กุมภาพันธ์ 06, 2025, 04:50:34 PM
หน้าแรก
|
ช่วยเหลือ
|
เข้าสู่ระบบ
|
สมัครสมาชิก
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ชมรมภาพถ่ายสมุทรปราการ
»
Gallery
»
Landscape
»
เรื่องเล่าจากหลวงพระบาง
เรื่องเล่าจากหลวงพระบาง
หน้า:
1
2
3
4
5
6
»
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
เรื่องเล่าจากหลวงพระบาง
ผู้เขียน
ข้อความ
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
เรื่องเล่าจากหลวงพระบาง
«
เมื่อ:
ธันวาคม 19, 2015, 01:15:17 PM »
ครับ คงได้ฤกษ์ซะทีครับ หลังจากที่กลับมาจากลาวแล้วเอาดองซะหลายวัน พอให้มีกลิ่นตุๆ ไม่ถึงกับเน่าซะทีเดียว ด้วยเหตุผลหลายประการด้วยกัน เช่น ป่วย (ไม่รู้เป็นไง ไปเที่ยวไหนกลับมาเป็นต้องป่วยทุกทีสิน่า) และหวังให้เพื่อนๆที่ร่วมทริปได้เอาภาพลงกันก่อน วันนั้นเลยลงเพียงปก กับภาพน้ำจิ้มอีกนิดหน่อย แต่คราวนี้ของจริงแล้วครับ
ภาพหน้าปกครับ ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-24-105 mm F4 L ถ่ายที่ 24mm + ฟิลเตอร์ C-PL โหมด AV F 6.3 1/15s ISO 100 รูปแบบภาพ ภาพวิว + HDR โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ -0.67 EV
FRW_0040.JPG
(343.89 KB, 1200x804 - ดู 52 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 19, 2015, 02:06:24 PM โดย FRW
»
Share
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เรื่องเล่าจากหลวงพระบาง
«
ตอบ #1 เมื่อ:
ธันวาคม 19, 2015, 01:24:21 PM »
เรานัดออกเดินทางกันวันที่ 5 ธ.ค. 58 เวลา 20.00น. ที่ปั๊ม ปตท. หน้าบิกซีจัมโบ้ สำโรง (จะได้ค่าโฆษณามั๊ยเนี่ย...)
ราว 17.30 น.ก่อนถึงเวลานัดหมาย ฟ้าก็ดันประทานฝนลงมาให้ซะเย็นชุ่มฉ่ำอุราตอนก่อนออกเดินทางเล็กน้อย ผมไม่ได้ขอ..... จริงๆนะ ล่อซะท่วมถนนบานเบอะ
19.30น. พี่กบ นำรถตู้มารับตามนัด แต่บ่นอุบ่วา "ตูเพิ่งเสียค่าล้างรถไป 200 ออกมาก็เจอเลย เซ็ง" ครับ เทวดา ฟังไว้นะครับ ให้ฝนให้มันถูกที่ ถูกเวลากันหน่อยนะครับ 555
ภาพถ่ายด้วยกล้องโทรศัพท์..... เอ่อ.... อะไรก็ช่างมันเถอะครับ ไม่ได้ค่าโฆษณานี่หว่า......
FRW_0001.jpg
(261.26 KB, 1000x750 - ดู 51 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เรื่องเล่าจากหลวงพระบาง
«
ตอบ #2 เมื่อ:
ธันวาคม 19, 2015, 01:33:16 PM »
หลังจากที่รับสมาชิกครบทุกท่านที่พร้อมกันอยู่ที่ปั๊มแล้ว น้ากบก็นำรถตู้ลุยน้ำที่เจิ่งนองถนนมุ่งหน้าไปหนองคายทันที
บนรถตู้ 11 ชีวิต คือ น้ากบ สารถี น้าหมี น้ายอด น้าสมชาย น้าชิต 4 ช. น้าคิง ป้าปิ่น หนูหยก น้องมิก ป้าสร้อย ป้าอ้อ
ภาพบนรถตู้ ถ่ายด้วยกล้อง 7D + Lens EF-S 18-135 mm F3.5-5.6 ถ่ายที่ 18mm โหมด AV F 3.5 1/50s ISO 400 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ -0.00 EV
FRW_0002.JPG
(355.04 KB, 1200x800 - ดู 51 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 19, 2015, 02:05:37 PM โดย FRW
»
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เรื่องเล่าจากหลวงพระบาง
«
ตอบ #3 เมื่อ:
ธันวาคม 19, 2015, 02:02:20 PM »
รถบนถนนค่อนข้างบางตา จึงทำความเร็วได้ค่อนข้างดี เกือบเที่ยงคืน เราก็ถึงโคราช น้ายอดถามว่าจะแวะกินข้าวต้มซะหน่อยไหม เมื่อไม่มีใครคัดค้าน น้ากบจึงพาแวะร้านข้าวต้มข้างทางที่มาจากสระบุรีก่อนถึงทางแยกเลี้ยวซ้ายออกไปทางขอนแก่นราว 100 เมตรเห็นจะได้
หลังจากที่ฟาดข้าวต้มไปคนล่ะถ้วย 2 ถ้วย พอผมเรียกเก็บตัง ก็ต้องตกใจนิดๆ เพราะแม่ค้าบอกว่า ทั้งหมด 1250 บาท เอา 9 หาร (หนูหยกหลับ เลยไม่ได้ลงมากินด้วย) ตกท่านล่ะ 138.8 บาท 555 ข้าวต้มแพงล่ะครับ
เอาล่ะ เมื่อกินไปแล้ว จะต่อล้อต่อเถียงก็คงยาก เราจึงขึ้นรถออกเดินทางต่อไป ช่วงปลายทาง น้ากบแกเห็นว่าเวลาเหลือเฟือ แกเลยแอบจอดรถที่ปั๊มแล้วแกแอบไปงีบซะทีนึง โดยปล่อยให้ลูกทัวร์ทั้งรถ งง ว่าแกหายไปไหนซะนาน
พอใกล้เวลา แกก็มาขับรถต่อไปอีกอย่างหน้าตาเฉย คนอะไร ทำยังกะปิด- เปิดสวิตซ์ตัวเองได้ นึกอยากหลับก็ปิดสวิตซ์หลับทันทีงั้นแหละ
ราว 5.00น. ป้าอ้อแกแนะนำว่าให้น้ากบเอารถแวะบ้านเพื่อนแกที่หนองคายเพื่อเข้าห้องน้ำ ให้ทุกคนอาบน้ำทำธุระส่วนตัวกันเสียก่อน ทุกคนก็ งงๆ กับแก พอถึงบ้านเพื่อนของแกก็ออกมาต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี (น้ำใจคนอิสานเพิ่นก็เป็นจั้งซี่แหละ)
พวกผู้หญิงได้สิทธิ์เข้าห้องน้ำที่มีเพียงห้องเดัยวก่อน ส่วนพวกผู้ชายคงต้องรอ..... แต่ผม น้ายอด น้าสมชาย รู้สึกหวั่นไหวจนเหลือจะกลั้นแล้ว ในที่สุด น้ายอดแกเลยเดินออกไปสำรวจพื้นที่แถวๆหน้าบ้านเพื่อนของป้าอ้อ แล้วกลับมาบอกผมว่า
"ที่หน้าบ้านข้างวัด มีพื้นที่ว่างเป็นป่าอยู่ พอได้อาศัย ไปเถอะ ก่อนที่ท่านจะประทานฝนลงบ้านเค้า" ผมจึงเดินไปสำรวจพื้นที่ดูบ้าง แต่.... ฟ้าเริ่มสางแล้ว ชาวบ้าน ร้านถิ่นเค้าเริ่มเปิดประตูบ้านออกมาเพื่อทำภาระกิจประจำวันของเค้าแล้ว
แล้วผมจะไปเที่ยวส่องนกแถวๆนั้นได้ไง? เฮ้อ..... ป้าอ้อนะ ป้าอ้อ..... ทำไมไม่แวะปั๊มน้ำมันอ่ะ
มันมีห้องน้ำเยอะพอที่จะให้คนทั้งคันได้ใช้แบบพร้อมๆกันได้ มาแบบนี้ เห็นทีผมจะต้องเรี่ยราดให้ต้องอับอายคนแถวนี้ซะมั้ง
ส่วนน้าสมชายกะน้าชิต จะรู้สึกยังไงผมไม่รู้ กว่าผมจะได้คิวเข้าห้องน้ำได้ เล่นเอาเกือบทะลัก
ไม่เอานะป้าอ้อ..... คราวหน้าอย่าทำแบบนี้กะผมอีก ผมแย่..เลย แวะปั็มก่อนเถอะนะ ขอร้อง 555
เมื่อทุกคนเรียบร้อย น้ากบก็พาเรามุ่งหน้าไปวัดหลวงพ่อพระใสตามโปรแกรม เราเข้าไปถึงโบถส์ยังไม่เปิด น้ากบบอกว่า รอปูเหลียว สักพักโบถส์ก็เปิดให้ขึ้นไปได้ นอกจากรถตู้ของเราแล้ว ยังมีอีก 2-3 ตู้ที่มารออยู่เหมือนกัน
เมื่อโบถส์เปิด ใครใคร่กราบพระก็กราบไป ใครใคร่ทำบุญ ก็ทำไป ส่วนพวกเราตากล้องก็จ้องหามุมกันไป
ภาพในโบถส์ ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-16-35 mm F2.8 L ถ่ายที่ 16mm โหมด AV F 5.6 1/80s ISO 3200 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ -0.00 EV
FRW_0003.JPG
(394.77 KB, 1200x804 - ดู 51 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 20, 2015, 07:15:33 AM โดย FRW
»
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เรื่องเล่าจากหลวงพระบาง
«
ตอบ #4 เมื่อ:
ธันวาคม 19, 2015, 02:19:56 PM »
ในโบถส์ มีพระสงฆ์เพียงรูปเดียวเท่านั้นที่ลงโบถส์มาทำวัตรเช้า ก็ไม่ทราบว่าเพราะอะไร และเวลาขณะนี้ก็ 6.00 น. เข้าไปแล้ว เหตุใดท่านจึงลงโบถส์ช้ากว่าที่ควรจะเป็นก็ไมทราบอีกนะแหละ เพราะโดยปกติแล้ว พระทั่วๆไปมักจะลงโบถส์ราว ตีห้า กว่าจะทำวัตรเช้าเสร็จก็สว่างพอดี กลับกุฏินำอัฐบริขารได้ก็จาริกออกแสวงบุญบิณฑบาตรเช้า แต่นี่ท่านเล่นลงสาย สงสัยว่าท่านอาจจะฉันมื้อเดียว เพราะพระที่ฉันมื้อเดียวส่วนใหญ่จะฉันสายครับ
ท่านก็ว่าของท่านไปเสียงเจี้อยแจ้ว หนูหยกเข้ามาสะกิดถามผมว่า "แม่ชีทำไมแต่งเลียนแบบพระได้" ผมสะดุ้งโหยง ร้อง "เฮ้ย..... ไม่ใช่แม่ชี แต่ท่านเป็นพระ" หนูหยกทำหน้างุนงงครางอีกว่า "พระอะไร? ทำไมเสียงท่านเหมือนผู้หญิงเลย"
เออ... เน๊อะ เสียงพระแหลมสูงคล้ายเสียงผู้หญิงจริงๆแหละ
สงสัยท่านคงแอบได้ยินผมสองพ่อ-ลูกคุยกัน ตอนท่านก้มลงกราบพระ ท่านเลยแสดงอภินิหารเล็กๆให้ดูว่า... ฉันมี......นะเว้ย..... ตุงจีวรออกทางข้างหลังเลยเชียว ธรรมดาซะที่ไหน
ภาพในโบถส์ ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-16-35 mm F2.8 L ถ่ายที่ 16mm โหมด AV F 5.6 1/80s ISO 3200 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ -0.00 EV
FRW_0004.JPG
(360.95 KB, 1200x804 - ดู 50 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 19, 2015, 02:25:23 PM โดย FRW
»
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เรื่องเล่าจากหลวงพระบาง
«
ตอบ #5 เมื่อ:
ธันวาคม 19, 2015, 02:31:51 PM »
ผมลองเปลี่ยนเลนส์ไปใช้ Fisheye นอนหงายกับพื้นโบถส์แล้วส่องเลนส์ขึ้นเพดาน ก็ได้มุมแปลกๆตาครับ
ภาพในโบถส์ ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens Fisheye EF-15 mm F2.8 ถ่ายที่ 15mm โหมด AV F 5.6 1/250s ISO 3200 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ -0.00 EV
FRW_0005.JPG
(335.69 KB, 670x1000 - ดู 45 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 21, 2015, 09:13:51 AM โดย FRW
»
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เรื่องเล่าจากหลวงพระบาง
«
ตอบ #6 เมื่อ:
ธันวาคม 19, 2015, 02:42:16 PM »
ออกจากวัดราว 7.00น. น้ากบบอกว่าจะพาไปทานอาหารเช้าที่ขึ้นชื่อของเมืองหนองคาย นั่นก็คือ ไข่กะทะ แต่พอออกจากวัดจึงได้รู้ว่า มีการกั้นถนนเป็นบางช่วงเพื่อทำกิจกรรม"ปั่นเพื่อพ่อ"ด้วย
น้ากบต้องอาศัยความชำนาญเอารถหลบหลีกเครื่องกั้นและผู้คนที่ลงมาวิ่งเพื่อพ่อ ปั่นเพื่อพ่อ ในที่สุดก็พามาจนถึงร้าน "ทานตะวัน"จนได้ครับ
ภาพหน้าร้าน ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-16-35 mm F2.8 L ถ่ายที่ 16mm โหมด AV F 8 1/50s ISO 800 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ -0.00 EV
FRW_0006.JPG
(382.15 KB, 1200x800 - ดู 46 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 19, 2015, 02:59:55 PM โดย FRW
»
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เรื่องเล่าจากหลวงพระบาง
«
ตอบ #7 เมื่อ:
ธันวาคม 19, 2015, 02:48:05 PM »
ไม่เชื่อ ก็ต้องเชื่อครับ ขนาดเป็นวันหยุด ในร้าน คนแน่นร้านเลยเชียวครับ พวกเรามองหาที่นั่งไม่เจอ ต้องยืนรอ จนกระทั่งน้ากบอีกนั่นแหละ ที่เข้าไปเคลียร์ทางร้านให้ และบอกให้ยืนคอยที่โต๊ะหนึ่งซึ่งเค้ากำลังจ่ายเงินแล้ว
หลังจากที่ได้ที่นั่ง พวกเราที่อ่อนเพลียมาจากการเดินทางก็ว่ากันเต็มที่ โดยลืม... ไม่ได้คิดถึงน้ากบกันเลยว่า ขับรถมาทั้งคืน ไม่รู้ได้กินยัง
ภาพในร้าน ถ่ายด้วยกล้อง 7D + Lens EF-18-135 mm F3.5-5.6 ถ่ายที่ 18mm โหมด AV F 3.5 1/50s ISO 400 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ -0.00 EV
FRW_0008.JPG
(284.83 KB, 1000x667 - ดู 45 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 19, 2015, 03:00:08 PM โดย FRW
»
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เรื่องเล่าจากหลวงพระบาง
«
ตอบ #8 เมื่อ:
ธันวาคม 19, 2015, 02:59:32 PM »
ไข่กะทะกับผมนี่ เป็นของแสลงกันครับ แบบว่า.... พอเจอกันทีไร เป็นต้องฟาดฟันกันพังไปข้างนึงอ่ะครับ ก็..แหม.... กะทะเล็กๆแค่นี้ มันจะไปครนาท้องผมสักแค่ไหนเชียว จึงมีอันต้องเบิ้ลซ้ำแล้วซ้ำอีกทุกทีไปสิหน่า.....
ผมมาหนองคาย หรือจังหวัดใกล้เคียงแถบๆนี้เป็นต้องหาของแสลงกินทุกทีไป กินมันตั้งแต่หนุ่มยันแก่ ไม่รู้ผนังหลอดเลือดจะใกล้ตันแล้วหรือยัง รู้ทั้งรู้...ว่ากินไข่มากๆมันไม่ดี แต่มาทีไรก็เบิ้ลซะหลายกะทะทุกที
มาคราวนี้เกรงใจน้ากบ เลยฟาดไปแค่ 2 กะทะเอง เฮ้อ.... พูดถึงแล้วพาลน้ำลายไหล ไข่กะทะกับก๋วยเตี๋ยวญวน เข้ากั๊น...เข้ากัน
ร้านทานตะวันที่น้ากบพามานี่ ถือว่าขึ้นชื่อถึงความอร่อยพอควรเชียวแหละ ดูจากลูกค้าที่แน่นร้านก็น่าจะเป็นคำตอบได้อยู่แล้ว
กินเสร็จแล้วก็ถึงเวลาต้องยถาแล้วสิครับ
"ยถา...วลีวหาร... กินกันตั้งหลายจาน ไม่มีใครช่วยหารกันซักคนเลย....."
ภาพอาหาร ถ่ายด้วยกล้อง 7D + Lens EF-18-135 mm F3.5-5.6 ถ่ายที่ 18mm โหมด AV F 3.5 1/50s ISO 400 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ -0.00 EV
FRW_0007.jpg
(388.56 KB, 1000x750 - ดู 46 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เรื่องเล่าจากหลวงพระบาง
«
ตอบ #9 เมื่อ:
ธันวาคม 19, 2015, 03:23:25 PM »
ประมาณ 8.00น. น้ากบพามาถึงด่านชายแดนสะพานมิตรภาพ ไทย - ลาว พบเจ้าหน้าที่ของน้ากบที่มาช่วยจัดการเรื่องพาสปร์อต และพาไปให้เจ้าหน้าที่ ต.ม. ถ่ายรูปและสแตมป์ออกนอกประเทศ จากนั้นก็กลับไปขึ้นรถตู้เดินทางข้ามสะพานไปฝั่งลาว บ้านพี่ - เมืองน้องของเรา
น้ากบต้องเอาซิมการ์ดประเทศไทยออกจากสมอง และเปลี่ยนเป็นซิมลาวแทน เพราะที่ประเทศลาว ต้องขับรถชิดขวา ไม่ใช่ชิดซ้ายอย่างไทย หากไม่เปลี่ยนซิมให้ดี อาจมีขับหลงไปชิดซ้ายได้ครับ
เอาล่ะ เรามาถึงฝั่งลาวกันแล้ว ต้องผ่านด่าน ต.ม. ของทางฝั่งลาวอีกที แต่เจ้าหน้าที่ของน้ากบได้มาเดินเอกสารเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว เราจึงไม่ต้องเสียเวลามากนัก น้ากบรับไกด์ลาวขึ้นรถและแนะนำว่า เธอชื่อ ป๊อกกี้
เฮ้ย..... ป๊อกกี้... แม่นภาษาลาวบ๊อ.....นี่
จากนี้ไป หน้าที่การดูแลพวกเรา น้ากบโยนให้เป็นหน้าที่ของไกด์ลาว
ซึ่งเธอแนะนำตนเองด้วยสำเนียงภาษาลาวอีกครั้งว่าเธอชื่อป๊อกกี้ เป็นไกด์ชาวลาว จะมาทำหน้าที่พาพวกเราทั้ง 10 ชีวิตเที่ยวชมเมืองลาว
"เธอเป็นไกด์ผู้หญิง โดนแล้วบ่...." เสียงน้าชิตทะลุกลางปล้องสอดแทรกขึ้นขัดจังหวะการแนะนำตัวของไกด์สาวเรียกเสียงฮาไปทั้งรถเพราะคำถามกำกวมฟังแล้วเหมือน 2 แง่ 3 มุมชอบกล
เธอหันหน้ามามองต้นเสียงแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ไม่ค่อยเต็มเสียงว่า
"ยัง... ยังบ่ทันโด่น..เท่าไร อันว่า... ก็... เป็นมาหลายปีแล่ว...." ทำให้พวกเราอดที่จะฮากันอีกรอบไม่ได้
ภาพเจ้าหนูหยกที่หน้าด่าน ต.ม. ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-16-35 mm F2.8 L ถ่ายที่ 16mm โหมด AV F 4 1/250s ISO 800 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ +0.33 EV
FRW_0009.JPG
(388.05 KB, 1200x800 - ดู 45 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 19, 2015, 04:35:57 PM โดย FRW
»
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เรื่องเล่าจากหลวงพระบาง
«
ตอบ #10 เมื่อ:
ธันวาคม 19, 2015, 04:24:03 PM »
ก่อนวันออกเดินทาง ผมเช็คข่าวพยากรณ์อากาศบอกว่า "เวียงจัน วังเวียง หลวงพระบาง อากาศเย็น 16 องศาในตอนเช้า ไม่มีฝน"
พอวันออกเดินทาง ฝนดันถล่มใส่สมุทรปราการซะน้ำท่วมถนน พวกเราก็ได้แต่หวังว่าไปถึงเวียงจันแล้ว อากาศคงจะดีขึ้น ท้องฟ้าเปิด
แต่เมื่อเช้า พวกเราแหงนหน้ามองฟ้าแล้วใจแป้วเลยครับ ขาวโพลน...ไปทั้งฟ้า ข้ามมาฝั่งลาวแล้วก็เหมือนกัน
"ออกจากด่านตรงนี้แล้ว โทรศัพท์มือถือของไทยจะใช้ไม่ได้แล้วนะครับ ใครที่ต้องการจะใช้โทรศัพท์ต้องเปิดรอมมิ่งมา แต่ค่าใช้จ่ายจะแพงมาก หากใครไม่อยากเสียเงินแพงๆ ก็ให้เข้าโหมดการบินซะนะครับ หรือไม่ก็ซื้อซิมการ์ดของลาวใส่นะครับ ราคาหลักร้อย"
เสียงน้ากบแนะนำมา หลายคนรีบทำตามเพราะกลัวเรื่องค่าใช้จ่ายที่ว่า ส่วนน้าคิงลงไปขอซื้อซิมการ์ดเอาไว้ใช้ติดต่องานของแก
"จากตรงนี้ ป๊อกกี้จะพาไปจุดแรกคือวัดศรีเมืองนะคะ" เสียงไกด์สาวบอกความมา
ที่จริง ผมมาเวียงจันบ่อยครั้งพอสมควร นับๆแล้วน่าจะเกิน 10 แต่บอกเลยว่า วัดศรีเมือง (วัดสีเมือง) หรือวัดหลักเมืองนี่ ผมเคยไปแค่ครั้งเดียว แทบจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ
มาครั้งที่แล้ว เมื่อราวเกือบๆ 3 ปีก่อน ก็ไม่ได้แวะเข้าไป เพราะไกด์อรบอกว่าวัดศรีเมืองไม่ค่อยมีอะไร จึงตัดรายการออก
มาครั้งนี้ ไกด์ป๊อกกี้บอกว่า วัดพระแก้วกำลังซ่อมแซมอยู่เข้าไม่ได้ ต้องตัดออก แต่ที่นี่เข้าได้เลยเข้าที่นี่ก่อน
เราวิ่งรถมาแป๊บเดียวก็ถึง พอลงจากรถได้ ตากล้องทุกคนแหงนหน้ามองท้องฟ้าก่อนเลย แล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
ภาพโบถส์วัดศรีเมือง ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-16-35 mm F2.8 L ถ่ายที่ 16mm โหมด AV F 11 1/200s ISO 800 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ +0.33 EV แต่งเพิ่มท้องฟ้า
FRW_0010.JPG
(389.07 KB, 1200x804 - ดู 45 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 19, 2015, 04:40:28 PM โดย FRW
»
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เรื่องเล่าจากหลวงพระบาง
«
ตอบ #11 เมื่อ:
ธันวาคม 19, 2015, 04:52:12 PM »
ทวยหูช้าง ใต้หลังคาโบถส์ริมนอก แกะสลักเป็นรูปพญานาค วางเรียงรายก่อให้เกิดภาพเป็นมิติทางลึกอย่างสวยงาม ผมอดไม่ได้ที่จะยกกล้องขึ้นส่องเก็บภาพที่แสนอลังการณ์นี้ไม่ได้
ภาพทวยหูช้างริมโบถส์ ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-70-200 mm F2.8 L IS II ถ่ายที่ 200mm โหมด AV F 4 1/250s ISO 800 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ +0.33 EV
FRW_0011.JPG
(394.83 KB, 670x1000 - ดู 45 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เรื่องเล่าจากหลวงพระบาง
«
ตอบ #12 เมื่อ:
ธันวาคม 19, 2015, 04:59:16 PM »
ตัวอาคารโบถส์ถูกแบ่งเป็นสองส่วนใหญ่ๆ คือ ซีกอาคารส่วนหน้า ประดิษฐานพระประธานและพระบูชาองค์อื่นๆ ด้านหลังพระประธานกั้นแบ่งห้อง มีประตูเข้า-ออกทั้งฝั่งซ้าย-ขวา ด้านในห้องที่กั้นแบ่ง ประดิษฐานไว้ด้วยเสาหลักเมือง และพระบูชาอื่นๆ
ภาพเสาหลักเมือง ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-70-200 mm F2.8 L IS II ถ่ายที่ 70mm โหมด AV F 4 1/60s ISO 3200 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ +0.66 EV
FRW_0012.JPG
(394.62 KB, 1200x804 - ดู 43 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เรื่องเล่าจากหลวงพระบาง
«
ตอบ #13 เมื่อ:
ธันวาคม 19, 2015, 06:54:25 PM »
ที่บริเวณซ้ายมือขององค์พระ ได้กั้นฉากเอาไว้เป็นห้องเล็กอีกห้องเพื่อประดิษฐานหุ่นจำลองของ"เจ้าแม่สีเมือง" ซึ่งไกด์ได้เล่าว่า.....
"ศาลหลักบ้านหลักเมืองของนครหลวงเวียงจันทร์
หลักบ้านหลักเมืองของนครเวียงจันทร์ นั้น มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า ก่อนจะมีพิธีลงเสาหลักเมือง ซึ่งชาวบ้านได้พากันนำทรัพย์มีค่า เช่น เครื่องเงิน เครื่องทอง ฯลฯ ใส่ลงไปในหลุมตามความเชื่อถือเป็นจำนวนมากมายแล้วนั้น ทางการได้ออกลาดตะเวนป่าวประกาศไปทั่วนคร เพื่อจะทำพิธีฝังอาถรรพณ์ และอาถรรพ์นั้นก็คือการฝังคนเป็นๆ จึงขออาสาสมัครอุทิศตนไปเป็นผีเฝ้าทรัพย์ในหลุม และคอยรักษาเมือง
ขณะนั้น มีหญิงลาวชื่อ “สีเมือง” ได้แต่งงานอยู่กินกับสามี และตั้งท้องได้ประมาณ ๓ เดือน กำลังประสบปัญหาในครอบครัว ด้วยถูกสามีจำกัดสิทธิ ปิดกั้นมิให้ออกไปพบปะปะกับผู้ใด จึงทำให้นางเกิดความเครียดน้อยเนื้อต่ำใจ เดินหนีออกจากบ้าน และได้ยินเสียงป่าวประกาศขอผู้อุทิศตนเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ นางจึงเดินไปยังที่ที่ทำพิธี แล้วกระโดดลงไปในหลุม ทางการจึงผลักม้าตามลงไป ๑ ตัว แล้วปล่อยเสาหลักเมืองลงหลุม นางจึงถูกฝังทั้งเป็นพร้อมลูกในครรภ์และม้าอีก ๑ ตัว กลายเป็นตำนานการสร้างศาลเจ้าแม่สีเมืองสืบมาจนทุกวันนี้
เสาหลักบ้านหลักเมืองของนครเวียงจันทน์ หรือ ศาลเจ้าแม่สีเมืองดังกล่าว ตั้งอยู่ภายในวัดสีเมือง นครเวียงจันทน์ วัดนี้จึงมีชื่อเรียกกันทั่วไปว่า “วัดเจ้าแม่สีเมือง” ทุกวันนี้ ประชาชนชาวลาวและชาวต่างชาติ ต่างนำต้นผึ้งต้นเทียน (ต้นไม้ประดิษฐ์จากกระดาษสีเงินและสีทอง) มากราบไหว้และบนบานขอพรจากเจ้าแม่สีเมืองกันเป็นจำนวนมาก และการบนบานนั้นกล่าวกันว่า มักสำเร็จสมความปรารถนา ยกเว้นเรื่อง “ความรัก” ที่ห้ามบนบาน เพราะเจ้าแม่สีเมืองไม่ประสบความสำเร็จในการครองชีวิตคู่"
เอ้า..... วันนั้นใครที่ไม่ได้ฟังไกด์ป๊อกกี้อธิบายความเป็นมาของวัดสีเมืองและความสำคัญของศาลเจ้าแม่สีเมือง ก็มาเอาความรู้ไปด้วยครับ
ภาพศาลเจ้าแม่สีเมือง ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-70-200 mm F2.8 L IS II ถ่ายที่ 70mm โหมด AV F 4 1/100s ISO 3200 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ +0.66 EV
FRW_0012-1.JPG
(256.77 KB, 671x1000 - ดู 45 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: เรื่องเล่าจากหลวงพระบาง
«
ตอบ #14 เมื่อ:
ธันวาคม 19, 2015, 07:24:53 PM »
เราออกมาที่ส่วนหน้าของโบถส์อีกที จะเห็นมีนักท่องเที่ยวเข้ามาสักการะบูชากันไม่ขาดสายทีเดียว แต่ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยซะมากกว่า แม้แต่ป้ายบูชาที่เขียนอักษรการอ่านมนต์ยังเป็นภาษาไทยเลยครับ
นี่แสดงให้เห็นถึงความเป็นบ้านพี่-เมืองน้องกันจริงๆ เพราะลาวและไทย มีศาสนาพุทธและวัฒนธรรมคล้ายคลึงกันมาก คุณยาย (แม่ใหญ่) ท่านนี้ เรียกร้องเชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวร่วมทำบุญ และคอยผูกข้อไม้ข้อมือ ให้ศีลให้พร
ก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่สุดครับ ที่ภาษาเราต่างเข้าใจกันได้ แม้ว่าบางคำอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคย แต่ก็พอจะเดาๆกันถูกครับ
ภาพแม่ใหญ่ ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III + Lens EF-70-200 mm F2.8 L IS II ถ่ายที่ 120mm โหมด AV F 4 1/160s ISO 3200 รูปแบบภาพ ภาพวิว โดยตั้งค่ากลางเอาไว้ที่ -0.67 EV
FRW_0013.JPG
(396.41 KB, 670x1000 - ดู 44 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
หน้า:
1
2
3
4
5
6
»
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
News ข่าวสารต่างๆและกิจกรรมทั่วไป
-----------------------------
=> ข่าวสาร,กิจกรรม และ SPC CLUB
=> Photo contest
-----------------------------
แนะนำ Trip
-----------------------------
=> แนะนำ Trip ประจำจังหวัดสมุทรปราการ
-----------------------------
Trip & Tour
-----------------------------
=> กิจกรรมท่องเที่ยวและถ่ายภาพ
-----------------------------
Gallery
-----------------------------
=> Landscape
=> Portrait
=> สัพเพเหระ
===> Action,Sport
=> Black&White
=> ส่องนก,ส่องสัตว์
=> Macro
-----------------------------
ห้องกลุ่มอุปกรณ์ถ่ายภาพ
-----------------------------
=> อุปกรณ์เสริมต่างๆ
=> กลุ่ม Canon
=> กลุ่ม Nikon
=> กลุ่ม Sony
=> กลุ่มค่ายอื่นๆ
===> กลุ่ม Olympus
===> กลุ่ม PENTAX
===> กลุ่ม FUJI
-----------------------------
Technic & Question to Ans.
-----------------------------
=> เทคนิคการถ่ายภาพต่างๆ
=> เทคนิคการตกแต่งภาพ
=> ห้องพูดคุยสอบถามเรื่องทั่วไป
-----------------------------
ซื้อ-ขายอุปกรณ์ถ่ายภาพ
-----------------------------
=> Promotion ,new
=> ของมือสองเกี่ยวกับการถ่ายภาพ
กำลังโหลด...