กุมภาพันธ์ 06, 2025, 06:55:10 PM
หน้าแรก
|
ช่วยเหลือ
|
เข้าสู่ระบบ
|
สมัครสมาชิก
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ชมรมภาพถ่ายสมุทรปราการ
»
Gallery
»
Landscape
»
ตามรอยพระพุทธองค์
ตามรอยพระพุทธองค์
หน้า:
«
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
»
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ตามรอยพระพุทธองค์
ผู้เขียน
ข้อความ
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ตามรอยพระพุทธองค์
«
ตอบ #270 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 25, 2011, 09:38:49 PM »
เชตวันมหาวิหารที่อนาถบิณฑิกเศรษฐีเป็นผู้สร้างถวายด้วยความศรัทธาอย่างยิ่ง ตามตำนานเล่าเอาไว้ว่า อนาถบิณฑิกเศรษฐีเป็นชาวเมืองสาวัตถี ไปค้าขายที่เมืองราชคฤห์ได้พบพระบรมศาสดาที่สีตวัน เกิดความเลื่อมใสศรัทธาในพระธรรม จึงอาราธนานิมนต์ให้พระพุทธองค์มาโปรดที่เมืองสาวัตถี แล้วอนาถบิณฑิกเศรษฐีจึงไปขอซื้อป่าไม้ของเจ้าเชตซึ่งอยู่นอกเมืองสาวัตถี เพื่อจะสร้างอารามถวายพระบรมศาสดา ในตอนแรกเจ้าเชตซึ่งนับถือศาสนาพราหมอยู่จึงไม่ยินดีที่จะมีศาสนาอื่นมาอยู่ใกล้ๆจึงบอกไม่ยอมขายให้และพูดแบบประชดประชันว่าถ้าอนาถบิณฑิกเศรษฐีอยากได้ก็ให้เอาเหรียญทองมาปูให้เต็มป่าจึงจะยอมขายให้ แต่ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีก็เอาเหรียญทองไปปูจนเต็มป่าจริงๆ ทำให้เจ้าเชตเห็นถึงความศรัทธาอย่างแรงกล้าของอนาถบิณฑิกเศรษฐ๊ จึงยอมลดราคาให้ครึ่งหนึ่ง แล้วอนาถบิณฑิกเศรษฐ๊ก็ได้เอาทองที่เหลือนั้นสร้างมหาวิหารขึ้นแล้วเรียกชื่อเชตวันตามชื่อเจ้าของเดิม
จากการสร้างวัดทำบุญใหญ่ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เป็นเรื่องที่ลือลั่นสนั่นไปทั่วกรุงสาวัตถี เพราะยังไม่เคยมีเศรษฐีที่ไหนกล้าทำบุญมากถึงขนาดนี้มาก่อน ทำให้เจ้าลัทธิต่างๆในสาวัตถีพากันริษยา และต่อต้านการกระทำของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เมื่อพระสารีบุตรมาช่วยงานก่อสร้างก็เลยต้องเผชิญหน้ากับเจ้าลัทธิต่างๆเหล่านั้น และได้ประลองฝีปากกันอย่างหนักและเอาชนะเจ้าลัทธิเหล่านั้นได้
เชตวันมหาวิหาร ก็เหมือนกับทุกๆสิ่งบนโลก ที่มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วก็ต้องเสื่อมสูญสลายไปในที่สุด ถึงวาระสุดท้ายเมื่อถูกพวกมุสลิมรุกรานในปีพ.ศ.1671 มุสลิมได้เข้าทำลายวัดวาอารามจนหมดสิ้น วัดเชตวันมหาวิหารจึงจมดินจมทราย เหลือเพียงอิฐหักกากปูนไว้เป็นประวัติศาสตร์ให้เราได้จดจำและอาดูร
ในภาพ เป็นมูลคันธกุฏี กุฏิที่พระพุทธเจ้าประทับจำพรรษามากที่สุด
IMG_5163.JPG
(176.45 KB, 928x628 - ดู 105 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2011, 09:44:33 PM โดย FRW
»
Share
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ตามรอยพระพุทธองค์
«
ตอบ #271 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 26, 2011, 01:15:54 PM »
ขอบคุณครับน้าอันดามัน ที่เข้ามาให้กำลังใจกันครับ
ถ่ายคันธกุฏีเสร็จ เห็นเพื่อนกำลังถ่ายเจ้านกกินปลีสีสวย เลยรีบเปลี่ยนเลนส์ 70-200 + TC 2X เข้าไป ด้วยความรีบร้อน เลยลืมปรับ iso เพิ่ม เลยได้มาแต่เพียงวิญญาณนกกินปลีเท่านั้น อยากเข็กกระโหลกตัวเองแท้ๆ แต่ไม่เป็นไร มองหานกอื่นๆก็ได้ เลยได้เจ้าสองตัวนี้มาแทนครับ
IMG_5157.JPG
(177.07 KB, 928x628 - ดู 111 ครั้ง.)
IMG_5172.JPG
(190.29 KB, 928x628 - ดู 88 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ตามรอยพระพุทธองค์
«
ตอบ #272 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 26, 2011, 01:29:08 PM »
ห่างจากกำแพงวัดเชตวันไม่ไกลนัก เป็นสถานที่ตั้งของสถูปใหญ่หลังหนึ่งอันเป็นที่ตั้งของบ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ที่ปรึกษาสายเศรษฐกิจของพระเจ้าปเสนทิโกศล ผู้สร้างพระอารามเชตวันมหาวิหาร บัดนี้เหลือเพียงร่องรอยแห่งอดีตที่ซุกซ่อนอยู่กับเศษซากกองอิฐอันยาวนาน ก้อนอิฐที่เรียงเป็นชั้นหักปรักพังมีไว้ให้เราอนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาและมองย้อนไปถึงอดีตที่ผ่านมา
อนาถบิณฑิกเศรษฐีเป็นอุบาสกคนสำคัญในสมัยพุทธกาล ท่านเกิดในเรือนของสมุนเศรษฐีเดิมที่ชื่อว่า สุทัตต ต่อมาท่านเศรษฐีได้หันมานับถือศาสนาพุทธแล้วบรรลุโสดาปัตติผล เป็นผู้ที่มีศรัทธาแรงกล้ามาก สร้างวัดพระเชตวันถวายแด่พระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ที่เมืองสาวัตถี ท่านเศรษฐ๊นอกจากจะอุปถัมภ์บำรุงพระสงฆ์แล้วยังได้สงเคราะห์คนยากไร้อนาถาอย่างมากมายเป็นประจำจึงได้ชื่อว่า "อนาถบิณฑิกเศรษฐ๊" ซึ่งแปลว่าเศรษฐ๊ผู้มีก้อนข้าวเพื่อคนอนาถา
IMG_5180.JPG
(171.12 KB, 928x628 - ดู 101 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ตามรอยพระพุทธองค์
«
ตอบ #273 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 26, 2011, 01:31:47 PM »
ดูๆไปแล้วซากกองอิฐที่เห็นก็ไม่ค่อยมีลักษณะคล้ายบ้านเรือนสักเท่าไรนัก จึงสัญนิฐานเอาเองว่า เศษซากกองอิฐนี้น่าจะมีอายุไม่ถึงพุทธกาล น่าจะเป็นการสร้างขึ้นภายหลังมากกว่า
IMG_5183.JPG
(189.5 KB, 928x628 - ดู 87 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 01, 2011, 08:23:51 PM โดย FRW
»
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ตามรอยพระพุทธองค์
«
ตอบ #274 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 26, 2011, 01:53:02 PM »
เยื้องๆฝั่งตรงข้ามกับบ้านของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เป็นบ้านของบิดาของท่าน จอมโจรองคุลีมาร ซึ่งบิดาของท่านก็รับราชการในพระเจ้าปเสนทิโกศล แต่องคุลีมารดันเกิดมาในฤกษ์ดาวโจร ด้วยความเป็นห่วง บิดาจึงส่งตัวไปให้อาจารย์อบรมแต่เล็ก แต่อาจารย์ขององคุลีมารกลับหลอกให้เค้าไปเที่ยวฆ่าคนเพื่อตัดเอานิ้วมาเซ่นอาจารย์เพื่อขอเรียนวิชาพิเศษจากอาจารย์ จนกระทั่งวันหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าได้เล็งเห็นด้วยญาณว่า หากไม่ไปขัดขวาง องคุลีมารคงจะต้องทำปิตุฆาตด้วยว่า บิดาและมารดาของเค้ากำลังจะเดินทางผ่านไปตรงที่เค้ากำลังดักรอฆ่าคนอยู่ เมื่อเห็นพระพุทธองค์ คุลีมารก็ตรงเข้าหมายทำร้ายพระองค์ แต่วิ่งเข้าหาเท่าไรก็เข้าไปไม่ถึงสักทีจึงคำรามด้วยความโกรธว่า "ท่านทำไมไม่หยุดสักที" พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า
"ดูก่อนคุลีมาร เรานะหยุดแล้ว แต่ท่านสิยังไม่หยุด" องคุลีมารฟังแล้วฉุกใจคิดว่าน่าจะเป็นปริษนาจึงหยุดลง เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าเห็นเช่นนั้นจึงตรัสอีกว่า
"ดูก่อนคุลีมาร เธอจงนั่งลงเถิดเราจักแสดงธรรมแก่เธอ" เมื่อองคุลีมารนั่งลงแล้วพระพุทธองค์ก็ได้แสดงธรรมจนในที่สุดองคุลีมารก็เกิดดวงตาเห็นธรรมวางอาวุธและทูลขอบวชต่อพระองค์ และในกาลต่อๆมาก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์
IMG_5194.JPG
(185.39 KB, 928x628 - ดู 90 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 25, 2015, 09:28:31 AM โดย FRW
»
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ตามรอยพระพุทธองค์
«
ตอบ #275 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 26, 2011, 01:55:55 PM »
ระหว่างที่ผมเดินกลับมาที่รถ เจอครูพานักเรียนมาทัศนศึกษา พวกเราเลยรุมกันขอถ่ายรูปกับเด็กๆอินเดีย แต่เด็กๆเหล่านั้นกับชอบอกชอบใจขอถ่ายกับพวกเราแทน
IMG_5196.JPG
(141.47 KB, 928x628 - ดู 78 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ตามรอยพระพุทธองค์
«
ตอบ #276 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 26, 2011, 02:46:37 PM »
สถูปยมกปาฏิหาริย์
อยู่ห่างจากเชตวันมหาวิหารราว 2 กิโลเมตร ชาวบ้านแถวนั้นเรียกกันว่า สวนมะม่วงของนายคัณฑกะ จึงสันนิษฐานว่าสถานที่นี้คือสถานที่ที่พระบรมศาสดาแสดงยมกปาฏิหาริย์ เรื่องเล่ากันเอาไว้ว่า ในสมัยนั้นในกรุงสาวัตถี ลาภสักการะอันเคยบริบูรณ์แก่เหล่าเดียรถีย์ได้เสื่อมลงเป็นอันดับเพราะมหาชนหันมานับถือพระพุทธศาสนามากขึ้น เป็นเหตุให้เหล่าเดียรถีย์หาทางทำลายพระพุทธศาสนาทุกวิถีทาง โดยมีความเห็นพ้องกันว่า สาเหตุเพราะสำนักของพุทธโคดมตั้งอยู่ในทำเลที่ดี การคมนาคมสะดวกแก่เหล่าชนที่จะไปฟังธรรม ลาภสักการะจึงเกิดแก่พระสมณโคดมมากมาย เหล่าเดียรถีย์จึงคิดสร้างสำนักของตนขึ้นที่หลังวัดเชตวัน ได้นำเอาเครื่องบรรณาการไปถวายแก่พระเจ้าปเสนทิโกศลแล้วขอพระราชทานที่ดิน ขณะกำลังดำเนินการก่อสร้าง พระพุทธองค์ทรงดำริว่า การนี้อาจเป็นเสี้ยนหนามต่อพระศาสนาในอนาคต จึงให้พระอานนท์ไปทูลพระเจ้าปเสนทิโกศล แต่ถูกพระเจ้าปเสนทิโกศลปฏิเสธไม่ให้เข้าพบ ในที่สุดพระศาสดาจึงต้องเสด็จไปด้วยพระองค์เอง เมื่อไปถึงแล้วพระองค์ก็ไม่ตรัสถามความใดๆ แต่ทรงยกภรุชาดกเป็นอุทาหรณ์ว่า
"ในอดีตมีนักบวชสองพวกพำนักอยู่โคนต้นไทร พวกหนึ่งอยู่ทางทิศเหนือ พวกหนึ่งอยู่ทางทิศใต้ ต่อมาต้นไทรทางด้านทิศใต้เกิดเ ห ี่ยวแห้งตายจึงยกพวกไปรุกล้ำเข้าไปทางทิศเหนือ จึงเกิดการวิวาทกับพวกที่อยู่ก่อน ในที่สุดก็ไปหาพระราชาแห่งกรุงภรุให้ตัดสินให้ แต่นักบวชฝ่ายที่รุกล้ำได้ถวายเรือสำหรับเป็นราชพาหนะแก่ภรุราชา พระราชาจึงตัดสินให้ฝ่ายที่มอบเรือเป็นผู้ชนะด้วยความลำเอียง ทำให้เทวดาที่อยู่ในกรุงภรุทั้งสิ้นโกรธที่พระราชาตัดสินลำเอียง จนเป็นเหตุให้ผู้มีศีลทะเลาะกันด้วยอำนาจแห่งฉันทาคติ เทวดาจึงบันดาลให้เมืองภรุจมลงใต้ทะเล ประสบความพินาศใหญ่หลวง ล่มจมกันทั้งแว่นแคว้น"
เมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลได้สดับดังนั้น จึงมีรับสั่งให้นักบวชเหล่านั้นออกไปจากที่ แล้วทรงสร้างที่นั้นให้เป็นอารามสำหรับภิกษุณีแทน
ยมกปาฏิหาริย์ คือธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดง ณ.ชานกรุงสาวัตถีในวันเพ็ญเดือน 8 ทรงกระทำยมกปาฏิหาริย์ต่อคำท้าทายของเหล่าเดียรถีย์ ซึ่งเป็นการแสดงครั้งสำคัญและครั้งสุดท้ายของพระบรมศาสดา ทำให้ชาวเมืองสาวัตถีตื่นเต้นในอภินิหารของพระศาสดา และทำให้ลัทธิอื่นๆในสาวัตถีเสื่อมถอยลงไปมาก เพราะใครๆก็หันมานับถือศาสนาพุทธ และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เหล่าเดียรถีย์ต้องจ้างนางจิณจมาณวิกาไปทำลายชื่อเสียงของพระบรมศาสดา
โดยปกติพระพุทธองค์ไม่โปรดการแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ ทรงห้ามภิกษุแสดงปาฏิหาริย์ด้วย แต่ทรงเน้นการแสดงอิทธิฤทธิ์ของพระธรรมมากกว่า เมื่อพระองค์ไม่แสดงอิทธิฤทธิ์เหล่าเดียรถีย์จึงฉวยโอกาสท้าทายต่างๆนานา ที่สุดพระองค์จึงประกาศแสดงยมกปาฏิหาริย์ใกล้ๆนครสาวัตถีในวันเพ็ญเดือน 8 พวกเดียรถีย์เมื่อรู้ว่าพระองค์จะแสดงยมกปาฏิหาริย์ใกล้ๆต้นมะม่วง ก็ไปเที่ยวหาซื้อและขุดต้นมะม่วงทิ้งหมด แต่เมื่อถึงเวลาที่จะแสดงยมกปาฏิหาริย์ก็มีนายอุทยานของพระเจ้าปเสนทิโกศลชื่อ คัณฑกะ สอยมะม่วงในอุทยานติดมือไปถวายพระองค์ เมื่อพระพุทธองค์เสวยเนื้อมะม่วงแล้วก็ให้นายคัณฑกะเพาะเมล็ดลงในดิน ทรงใช้น้ำล้างพระหัตถ์รดลงไปเมล็ดมะม่วงนั้นก็เกิดเป็นต้นมะม่วงสูง 5 ศอกทันที
พระองค์ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์คือ ปาฏิหาริย์คู่ ให้ไฟพุ่งออกจากายเบื้องบน น้ำพุ่งออกจากกายเบื้องล่าง ไฟพุ่งออกจากกายเบื้องหน้า น้ำพุ่งออกจากกายเบื้องหลัง ไฟพุ่งออกจากพระหัตถ์ซ้าย น้ำพุ่งออกจากพระหัตถ์ขวา ไฟพุ่งออกจากพระเนตรเบื้องขวา น้ำพุ่งออกจากพระกรรณเบื้องซ้าย พวกเหล่าเดียรถีย์ไม่มีปัญญาจะทำได้ เลยต้องพ่ายแพ้ไปหมดอย่างไม่เป็นท่า เมื่อแสดงยมกปาฏิหาริย์แล้ว พระพุทธองค์ก็เสด็จขึ้นไปโปรดพุทธมารดาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงห์
หลังจากที่ผมลงมาจากเนินซากอิฐ ก็เจอกับไกด์สาวของเราเลยแกล้งถามไปว่า มีหลักฐานอะไรที่แสดงให้เห็นว่าที่ตรงนี้เป็นสถานที่แสดงยมกปาฏิหาริย์ของพระองค์ เพราะตามความเข้าใจของผม ผมว่าในสมัยนั้นพระพุทธองค์คงไม่ได้ให้ใครมาสร้างกองอิฐเอาไว้เพื่อแสดงยมกปาฏิหาริย์แน่ๆ แล้วไฉนจึงมีกองซากอิฐสูงขึ้นไปดั่งนั้น แกทำเสียงอึกอักๆตอบแบบอ้อมแอ้มว่า ก็ใครๆเค้าก็ว่าเป็นที่ตรงนี้นี่นา ผมจึงว่าใช่ ใครๆว่าตรงนี้ แต่ผมถามว่ามีหลักฐานอะไรที่ยืนยันว่าใช่ตรงนี้ ไม่ใช่พวกเราถูกแขกมันหลอกเอานะ แกก็เลยหันไปถามกับเจ้าขาวผ่อง ไกด์แขก แล้วหันหน้ามาบอกผมว่าไกด์แขกบอกว่าที่นี่ไม่ใช่ที่แสดงยมกปาฏิหาริย์หรอก แต่เป็นที่ที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดพุทธมารดา แต่แกก็ยังทำหน้างงๆ ไม่เข้าใจ แล้วสองคนก็เกิดการโต้เถียงกันใหญ่ ผมขี้เกียจจะฟังเลยบอกเค้าไปว่า เถียงกันให้เสร็จก่อนแล้วค่อยบอกผม
IMG_5209.JPG
(160.66 KB, 928x628 - ดู 84 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 03:00:10 PM โดย FRW
»
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ตามรอยพระพุทธองค์
«
ตอบ #277 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 26, 2011, 05:59:51 PM »
เช้าวันที่ 28 มกราคม 2554 พวกเราต้องแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าเหมือนเดิม เพราะว่าวันนี้เราต้องออกจากเมืองสาวัตถีไปเมืองลัคเนา เพื่อขึ้นสายการบินภายในประเทศของอินเดีย ไปลงที่นิวเดลี และจะต้องนั่งรถจากเมืองหลวงไปยังเมืองอัคราซึ่งเป็นที่ตั้งของทัชมาฮาล ระหว่างทางสองฝั่งทางก็มีแต่ทุ่งนาข้าวสาลีสลับกับทุ่งมัสตาร์ด
IMG_5234.JPG
(188.52 KB, 928x628 - ดู 97 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 12, 2012, 04:17:37 PM โดย FRW
»
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ตามรอยพระพุทธองค์
«
ตอบ #278 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 26, 2011, 06:04:13 PM »
หลังอาหารเช้าเราก็ออกเดินทาง บางช่วงของถนนรถติดนานมาก กว่าจะไปได้ถึงรู้ว่าสะพานขาด ทางการกำลังซ่อมสะพานอยู่ ทำให้รถผ่านได้ลำบากมาก เราแวะพักรถระหว่างทาง พวกเราลงจากรถไปบิดแก้เมื่อยขบกัน ผมได้ยินเสียงร้องของเจ้ากะเต็นปักหลัก เลยย่องๆเข้าไปที่ริมสระน้ำใกล้ๆแถวนั้น เห็นมันกำลังกระพือปีกลอยตัวอยู่กลางอากาศ จัดแจงเตรียมตัวเตรียมกล้อง ที่ไหนได้ มันดันบินหนีไปซะนี่ เลยต้องหันไปส่องนกในกอไผ่แทน
IMG_5220.JPG
(140.25 KB, 928x628 - ดู 85 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ตามรอยพระพุทธองค์
«
ตอบ #279 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 26, 2011, 06:11:03 PM »
พวกเราเดินทางมาถึงเมืองลัคเนาราวก่อนเที่ยงเล็กน้อย ที่เมืองนี้ดูเจริญหูเจริญตากว่าเมืองที่ผ่านๆมา เพราะดูสะอาดสะอ้านกว่ากันเยอะมาก บ้านเมืองก็ดูทันสมัยกว่า แต่มองดูการใช้รถใช้ถนนก็เหมือนเดิม มีรถทุกชนิดบนถนน เพียงแต่ว่าถนนที่นี่มันกว้างขวางกว่าที่เมืองพาราณสีเยอะ รถจึงไม่ค่อยติดเท่าไรนัก
รถของเราวิ่งผ่านป้ายจราจรที่มีข้อความเขียนเอาไว้ชัดเจนว่า ไปเมืองอัครา เมืองแห่งทัชมาฮาล ระยะทาง 360 Km แต่เส้นทางที่จะไปเมืองนิวเดลี ระยะทาง 500 Km แต่เท่าที่ทราบมาว่า ระยะทางจากเมืองนิวเดลีไปเมืองอัคราราว 250 Km ผมอ่านแล้วเอามา บวก-ลบ-คูณ-หาร ดูแล้วเรานั่งรถน้อยลงไปราว 100 Km เท่านั้น แต่การขึ้นเครื่องบินของที่นี่ ปรากฏว่าเราต้องฝ่าระบบการตรวจกระเป๋าและร่างกายชนิดระเอียดยิบแทบจะจับเราแก้ผ้าเลย ของสนามบินเมืองลัคเนา และต้องรอจากก่อนเที่ยงจนถึงบ่าย 3 โมงกว่าจึงได้ขึ้นเครื่องและบินไปถึงเมืองนิวเดลีเอาบ่าย 4 โมงกว่าด้วยระยะทาง 500 Km เพื่อที่จะย่นย่อระยะทางจากเมืองลัคเนาไปอัคราลงเพียงราว 100 Km เศษๆ หากเป็นที่เมืองไทย ด้วยระยะทางขนาดนี้ ขับรถเพียงชั่วโมงเดียวเอง แต่นี่ต้องมาเสียเวลาที่สนามบินไปราว 4 ชั่วโมง แต่ถึงจะเป็นที่อินเดียก็ตาม รถเค้าจะวิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ยราว 30 Km ต่อชั่วโมง 4 ชั่วโมงก็น่าจะได้ราว 100 Km ขึ้นไป วันนั้น พวกเราไปถึงเมืองอัคราราว 4 ทุ่ม ถ้าตามที่ผมคำนวนว่า หากเราวิ่งตรงจากเมืองลัคเนาไปที่เมืองอัคราเลย ด้วยระยะทาง 360 Km เราก็น่าจะถึงอัคราราว 4 ทุ่มเหมือนกัน ทัวร์มันคิดได้ไงให้เราต้องขึ้นเครื่องบินไป
ตามโปรแกรมของเราจะทานข้าวเที่ยงที่นี่ แต่พอเข้าไปที่ร้านอาหารในโรงแรม ปรากฏว่า อาหารยังไม่เสร็จพวกเราเลยต้องรอ แต่คงไม่ใช่ปัญหา เพราะเวลาเครื่องขึ้นประมาณบ่าย 3 โมง มีเวลาถมเถไป
IMG_5238.JPG
(168.5 KB, 928x628 - ดู 104 ครั้ง.)
IMG_5239.JPG
(170.61 KB, 928x628 - ดู 96 ครั้ง.)
IMG_5240.JPG
(194.06 KB, 928x628 - ดู 83 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 25, 2015, 09:54:26 AM โดย FRW
»
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ตามรอยพระพุทธองค์
«
ตอบ #280 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 26, 2011, 06:38:06 PM »
ระหว่างที่รออาหารเที่ยง ไม่มีไรทำก็เดินถ่ายอะไรในโรงแรมไปตามเรื่อง
คนเฝ้าประตู
IMG_5241.JPG
(170.87 KB, 628x928 - ดู 107 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ตามรอยพระพุทธองค์
«
ตอบ #281 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 26, 2011, 06:38:39 PM »
พวกเรากันเอง
IMG_5249.JPG
(187.94 KB, 928x628 - ดู 82 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ตามรอยพระพุทธองค์
«
ตอบ #282 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 26, 2011, 06:39:13 PM »
ผนังหน้าห้องน้ำ
IMG_5251.JPG
(181.26 KB, 628x928 - ดู 109 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ตามรอยพระพุทธองค์
«
ตอบ #283 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 26, 2011, 06:42:11 PM »
กว่าจะได้ทานอาหารเที่ยงก็บ่ายโมงไปแล้ว ออกจากร้านอาหารมาที่หน้าโรงแรมผมเจอคู่ปรับเก่าที่ถ่ายแล้วเบลอ แต่คราวนี้ดันไม่มี TC เลยต้องกดมันด้วย 200 mm กดไปแค่ 2 ภาพ ปรากฏว่าเพื่อนพ้องเดินหายไปกันหมดแล้ว รีบตาลีตาเหลือกตามหาเพราะกลัวโดนทิ้งครับ
IMG_5254.JPG
(144.78 KB, 928x628 - ดู 77 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 20
บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป
Re: ตามรอยพระพุทธองค์
«
ตอบ #284 เมื่อ:
กุมภาพันธ์ 26, 2011, 06:50:07 PM »
หลังจากที่พวกเราฝ่าด่านตรวจค้นเข้าไปได้ เข้าไปนั่งรอในห้องผู้โดยสารขาออกของสนามบินเมืองลัคเนา พวกเราเหลียวมองหาไม่เจอไกด์แขก ทุกคนแอบดีใจกันใหญ่ว่าต่อแต่นี้เราไม่ต้องมีมันมาให้เกะกะสายตาอีก เพราะอยู่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับเราเลย ก่อนเข้าสนามบิน พวกเรารวบรวมเงินทริปคนขับกับเด็กรถ แต่ไม่ได้ให้เจ้าไกด์แขกกันเลยสักรูเดียว
ถึงสนามบินเมืองนิวเดลี กว่าจะรับกระเป๋าเดินทางออกมาและกว่ารถที่ทางนิวเดลีจะหาเจอพวกเรา เวลามันใกล้ค่ำเต็มทีแล้ว หันไปมองสนามบินใหม่ของเมืองนิวเดลีที่ชื่อว่าสนามบิน "อินทิรา คานธี" หน้าตาแทบจะถอดเอาแบบอย่างมาจากสนามบินสุวรรณภูมิของเรามาทุกกระเบียดนิ้วเพียงแค่ย่อสัดส่วนให้มันเล็กกระทักรัดพอเหมาะแก่การใช้งานของเค้าเท่านั้น นี่แหละหนา หลายคนในประเทศเราไม่รู้สึกภูมิใจ แต่ชาวต่างชาติกลับเห็นว่าแบบสนามบินของเรานั้นดีที่สุดแล้ว
จากสนามบิน เราแวะทานอาหารเย็นแล้วก็ดิ่งไปเมืองอัครากันเลย แต่กว่าเราจะถึงที่พักก็ปาเข้าไป 4 ทุ่มเศษแล้ว
IMG_5256.JPG
(177.9 KB, 928x628 - ดู 105 ครั้ง.)
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 06:53:45 PM โดย FRW
»
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล
บันทึกการเข้า
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
หน้า:
«
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
»
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
News ข่าวสารต่างๆและกิจกรรมทั่วไป
-----------------------------
=> ข่าวสาร,กิจกรรม และ SPC CLUB
=> Photo contest
-----------------------------
แนะนำ Trip
-----------------------------
=> แนะนำ Trip ประจำจังหวัดสมุทรปราการ
-----------------------------
Trip & Tour
-----------------------------
=> กิจกรรมท่องเที่ยวและถ่ายภาพ
-----------------------------
Gallery
-----------------------------
=> Landscape
=> Portrait
=> สัพเพเหระ
===> Action,Sport
=> Black&White
=> ส่องนก,ส่องสัตว์
=> Macro
-----------------------------
ห้องกลุ่มอุปกรณ์ถ่ายภาพ
-----------------------------
=> อุปกรณ์เสริมต่างๆ
=> กลุ่ม Canon
=> กลุ่ม Nikon
=> กลุ่ม Sony
=> กลุ่มค่ายอื่นๆ
===> กลุ่ม Olympus
===> กลุ่ม PENTAX
===> กลุ่ม FUJI
-----------------------------
Technic & Question to Ans.
-----------------------------
=> เทคนิคการถ่ายภาพต่างๆ
=> เทคนิคการตกแต่งภาพ
=> ห้องพูดคุยสอบถามเรื่องทั่วไป
-----------------------------
ซื้อ-ขายอุปกรณ์ถ่ายภาพ
-----------------------------
=> Promotion ,new
=> ของมือสองเกี่ยวกับการถ่ายภาพ
กำลังโหลด...