ต่อไป »

     ฝูงชนนักท่องเที่ยวมากมายแบบนี้  ทำให้มุมถ่ายภาพยากขึ้น เพราะถ่ายทีไรมักจะติดภาพคนอื่นๆที่เราไม่อยากได้เข้าเฟรมมาด้วยเสมอ   ก็ต้องทำใจครับ  มิฉะนั้นก็เห็นทีต้องใช้ขาตั้งกล้องแล้วทำเลเยอร์ให้วุ่นวายอีก   ต้องใช้เวลามากโดยใช่เหตุ  และเวลาของผมก็มีจำกัดเสียแล้ว  ก็ต้องพยายามกดมุมกล้องให้ต่ำลงเพื่องเลี่ยงคน เท่านั้นเองที่ทำได้

ภาพแรกเลนส์ 16-35mm  ถ่ายที่ 16mm  F22  iso 800  1/30 s

ภาพสองเลนส์ 16-35mm  ถ่ายที่ 16mm  F22  iso 800  1/250 s

     เอ้า... เดี๋ยวจะไม่รูปผู้เขียนเรื่องราวนี้  เอาซะหน่อย  เพราะจากตรงนี้แล้ว  ผมก็จะขึ้นไปที่ร้านกาแฟ "ดอยคำ" บนอาการเอนกประสงค์ของโครงการแล้ว  เพราะว่านัดกับเหล่าน้องนกทั้งหลายเอาไว้ว่าจะไปทักทายพวกเค้ากัน   เดี๋ยวตามผมไปทักทายเค้ากันนะครับ

ภาพแรกเลนส์ 16-35mm  ถ่ายที่ 16mm  F22  iso 800  1/640 s

ภาพสองเลนส์ 16-35mm  ถ่ายที่ 25mm  F22  iso 800  1/125 s

     ไปตามล่าดอกพญาเสือโคร่ง ในใจก็แอบหวังนิดๆว่าอาจจะมีนกด้วย พอเข้าไปในโครงการหลวง ต้องรีบๆเดินจ้ำอ้าวฝ่าฝูงชนที่แน่นขนัดยัดทะนานยังกะมีมหกรรมยานยนต์ รีบๆเดิน รีบๆถ่ายดอกไม้อย่างกะกลัวมันจะหนีไป แต่ไม่ใช่หรอกครับ เวลาผมมีน้อย อยากเอาเวลาไปหาน้องๆนกบ้าง ถ่ายดอกไม้เสร็จก็มานั่งรอที่ร้านกาแฟ"ดอยคำ" เดี๋ยวเดียว น้องหางยาวคอดำก็มาตามนัดครับ

ภาพนี้ถ่ายด้วยกล้อง 5D Mk III 100-400mm แบบไม่ต้องครอปเลยครับ


ภาพแรก  เลนส์ 100-400mm  ถ่ายที่  400mm  F8  iso 3200  1/640 s

ภาพ 2  เลนส์ 100-400mm + TC1.4X ถ่ายที่ 560mm  F8  iso 800  1/125 s

ภาพ 3  เลนส์ 100-400mm + TC1.4X ถ่ายที่ 560mm  F8  iso 800  1/125 s

     นกกินปลี ในประเทศไทยมีอยู่ราวๆ 22 กว่าชนิด  ส่วนใหญ่เป็นนกประจำถิ่น  มีเพียงชนิดเดียวเท่านั้น ที่เป็นนกอพยพ นั่นก็คือ นกกินปลีหางยาวคอสีฟ้า  ซึ่งจะอพยพเข้ามาเมืองไทยช่วงต้นฤดูหนาว ไปจนถึงต้นฤดูร้อนก็จะอพยพกลับขึ้นโลกซีกเหนือไป  ส่วนนกกินปลีหางยาวคอดำ พันธุ์ที่นำมาลงให้ชมนี้  เป็นนกประจำถิ่นที่อาจพบเห็นได้ตั้งแต่ภาคเหนือของประเทศไปยันภาคใต้ของไทย  โดยมักจะอาศัยอยู่บนที่สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ระดับ 300-1700 เมตร   ฤดูจับคู่ผสมพันธุ์ราวเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่นกจะมีความสมบูรณ์ถึงขีดสุดก่อนที่จะทำรัง วางไข่ และเลี้ยงลูกในราวเดือน  มีนาคม ซึ่งทั้งพ่อนกและแม่นกจะช่วยกันเลี้ยงลูกให้เติบใหญ่ต่อไป  และจะเป็นช่วงที่นกจะดูทรุดโทรมมากเป็นพิเศษ


ภาพแรก  เลนส์ 100-400mm + TC1.4X ถ่ายที่  560mm  F8  iso 3200  1/1250 s

ภาพ 2  เลนส์ 100-400mm + TC1.4X  ถ่ายที่ 560mm  F8  iso 3200  1/1000 s

ภาพ 3  เลนส์ 100-400mm + TC1.4X  ถ่ายที่ 560mm  F8  iso 3200  1/320 s

ภาพ 4  เลนส์ 100-400mm + TC1.4X  ถ่ายที่ 560mm  F8  iso 3200  1/1250 s

      ผมนั่งจนเที่ยงกว่าๆเล็กน้อย  ก็ชวนทุกคนเก็บของ กะว่าคงถึงเลาที่ต้องจรลีกลับบ้านเสียที  เพราะหากขืนชักช้า เดี๋ยวถึงบ้านกันดึกๆดื่นๆ พรุ่งนี้จะไม่มีแรงทำงานทำการกัน   แต่น้าเบ็นซ์ดันหันไปถามน้านะว่า

"แมงมุมตัวน้้น น้านะถ่ายตรงไหนหรือ?"

"นั่นอ่ะ  ตรงหน้าอาคารนี่เอง   มา .. จะพาไปดู"  น้านะตอบ และอาสาพาน้าเบ็นซ์ไปดู   

     พวกเราทั้งหมดเลยเดินตามไปกันเป็นพรวน  พอผ่านใต้ต้นดอกพญาเสือโคร่ง  ผมก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างไหวๆอยู่บนต้นไม้นั้น   ผมจึงหยุดชะงักกึก หันไปสังเกตุดูก็เห็นนกแว่นตาขาวสีทอง  กำลังลงกินดอกพญาเสือโคร่งกันเป็นฝูง  ผมเลยหมดความสนใจเจ้าแมลมุมของน้านะทันที   หันปากกระบอกเลนส์ไปส่องเจ้านกน้อยทันที   ทำให้คนที่ตั้งใจจะไปถ่ายแมงมุมต้องชะงักตามเสียงชัตเตอร์ของผมที่กำลังรัวถี่ยิบ หูดับตับไหม้ ยังกะเวียตกงบุกก็ไม่ปาน  เท่านั้นเอง  เลนส์ใหญ่ เลนส์น้อยก็หันขึ้นต้นไม้กันเป็นแถว

ภาพแรก  เลนส์ 100-400mm + TC1.4X ถ่ายที่  560mm  F8  iso 3200  1/1600 s

ภาพ 2  เลนส์ 100-400mm + TC1.4X  ถ่ายที่ 560mm  F8  iso 3200  1/400 s

ภาพ 3  เลนส์ 100-400mm + TC1.4X  ถ่ายที่ 560mm  F8  iso 3200  1/800 s

ภาพ 4  เลนส์ 100-400mm + TC1.4X  ถ่ายที่ 560mm  F8  iso 3200  1/400 s

     แทนที่จะได้กลับ   พวกเราเลยรวมหัวกันซัลโวเจ้านกน้อยจนร่วงหล่นเต็มพื้นนับไม่ถ้วน  จนเวลาเริ่มล่วงเลยไปเยอะ  ผมจึงบอกให้น้าหกขึ้นไปสั่งอาหารเที่ยงรอไว้ก่อน  เพราะอาจจะต้องรออาหารนาน  พวกเราจะได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มที่สุด  และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ   เพราะกว่าที่เราจะได้อาหารเที่ยงวันนั้น  เวลาก็ล่วงเลยไปเกือบๆบ่ายสองโมงเข้าไปแล้ว

ภาพแรก  เลนส์ 100-400mm + TC1.4X ถ่ายที่  560mm  F8  iso 3200  1/500 s

ภาพ 2  เลนส์ 100-400mm + TC1.4X  ถ่ายที่ 560mm  F8  iso 3200  1/1600 s

ภาพ 3  เลนส์ 100-400mm + TC1.4X  ถ่ายที่ 560mm  F8  iso 3200  1/1600 s

    หลังอาหารมื้อนั้น  ทุกคนก็เก็บของเตรียมตัวเดินทาง   แต่เจ้าเบ็นซ์ยังติดใจว่ายังไม่ได้ถ่ายซุ้มเห็ด  ผมบอกว่าไม่เป็นไร  เดี๋ยวขาออกก็จะเห็นเอง  จะจอดให้ลงไปเก็บแล้วกัน   แต่พอวิ่งผ่านแปลงต้นแอปเปิ้ล  ดันมีรถของโครงการกำลังลงของขวางทางอยู่  จึงทำให้ไปต่อไม่ได้  ไหนๆก็ต้องรอ  ผมจึงแอบรถเข้าข้างทาง แวะลงไปชมแปลงแอปเปิ้ลมันซะเลย   แต่นักท่องเที่ยวมากเหลือเกิน  ทำให้เซตมุมดีๆยาก  ถ่ายไปหลายใบก็ไม่ได้ดังใจอยู่ดี  ท้อใจขึ้นมา  ผมเลยเก็บกล้องลงกระเป๋าแบบถาวร  กะว่าไม่ถึงบ้าน จะไม่ขุดมันออกมาอีก   สวัสดี..

ภาพแรก  เลนส์ 100-400mm + TC1.4X ถ่ายที่  560mm  F8  iso 3200  1/5000 s

ภาพ 2  เลนส์ 15mm Fisheye     F8  iso 250  1/125 s

อ่านบรรยายเพลินเลยครับท่าน

[โห....นี่มันมหากาพย์เลยนะเนี่ย...อิๆๆ แต่อ่านแล้วผมคิดว่าผมโชคดีที่ไม่ได้ไปด้วยครับ..เพราะนึกถึงการที่ต้องเบียดเสียดยัดเยียดแย่งชิงที่กินที่ถ่ายที่นอนแล้วท้อครับ..]

โห....นี่มันมหากาพย์เลยนะเนี่ย...อิๆๆ   แต่อ่านแล้วผมคิดว่าผมโชคดีที่ไม่ได้ไปด้วยครับ..
เพราะนึกถึงการที่ต้องเบียดเสียดยัดเยียดแย่งชิงที่กินที่ถ่ายที่นอนแล้วท้อครับ..

สวัสดีครับน้าหมีครับ

       ขอยกมือถามครับ แหะๆ ที่น้าหมีถ่ายดอกไม้ที่สูงๆครับ เห็นบอกว่าระยะไกลทำภาพสั่นไหว แล้วเพิ่มค่ารู้รับแสงมากขึ้น มันช่วยเรื่องนี้ได้ยังไงหรอครับผม
       และชอบภาพต้นไม้ที่มีใบไม้หลากสีสันอ่ะครับ สวยมากๆเลยครับ 

อ่านบรรยายเพลินเลยครับท่าน

ชอบคุณที่อ่านครับท่าน

[โห....นี่มันมหากาพย์เลยนะเนี่ย...อิๆๆ แต่อ่านแล้วผมคิดว่าผมโชคดีที่ไม่ได้ไปด้วยครับ..เพราะนึกถึงการที่ต้องเบียดเสียดยัดเยียดแย่งชิงที่กินที่ถ่ายที่นอนแล้วท้อครับ..]

โห....นี่มันมหากาพย์เลยนะเนี่ย...อิๆๆ   แต่อ่านแล้วผมคิดว่าผมโชคดีที่ไม่ได้ไปด้วยครับ..
เพราะนึกถึงการที่ต้องเบียดเสียดยัดเยียดแย่งชิงที่กินที่ถ่ายที่นอนแล้วท้อครับ..

ใช่ครับ น้ายอด  ผมเลือกไปช่วงที่ไม่ใช่เทศกาลแล้ว  ก็เลยคิดว่าคงไม่ค่อยมีใครไปกันเท่าไรนัก  แต่คากไม่ถึงจริงๆว่า เทศกาลดอกพญาเสือโคร่ง ทำให้นักท่องเที่ยวไปกันเยอะขนาดนั้นครับ

สวัสดีครับน้าหมีครับ

       ขอยกมือถามครับ แหะๆ ที่น้าหมีถ่ายดอกไม้ที่สูงๆครับ เห็นบอกว่าระยะไกลทำภาพสั่นไหว แล้วเพิ่มค่ารู้รับแสงมากขึ้น มันช่วยเรื่องนี้ได้ยังไงหรอครับผม
       และชอบภาพต้นไม้ที่มีใบไม้หลากสีสันอ่ะครับ สวยมากๆเลยครับ  

ขอบคุณน้าต้นที่ติดตามชมผลงานกันตลอดครับ  ส่วนคำถามที่น้าต้นถาม หมายถึงประโยคนี้หรือเปล่าครับ

    "ระหว่างทางก่อนจะถึงที่ทำการอุทยาน  เราแวะเก็บดอกเสือโคร่งตามที่ตั้งใจมา  ผม ไม่ได้เอาเลนส์มาโครมา และด้วยความที่รู้ว่า  ดอกพญาเสือโคร่งนั้น ส่วนใหญ่มักจะต้นสูงใหญ่  เมื่อดอกอยู่สูง  เลนส์มาโครที่ช่วงสั้นมักถ่ายไม่ค่อยได้   ลงจากรถ  ผมจึงเอา TC1.4X ต่อเข้ากับ 100-400mm เป็น 560mm แม้ว่าช่วงที่ยาวขนาดนั้นจะทำให้ภาพเกิดการสั่นไหวได้ง่าย  และค่า F นัมเบอร์ที่สูง อาจทำให้การละลายฉากหลังไม่ดีนัก   แต่มันมีข้อดี คือ  ทำให้เราสามารถเก็บภาพดอกเสือโคร่งในที่สูงๆได้ดีกว่า  โอกาสได้ภาพมากกว่า  ก็คงต้องเลือกอย่างหลังครับ"

หากใช่ ผมคิดว่าน้าต้นอ่านแล้วเข้าใจคลาดเคลื่อนครับ

ในความหมายที่ผทเล่านั้น ผมหมายความว่า ต้นดอกพญาเสือโคร่งนั้น ด้วยอายุมาก ทำให้มันต้นสูงใหญ่  เวลาที่ออกดอก ดอกมันจึงมักจะอยู่สูง หากเราใช้เลนส์ทางยาวโฟกัสสั้นๆไปถ่าย  เราจะถ่ายไม่ถึง  ผมเลยตัดสินใจใช้เลนส์ 100-400 + TC 1.4X เพื่อเพิ่มทางยาวโฟกัสเข้าไปด้วย   แต่ด้วยธรรมชาติของเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสมาก เวลาที่เรามองผ่านเลนส์ เราจะเห็นว่าภาพมันสั่นไหวมากกว่าเลนส์ทางยาวโฟกัสสั้นๆอยู่แล้วครับ  นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าเวลาที่เราถ่ายด้วยเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสมากๆ  เราจึงต้องใช้สปรีสชัตเตอร์ที่มากขึ้นเป็นเงาตามตัวของทางยาวโฟกัสไงครับ ด้วยสูตร X2 เท่าของทางยาวโฟกัส เช่น เลนส์ 200mm สปรีสที่จะใช้คุมกล้องควรอยู่ที่ 1/400s เป็นต้น   แต่การที่ผมต่อ TC 1.4X เข้าไป  ค่า F กว้างสุดของเลนส์ตัวนั้นๆก็จะถูกคูณจาก TC ด้วยเช่นกัน  ดังนั้น เลนส์ 100-400mmค่ารูรับแสงกว้างสุดคือ F5.6 มันจึงกลายเป็น 140- 560mm ที่ F 8 ไงครับ   ผมไม่ได้อยากเพิ่มค่ารูรับแสง  แต่มันเพิ่มเองตามธรรมชาติของการต่อ TC  และการเพิ่มขึ้นของค่ารูรับแสงมันจึงไม่ได้ช่วยเรื่องอะไรเลย  แต่มันช่วยทำให้แสงที่ผ่านเลนส์มีน้อยลง ทำให้เราต้องบังคับกล้องไปใช้ iso ที่สูงยิ่งขึ้นไปอีกครับ  เพราะหากเราไม่ใช้ค่า iso ที่สูงขึ้น  สปรีสชัตเตอร์ก็จะต่ำจนเราเอามือถือถ่ายไม่ได้ครับ  ซึ่งการที่เราต่อ TC แล้วค่ารูรับแสงกว้างสุดของเลนส์มันเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นข้อเสียที่เราจำยอมมากกว่าครับ   เพราะหากเป็นกล้องไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้ค่า iso ที่สูงขึ้นได้ หรือใช้ได้ แต่ภาพจะมีน๊อยส์รบกวนมากจนเรารับไม่ได้  มันก็จะทำให้เราใช้งานไม่ได้ครับ

บรรยายได้สนุกมากครับ ภาพก็สวย