างพอใจ
ภาพ ลำน้ำซอง ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-24-105 mm F 4 ถ่ายที่ 82mm โหมด AV F 6.3 1/2000s ISO 1000 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ - 0.33 EV
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2015, 07:09:32 PM » |
|
เรือ พากพวกเราล่องทวนกระแสน้ำปเรื่อยๆ พวกเราที่มีกล้องก็ยกขึ้นส่องเก็บภาพบรรยากาศของลำน้ำซองไปเรื่อยๆ ที่ไม่มีกล้องก็เก็บความดื่มด่ำของธรรมชาติเอาไว้ในความทรงจำ
วิถีชีวิตของชนชาววังเวียงที่แท้จริงเริ่มเผยโฉมมออกมาเมื่อเรือนำพวกเราห่างเมืองออกไป เริ่มเห็นชาวบ้านลงมาทำธุระที่ริมน้ำตามชีวิตของตน
บ้างอุ้มลูก จูงหลานเดินข้ามสะพานไม้ ออกไปทำภาระกิจตน บ้างจูงจักรยาน อาจจะไปตลาด เด็กๆนุ่งซิ่น หอบกระเป๋าไปโรงเรียน
พลขับเรือคงจะไม่ได้ทัศนาวิวเหมือนกับพวกเรามากนัก เพราะพี่แกต้องคอยหักเรือหลบหลีกเกาะแก่งที่เป็นหินอยู่กลางลำน้ำซอง หากแล่นไปชนเข้า มีหวังงานงอกแน่ๆ
ภาพ ลำน้ำซอง ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-24-105 mm F 4 ถ่ายที่ 105mm โหมด AV F 6.3 1/800s ISO 1000 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ - 0.67 EV
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2015, 07:23:33 PM » |
|
ที่วังเวียงนี่ ผมเคยมาหลายครั้งแล้วก็จริง แต่เพิ่งจะมีคราวที่แล้ว เมื่อราวสัก 3 ปีก่อน ที่ผมมาแล้ว เค้าพามาลงเรือล่องลำน้ำ ชมวิวทิวทัศน์ของลำน้ำซอง
แต่ว่าครั้งที่แล้ว มาเอาเย็นมาก และเป็นช่วงปีใหม่ด้วย นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ จึงเห็นในลำน้ำมีเรือที่พานักท่องเที่ยววิ่งกันขวักไขว่ สวนกันไปมาไม่ขาด
แถมผมถ่ายภาพไม่ค่อยได้ เพราะมันเย็นมากแล้ว แสงสลัวลางเต็มที มองเห็นริมฝั่งสวยงามก็จริง แต่เก็บลงกล้องยาก เพราะเรือวิ่งไม่ได้หยุดนิ่งเลย
แต่มาคราวนี้ พวกเรามากันช้า มาถึงวังเวียงเอาเย็นจนมืดค่ำแล้ว จึงไม่สามารถล่องเรือได้ทัน ต้องเอามาลงตอนเช้าอย่างนี้แทน
นี่ก็นับเป็นโชคดีอีกเช่นกัน เพราะหากมาทัน เราคงต้องลงเรือเย็นๆ ผมก็คงพบกับหนังเรื่องเดิมๆอีก แต่นี่มาเช้าทำให้แสงมากพอที่จะถ่ายภาพจากในเรือได้เป็นอย่างดี
แถมบรรยากาศตอนเช้าๆ มีสายหมอกประกอบฉากกับทิวเข้าเข้าอีก ซึ่งผมไม่รู้ว่า ถ้าเมื่อเช้าฝนไม่ตก หรือวันที่พวกเรามาแล้วมันไม่มีมรสุมแบบนี้ มันจะมีหมอกอย่างนี้ไหม
ภาพ ลำน้ำซอง ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-24-105 mm F 4 ถ่ายที่ 67mm โหมด AV F 6.3 1/1250s ISO 1000 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ - 0.67 EV
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2015, 07:30:44 PM » |
|
ถือเป็นความโชคดีที่รายการเปลี่ยนแปลง แต่เป็นไปในทางที่ดีขึ้น ทุกคนยิ้มได้อย่างพอใจกับโปรแกรมทัวร์ของเช้าวันนี้
จึงอยากฝากบอกไปถึง น้ากบ และทีมงานนะครับว่า รายการล่องเรือชมวิวลำน้ำซอง ถือเป็นไฮไลท์ของวังเวียง ไม่ควรล่องเรือตอนเย็นนะครับ เปลี่ยนเอามาลงเช้าดีกว่าครับ ฟันธง
ภาพ ลำน้ำซอง ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-24-105 mm F 4 ถ่ายที่ 55mm โหมด AV F 6.3 1/800s ISO 1000 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ - 0.67 EV
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2015, 07:35:40 PM » |
|
บางมุม บางซอก ขอบเงาไม้ ผาหิน มักจะแอบแฝง ซ่อนความงดงามเอาไว้
ภาพ ลำน้ำซอง ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-24-105 mm F 4 ถ่ายที่ 105mm โหมด AV F 6.3 1/1600s ISO 1000 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ - 0.67 EV
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2015, 07:39:12 PM » |
|
ภาพสมาชิกร่วมทริปครับ เราไปกันมากหน้าหลายตาจนผมจำไม่ได้หมดครับ เลยไม่ทราบว่า ที่ถ่ายมานั่นคือผู้ใดครับ
ภาพ ลำน้ำซอง ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-24-105 mm F 4 ถ่ายที่ 45mm โหมด AV F 6.3 1/640s ISO 1000 รูปแบบภาพ ภาพบุคคล โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ - 0.67 EV
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2015, 07:46:39 PM » |
|
มาคราวก่อน ผมจำได้ว่า เรือพามาเดี๋ยวเดียวก็พากลับ ยังรู้สึกหงุดหงิดไม่หาย เพราะว่า บรรยากาศดีๆแบบนี้ ทำไมมีนิดเดียว
แต่ก็พอจะเข้าใจว่า มันมืดแล้ว อันตราย เพราะมีแก่งหินกลางลำน้ำไปทั่ว หากแล่นเรือไปชนเข้ามีหวังนักท่องเที่ยวได้ตกน้ำตกท่ากันแน่ๆ
แม้ว่าลำน้ำซองจะไม่ได้ลึกมากนัก ส่วนใหญ่ระดับน้ำก็คงแค่ราวๆหน้าอกผู้ชายตัวสูงหน่อยเท่านั้น และน้ำก็ไม่ได้เชี่ยวกรากจนน่ากลัว
แต่สำหรับผู้ที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็ยังอาจมีปัญหาได้อยู่ดี ฉะนั้น เมื่อมืดจนมองเห็นไม่ชัด เรือก็คงต้องพากลับเพื่อความปลอดภัย
แต่คราวนี้ เรามากันแบบยาวๆเลยครับ
ภาพ ลำน้ำซอง ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-24-105 mm F 4 ถ่ายที่ 35mm โหมด AV F 6.3 1/1250s ISO 1000 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ - 0.67 EV
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2015, 07:49:32 PM » |
|
หลายแง่มุมที่สวยจนแทบไม่อยากเชื่อ ทำให้นึกถึงภาพวาดหมึกภู่กันจีน เลยลองเอามาทำดูบ้างครับ
ภาพ ลำน้ำซอง ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-24-105 mm F 4 ถ่ายที่ 105mm โหมด AV F 6.3 1/1600s ISO 1000 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ - 0.67 EV แต่งภาพเป็น ขาว-ดำ
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2015, 08:36:36 PM » |
|
นั่งเรือชมวิวกันอย่างเพลิดเพลิน และนี่คือที่มาของชื่อ "กุ้ยหลินเมืองลาว" สวยสมคำล่ำลือจริงๆ
ภาพ ลำน้ำซอง ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-24-105 mm F 4 ถ่ายที่ 105mm โหมด AV F 6.3 1/2500s ISO 1000 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ - 0.67 EV
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #41 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2015, 08:38:59 PM » |
|
นี่ถ้าหากว่า มีฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเข้ามาด้วยล่ะก้อ.... วังเวียงถึงกับเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลกเลยเชียวล่ะครับ
ภาพ ลำน้ำซอง ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-24-105 mm F 4 ถ่ายที่ 35mm โหมด AV F 6.3 1/1600s ISO 1000 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ - 0.67 EV
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #42 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2015, 08:49:02 PM » |
|
ด้วยความที่เคยมาครั้งหนึ่งแล้ว เลยพอรู้ว่า เลนส์ที่เหมาะกับการถ่ายภาพตรงนี้ ควรเป็นเลนส์ที่มีช่วงมุมกว้างไปจนถึงซูมมากสักหน่อย ผมจึงเลือกเลนส์ 24-105 mm ใส่กล้องมา
เพราะเล็งเอาไว้ว่า การนั่งเรือหางยาว ไม่มีเครื่องกั้น ลมและละอองน้ำกระเซ็นเข้ามาโดนเราตลอดเวลา จึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะถอดเปลี่ยนเลนส์ขณะที่เรือกำลังแล่นอยู่
การเลือกใช้เลนส์ที่มีคุณสมบัติเป็นทั้งเลนส์มุมกว้าง ไปจนถึงเทเลระยะกลางๆ จึงน่าจะเหมาะกับงานมากที่สุด
แต่พอมาถ่ายมุมนี้ ทำให้ผมเก็บมุมภาพได้ไม่หมด และความบิดเบี้ยวสู้เลนส์จำพวก Fisheye ไม่ได้ เห็นภาพของเพื่อนๆสมาชิกแล้ว อยากเขกกระโหลกตัวเองแท้ๆ
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็ต้องว่าด้วยคาถา สูตรของน้ายอดเค้า แต่คราวนี้ ผมเอามาใช้แทนซะ ผมจึงแต่ง Fisheye ในโปรแกรมครับ
แต่ดูยังไงๆ ก็ไม่เหมือนของจริงอยู่ดีครับ
ภาพ ลำน้ำซอง ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-24-105 mm F 4 ถ่ายที่ 24mm โหมด AV F 6.3 1/1000s ISO 1000 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ - 0.67 EV แต่งด้วยโปรแกรม
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #43 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2015, 08:51:30 PM » |
|
ภาพมันจะดูเป็น Fisheye หรือไม่ ก็ทำได้แค่นี้แล้วล่ะครับ นอกจากว่าจะย้อนกลับไปถ่ายมาใหม่เท่านั้น ไม่แน่นะครับ อาจจะต้องมีทริปล้างตาอีกครั้งก็เป็นได้
มุมนี้ มองเผินๆ ใกล้เคียงกับ "จางเจี๋ยเจี้ย" หรือ "หุบเขาอวตาร" ในเมืองจีนเหมือนกันนะครับ
ภาพ ลำน้ำซอง ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-24-105 mm F 4 ถ่ายที่ 24mm โหมด AV F 6.3 1/1000s ISO 1000 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ - 0.67 EV แต่งด้วยโปรแกรม
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
chit_50
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #44 เมื่อ: ธันวาคม 23, 2015, 05:54:32 AM » |
|
หลังจากชมพระธาตุหลวงแล้ว เพิ่งจะ 11 โมงกว่า ไกด์ก็พาไปทานข้าวเที่ยง พวกเราทุกคนร้องว่านี่มันยังไม่ทันจะเที่ยง ไกด์บอกว่า หลังอาหาร พวกเราจะต้องนั่งรถกันยาวเลยและต้องใช้เวลาเดินทางถึงวังเวียงราว 5 ชั่วโมง
ระยะทางจากเวียงจันถึงวังเวียงราว 160 ก.ม. ระหว่างทาง เวียงจัน-วังเวียง ไม่มีร้านอาหารที่ดีพอสำหรับพวกเราด้วย และตามโปรแกรมแล้ว เราจะต้องไปถึงถ้ำจังตอนบ่าย 4 โมง ฉะนั้นต้องรีบกินรีบไป โอ้เอ้ไม่ได้
โห.... 160 กิโล เราต้องเดินทาง 5 ชั่วโมง เฉลี่ย... 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง นี่มันคลานเป็นเต่าเลยอ่ะ แต่พอไปเจอเส้นทางมรดกโลกของจริงเข้า รู้เลย ว่าวิ่งได้เร็วแค่นี้ก็เก่งแล้วครับ
อยู่บนรถช่วงว่างๆ เราลองมาเรียนภาษาลาวบางคำดูครับ
คำไทย คำลาว ไฟเขียว = ไฟปลดปล่อย ไฟแดง = ไฟอำนาจ ไฟเหลือง = ไฟลังเล ไฟเหลืองกระพริบ = ไฟเสรี
...แล้วไฟหลากสีละครับเค้า เรียกว่าอะไร...หลากสี... เค้าเรียกว่า... สลิ่ม...เฮ้ย....... น่าน.... น้าชิต จุดพลุอีกแล้ว...... ก๊าก.... ...เค้าป่าวน้า...
|
|
|
|
|
|