FRW
|
|
« ตอบ #165 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 10:22:26 PM » |
|
ชฎิลหน้าตาหล่อเหลาเอาการ สาวๆกรี๊ดกันสลบ แม่ยกเชียร์กันน้ำหมากกระจาย ฝูงชนที่เข้ามาไม่รู้ว่าตกลงมาเพราะศรัทธาในพิธีบูชาไฟ หรือว่ามากรี๊ดชฎิลหนุ่มหล่อกันแน่
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #166 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 10:28:00 PM » |
|
นอกจากบนฝั่งจะเนืองแน่นไปด้วยฝูงชนแล้ว ในแม่น้ำก็แน่นไปด้วยเรือที่บรรทุกผู้ชมที่เดินทางมาทางน้ำอีกมากมาย ที่จริงตามโปรมแกรมของเรา เราก็จะมาลงเรือเพื่อชมพิธีเช่นกัน แต่เรามาสาย จึงลงเรือไม่ทัน ก็น่าจะต้องขอบใจไกด์ของเราที่ทำให้เราเสียเวลาจนมาไม่ทัน เพราะว่าหากมาทันแล้วลงไปถ่ายจากในเรือ ผมว่านรกกินแน่ๆ ก็ขนาดอยู่บนบก เข้าไปใกล้ปะรำพิธี เรายังต้องดัน iso 3200 หากเราไปอยู่ในน้ำที่เรือเอียงไปเอียงมาและอยู่ห่างออกไปมีหวังถ่ายไม่ได้แน่ๆ แถมคงต้องติดหัวใครต่อใครอีกเยอะแยะ
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #167 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 10:34:52 PM » |
|
ชฎิลคือนักบวชประเภทยาสี ที่มวยผมตั้งขึ้นสูง ในอุรุเวลาเสนานิคมนี้มีตระกูลชฎิล 3 พี่น้องซึ่งเป็นที่รู้จักคือ อุรุเวลกัสปะ มีบริวาร 500 คน นทีกัสสปะ มีบริวาร 300 คน และ คยากัสสปะ มีบริวาร 200 คน บรรดาชฎิลที่เป็นหัวหน้าทำหน้าที่เป็นครูที่สามารถในการล้างบาปให้คนด้วยน้ำและไฟ การบูชาไฟก็เป็นอีกพิธีหนึ่งที่ถือว่าล้างบาปได้ดี โดยปกติพวกชฎิลจะมีกิจวัตรอยู่ 2 อย่าง นั่นก็คือการอาบน้ำ และบูชาไฟทุกวัน ฉะนั้น พิธีแบบนี้จึงมีจัดขึ้นทุกวัน
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #168 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 10:41:11 PM » |
|
อุรุเวลาเสนานิคม เป็นเขตของพวกชฎิล 3 พี่น้องที่ถือเอาการบูชาไฟและอาบน้ำล้างบาปเป็นแนวทางการสอน ชาวอินเดียนิยมการบูชาไฟกันมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ เชื่อกันว่า ลัทธิบูชาไฟเป็นลัทธิดั้งเดิมของมนุษย์ เพราะไฟเป็นทั้งแสงสว่าง เป็นทั้งความร้อนที่ให้ความอบอุ่น เป็นทั้งพระเดช เป็นทั้งพระคุณพร้อมในตัว ถือว่าไฟเมื่ออยู่สวรรค์คือดวงอาทิตย์ เมื่ออยู่บนดินก็เป็นไฟหุงต้ม ในพระเวทยกย่องไฟขึ้นเป็นเทพชั้นนำเรียกว่า พระอัคคนี
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #169 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 10:45:01 PM » |
|
ในสมัยพุทธกาล ชฎิล 3 พี่น้องได้พ่ายแพ้ให้แก่พระพุทธเจ้า และยอมรับพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ยอมละทิ้งพิธีการบูชาไฟเสีย แต่ไม่นึกเลยว่า วันนี้ เวลาที่ล่วงเลยมา 2500 กว่าปี จะยังมีพิธีแบบนี้อยู่อีกในโลก
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #170 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 10:47:10 PM » |
|
ใครที่อยากเป็นสาวกของเหล่าชฎิลก็เชิญได้ที่เมืองพาราณสีครับ โดยเฉพาะสาวๆ อิๆ
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #171 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 10:48:51 PM » |
|
แต่น้องคนนี้ไม่ทราบว่ากำลังชื่นชมชฎิล หรือว่ากำลังหัวเราะแม่ยกที่เชียร์กันจนน้ำหมากกระจายกันแน่
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #172 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 10:51:05 PM » |
|
พิธีดำเนินอยู่ราวๆสักชั่วโมง พิธีก็เสร็จ ฝูงชนก็กระจายกันกลับ แต่ก็อาจยังมีเหล่านักบวชที่ยังอยู่บริเวณนั้น
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #173 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 17, 2011, 10:54:19 PM » |
|
พวกเราเดินฝ่าดงฝุ่นเพื่อไปต่อสามล้อที่รออยู่ กลับไปขึ้นรถแล้วกลับโรงแรมที่พัก เพื่อจะได้ตื่นแต่เช้ามาชมพิธีอาบน้ำของเหล่าชฎิลอีกครั้งในเวลาเช้ามืดก่อนสว่าง และชมพิธีการเผาศพที่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา ก็ไม่ใช้ที่ไหนหรอกครับ ก็ตรงที่เดิมนี่แหละ พรุ่งนี้ มากับผมแต่เช้ามืดนะครับ
ลูกใครหว่า.......
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
Andaman
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #174 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2011, 09:45:57 PM » |
|
เป็นDocumentary ที่สุดยอดจริงๆ...ชฏิลบูชาไฟ น้าหมีถ่ายมาได้งดงามมากๆ...
|
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #175 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2011, 01:29:44 PM » |
|
เป็นDocumentary ที่สุดยอดจริงๆ...ชฏิลบูชาไฟ น้าหมีถ่ายมาได้งดงามมากๆ...
ขอบคุณครับพี่
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #176 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2011, 01:50:53 PM » |
|
ขออภัยที่เว้นไปสองวันครับ ภาระมันเยอะครับ วันนี้มาต่ออีกนิดครับ
เช้ามืดของวันที่ 25 มกราคม 2554 พวกเราถูกปลุกกันตั้งแต่ตี 4 ไม่ต้องอาบน้ำ แค่ล้างหน้าแล้วก็รีบออกไปที่ฝั่งแม่น้ำคงคากันเลย ยามเช้าๆ นั่งรถฝ่าสายหมอกฝุ่นมุ่งสู่แม่น้ำคงคา รถใหญ่ไม่อนุญาตให้ขับเข้าไปถึงท่าน้ำ ต้องลงเดินเหมือนเมื่อคืน ก็ต้องระวังตัวแจ เพราะจะมีทั้งวัวนอน คนนอน คนหามศพพันผ้าขาว และศพที่นี่ก็ไม่ต้องใช้โลงแต่ประการใด พอตายก็เอาผ้าขาวห่อๆ แล้วก็หามเอาไปเผาที่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา ภาษิตจีนที่ว่า "ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา" จึงนำมาใช้ที่นี่ไม่ได้ครับ และก็เป็นเรื่องจริงของที่นี่ ที่เหล่าญาติของผู้ตายเค้าจะไม่ร้องไห้กัน ไม่หลั่งน้ำตากัน อาจเพราะว่าไม่ได้เห็นโลงศพกระมัง
ต้นแม่น้ำคงคาเกิดบนเทือกเขาหิมาลัย สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 13,800 ฟุต แม่น้ำคงคาตรงเมืองพาราณสีนี้จะไหลย้อนขึ้นสู่ทิศเหนือ นับว่าแปลกกว่าแม่น้ำสายอื่นๆ ในคัมภีร์มหาภารตะจึงสร้างความสำคัญขึ้นว่า ณ.ตรงนี้ เป็นที่ซึ่งเทวดา มนุษย์โลก ยมโลก มาพบกัน ผู้ใดมาอดอาหารที่นี่สักเดือนและอาบน้ำในแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์สายนี้ ผู้นั้นจะมองเห็นเทวดาได้
ในธรรมบทเล่าว่าในสมัยพุทธกาล สตรีอินเดียผู้ทรงคุณวิทยา จะมามาเสาะแสวงหาสามีกันที่นี่ พวกพราหมณ์ส่วนมากจะสอนให้ลูกสาวเรียนปรัชญา แล้วอนุญาตให้ผู้หญิงหาชายที่มีความรู้ที่มาอาบน้ำที่ฝั่งคงคา เมื่อปะทะฝีปากกับชายใดจนเป็นที่พอใจแล้ว ก็อนุญาตให้แต่งงานกับชายผู้นั้นได้
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #177 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2011, 01:59:05 PM » |
|
ตามริมฝั่งน้ำมีแท่นที่บรรดาแขกผู้ที่มักกางกลดใหญ่ๆแล้วเรียกตัวเองว่า "คงคาบุตร" เป็นที่จัดปะรำพิธีแนะนำให้พวกที่มาอาบน้ำ และเป็นที่ขายของเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นสำหรับบูชาพระเจ้า ของตกแต่งร่างกาย ที่ท่าน้ำมีเรือรับจ้างจอดรับนักท่องเที่ยว ยามเช้า พวกแขกมาอาบน้ำและนั่งสวดมนต์ทำอาการแปลกๆอยู่หลายท่า บ้างบูชาพระอาทิตย์ บ้างก็ลงอาบน้ำและกินน้ำในแม่น้ำคงคาซึ่งถือกันว่าเป็นการลอยบาปอย่างพิเศษ เสียงระฆังบนวัดดังเหง่งหง่าง ผู้คนมาอาบน้ำที่นี่กันต่อๆมานับพันๆปีมาแล้วยังไม่เคยหยุด และจะต้องอาบไปอย่างนี้จนกว่าแม่น้ำคงคาจะเหือดแห้งไป
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
FRW
|
|
« ตอบ #178 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2011, 02:15:03 PM » |
|
นั่งเรือชมการบูชาพระอาทิตย์ยามเช้าๆ ดอกดาวเรืองในกระทงใบตองกับเทียนเล่มน้อยๆส่องสว่างอยู่ใจกลางกระทง กระทงใบน้อยๆที่วางลงในแม่น้ำคงคากระเพื่อมขึ้นลงตามแรงคลื่นของน้ำ เสมือนหนึ่งชีวิตคนที่ต้องกระเพื่อมไปตามแรงคลื่นแห่งบุญ-บาปของตน เสียงสาธยายมนต์จากเทวาลัยดังกึกก้องกังวาลไปทั่ว เสียงครวญเพลงของผู้มีดนตรีในหัวใจดังมาจากทางโน้นบ้าง ทางนี้บ้าง เสียงชัตเตอร์ที่ลั่นดังถี่ยิบของนักท่องเที่ยวนานาชาติ เหมือนเสียงสวรรค์ที่ทุกคนใฝ่ฝันหา
ขณะที่สายตามองไล่ไปตามฝั่งนรก ฝั่งสวรรค์ เห็นผ้าหลากสีของสรรพมนุษย์ผู้มาจากสารทิศ และจากอมนุษย์ที่มาเข้าคิวรอไฟ ซึ่งจะเลือกสีได้เฉพาะสตรี ส่วนอมนุษย์ชายจะนุ่งห่มได้แต่ผ้าขาวเท่านั้น บางศพไฟยังเผาไม่ทันหมดดีก็ต้องถูกเชิญให้ลงไปอาบน้ำในแม่คงคา และศพบางประเภทก็ไม่ต้องถูกไฟเผา เช่น ศพนักบวช หญิงพรหมจารี ศพที่ถูกงูกัดตาย ศพที่ถูกฟ้าผ่าตาย ศพเหล่านี้ให้ใช้วิธีถ่วงให้จมลงสู่ก้นแม่น้ำ แต่บ่อยครั้งเหมือนกันที่เห็นศพลอยขึ้นมาเหนือน้ำ
|
ผู้มีบุญก็เข้ามา หมดวาสนาก็จากไป
|
|
|
|
Nai Ake
สมาชิกประจำ
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 233
^-^
|
|
« ตอบ #179 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 19, 2011, 03:12:07 PM » |
|
เรื่องจริงผ่านเลนส์ ....^____^.... เข้ามาติดตามทุกวันเลยครับท่านประธาน เป็นมหากาพย์ที่ยิ่งใหญ่จริงๆ
|
หนอนน้อยกับการเดินทาง
|
|
|
|
|