กุมภาพันธ์ 06, 2025, 05:15:59 PM
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
*

ตามรอยพระพุทธองค์
หน้า: « 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 »   ลงล่าง
  พิมพ์  

  ตามรอยพระพุทธองค์
ผู้เขียน ข้อความ
0 สมาชิก และ 88 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #30 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2011, 09:41:30 PM »

เก็บบรรยากาศรอบๆก่อนโดดขึ้นรถ  ครับ  เห็นด้วยครับเค้ายกตำแหน่งให้ว่าเป็นประเทศที่สกปกที่สุดในโลก


* IMG_3161.JPG (147.72 KB, 906x606 - ดู 139 ครั้ง.)

* IMG_3167.JPG (181.44 KB, 906x606 - ดู 152 ครั้ง.)


Share

แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
e21rts
ผู้ดูแลเว็บ
แฟนพันธ์แท้ SPC
******
ออนไลน์ ออนไลน์

กระทู้: 7,577


e21rts@outlook.co.th


ดูรายละเอียด
« ตอบ #31 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 06:43:13 AM »

อาบาละเฮ่...สวัสดีนะนายจ๋า..
ตอนแขกเป่าปี่..งูบนหัวนายออกมาร่ายรำด้วยหรือเปล่า...อิๆๆ
อ้อ...แต่คงไม่นะ....เพราะว่างูนายไม่แรงเท่างูฝ่ายกิจกรรมพอร์ทเทตร..
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

++คติเตือนตน++คำว่า"คนดี"..คือคำที่มีไว้เรียกคนโง่ให้ฟังสวยหรูดูดีมีเกียรติ...เพื่อหลอกให้มันหลงภาคภูมิใจ...และตั้งหน้าตั้งตาทำเรื่องโง่ๆของมันต่อไป..
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #32 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 10:44:41 AM »

ขอบคุณครับน้ายอด  งูบนหัวผม ตอนอยู่ที่อินเดีย มันไม่กล้าโผล่หัวออกมาหรอกครับ มันกลัวแขก อิๆ

หลังจากขึ้นรถ น้องเหม่ยหลิงก็คว้าไมค์มาบอกว่า "นมัสการทุกท่าน  ขณะนี้เราอยู่ในเมืองพุทธคยาแล้ว และจะพาไปทานข้าวเช้าที่โรงแรมที่พัก และเก็บของ  ซึ่งโรงแรมก็อยู่ไม่ไกลจากที่นี่นักและไม่ไกลจากสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า"  เธอพูดจบก็แขวนไมค์ ไกด์คนนี้เธอพูดแค่นี้จริงๆครับ

คำว่า"มนัสการ" เป็นคำกล่าวทักทายของชาวอินเดีย มีความหมายว่า "สวัสดี" นั่นเอง  จะคล้ายกับของเนปาลที่ใช้คำว่า "นมัสเต"  แต่ที่อินเดีย จะใช้นมัสการเฉพาะผู้ที่สูงวัยกว่าเท่านั้น หากอายุน้อยกว่าก็จะเป็นนมัสเตเหมือนกัน

เราไปถึงโรงแรมที่พักและจัดของเข้าห้องพัก ผมพักห้องเดียวกับน้าอู๋


* IMG_3174.JPG (158.69 KB, 906x606 - ดู 130 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 07:20:57 PM โดย FRW » แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #33 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 10:49:35 AM »

ระหว่างที่เด็กรถกำลังขนกระเป๋าลงจากรถและส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ของโรงแรม ผมเดินดูรอบๆบริเวณก็ไปสะดุดเข้ากับสิ่งนี้ครับ

ทีแรกสงสัยว่ามันคืออะไร  แต่พอเห็นข้อความข้างบนก็ถึงบางอ้อ  ถังสำหรับใช้ดับเพลิงเวลาที่เกิดไฟไหม้   เรียกว่า ชีวิตนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ของโรงแรม ฝากไว้กับเจ้าถังตักน้ำ 4-5 ใบนี้แหละครับ ฮ่าๆๆ


* IMG_3175.JPG (146.41 KB, 906x606 - ดู 133 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #34 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 11:05:42 AM »

เหลียวมองอีกด้านเพราะได้ยินเสียงนกนานาชนิดส่งเสียงจ๊อกแจกจอแจ  แล้วก็แอบย่องๆเข้าไปดูว่ามีนกอะไรบ้าง  ไม่ได้เอาเลนส์ส่องนกมา  มีแต่เจ้า 70-200 ที่ยืมเค้ามา ก็เลยต้องส่องมันด้วยเจ้านี่แหละครับ

ตัวนี้ไม่แน่ใจว่ามันจะอยู่ในตระกูล นกกระราง Langhingthrush หรือเปล่า  แต่เสียงร้องใกล้เคียง และพฤติกรรมการหากินเป็นฝูงใกล้เคียง  และคล้ายนกปรอด Bulbul  แต่มีคนบอกว่ามันเป็นนกในตระกูล นกกินแมลง Bqbbler  ขอวานผู้รู้ช่วยชี้แจงทีครับ


* IMG_3193.JPG (146.08 KB, 906x641 - ดู 126 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 13, 2011, 07:22:55 PM โดย FRW » แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #35 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 11:07:11 AM »

แต่เจ้าตัวนี้ นกเขาแน่ๆ อิๆ  เอ......  ไม่ใช่สิ  น่าจะเป็นนกแขกมากกว่า หุๆๆ


* IMG_3205.JPG (189.34 KB, 906x603 - ดู 138 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
gumsaku
ผู้ตรวจการณ์ชมรม
สมาชิกใหม่
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 0


เมื่อยกกล้องขึ้นถ่ายภาพความสุขก็มาอยู่ตรงหน้า


ดูรายละเอียด
« ตอบ #36 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 01:12:19 PM »

ถังดับเพลิงแบบนี้สมัยก่อนต่างจังหวัดก็ใช้ อิอิ (ส่วนงู ท่านประธาน เป่ายังไงมันก็ไม่ขึ้น อิอิ ) ไม่มีโรตีขายหรือ กล้วยแขก หรอครับ อิอิ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า
นิดหน่อย
คณะกรรมการชมรม
สมาชิกระดับเทพ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 353



ดูรายละเอียด
« ตอบ #37 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 02:36:12 PM »

ตกลงหน้าหมีไปเที่ยวหรือไปผจญเพลิงครับ  ถังดับเพลิงอย่าว่าแต่ที่อินเดียมีเลยครับ ผมว่าเมืองไทยก็น่าจะมีน่ะแต่ยังหาไม่เจอแต่ที่แน่ตอนผมเป็นทหาร(เกณฑ์) ผมว่าผมก็เจออยู่น่ะ
ขอบคุณที่พาไปแสวงบุญด้วยครับแล้วจะรอชุดต่อไปครับ
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

...คำว่าพอก็เพียงพอ  เพียงนี้ก็พอดังนั้นเอง คนเราถ้าพอใจในความต้องการ  ก็มีความโลภน้อย

เมื่อมีความโลภน้อย  ก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย  กับทุกประเทศ
มีความคิด-อันนี้ไม่ใช่เศรษฐกิจ-มีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียง
หมายความว่า  พอประมาณ  ไม่สุดโต่ง  ไม่โลภอย่างมาก  คนเราก็อยู่เป็นสุข...
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #38 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 04:35:04 PM »

หลังอาหารเช้าที่พวกเราหม่ำกันเอาเกือบเที่ยง  น้องเหม่ยหลิงแกก็ต้อนพวกเราขึ้นรถไปชมพุทธคยา แดนตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ขึ้นรถได้แกก็คว้าไมค์มาร่ายโศลกว่า

"เมืองไพสาลี
 เมืองโสเภณีเป็นอรหันต์
 เมืองภูผาคิฌกูฏ
 เมืองบุตรพ่อหมอเทวดา
 เมืองม้าขื่นข่ม
 เมืองขนมขาชา "



 อธิบาย
ด้วยว่าเมืองพุทธคยานี้เดิมตั้งอยู่ในแคว้นไพสาลี 
เคยมีหญิงคณิกาได้สตับฟังธรรมขององพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วเกิดดวงตาเห็นธรรม ทำความเพียรจนเข้าสู่อรหันตมรรค อรหันตผลในที่สุด 
ที่เมืองนี้มีเขาชื่อคิฌกูฏ 
ในสัมยพุทธกาลมีหมอเทวดาที่ชื่อว่า หมอชีวก
ที่ว่ามีม้าขื่นขมเพราะว่า กาลเวลาผ่านมา 2550กว่าปี  ม้า ยังถูกใช้เป็นพาหนะประจำวันของชาวบ้าน และได้ค่าตอบแทนเพียงหญ้าแห้งๆเล็กน้อย ม้าจึงมีสภาพที่ผอมโซ 
ในเมืองนี้มีขนมอร่อยแบบขึ้นชื่อนั่นก็คือขนม คชา แต่คนไทยแอบเรียกให้เพี้ยนเป็นขาชา

เราขึ้นรถแล้วยังแทบไม่ได้หย่อนก้นลงนั่ง ไกด์ก็บอกเราว่า "ถึงแล้วค่ะ"  แล้วก็ไม่ได้มีคำอธิบายอะไรมากไปกว่านี้

ภาพรอบๆบริวณพุทธคยาครับ


* IMG_3210.JPG (179.75 KB, 906x606 - ดู 152 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
~$#MOSO_d60#฿~
สมาชิกใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 0



ดูรายละเอียด
« ตอบ #39 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 04:44:10 PM »

ชอบเครื่องมือดับเพลิงแบบมืออาชีพจัง
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า


Thanks: ฝากรูป
การแข่งขัน   ทำให้เกิดการพัฒนา
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #40 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 04:54:55 PM »

หลังจากไกด์ไปจ่ายค่าเข้าชมแล้วจึงนำเราเข้าไปยังเจดีย์พุทธคยา ผมจะพยายามเล่าเรื่องย่อๆของสถานที่และเรื่องที่เกี่ยวพันกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่าที่ตนเองพอจะทราบและที่ไปค้นคว้ามาเพิ่มเติมนะครับ  แต่ผิด-ถูกอย่างไร ไม่ขอรับรองนะครับ

พุทธคยา  เป็นบุญสถานและสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของประเทศอินเดีย   แม้ว่าชุมชนจะไม่ใหญ่โต  แต่พอถึงฤดูกาลไหว้พระซึ่งจะอยู่ระหว่างเดือน ตุลาคม-มีนาคม  จะมีนักแสวงบุญจากทั่วโลกมาที่นี่  โดยเฉพาะชาวทิเบต ภูฏาน จะลงจากภูเขามาปักหลักไหว้พระ สวดมนต์ จุดไฟบูชา จนสว่างไสวราวกับที่นี่เป็นเมืองทิเบตก็ไม่ปาน

มีเรื่องเล่ากันว่า  พุทธคยาถิ่นนี้เคยอุดมสมบูรณ์ งดงามด้วยป่าไม้ วิหก นกกา สัตว์ป่านานาพันธุ์  ธารน้ำไหลใสสะอาด  บัดนี้เหลือเพียงรอยอักษรที่ใช้จารึกไว้เท่านั้น  มีแต่คันนาในทุ่งกว้าง  ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด ผุกร่อนไปตามกาลเวลา ในอดีตเมืองนี้เคยเป็นเมืองที่อยู่ของอสูรชื่อ "คยา"  วันหนึ่งมีเหตุวิวาทกับเหล่าเทวดา เทวดาสู้ไม่ได้จึงไปฟ้องพระวิษณุ  พระวิษณุจึงลงมาช่วยปราบอสูรตนนี้  เมื่อปราบแล้วก็สาปแช่งเอาไว้ว่า
"เมืองของอสูรนี้ มีแม่น้ำก็ขอให้มีแต่ทราย มีหญิง-ชายก็ขออย่าให้มีคนงาม มีภูเขาก็ขออย่าให้มีต้นไม้ใหญ มีคนค้าขายก็ขอให้มีเพียง พออยู่พอกิน"

ภาพด้านหน้าทางเข้าพุทธคยาครับ


* IMG_3214.JPG (195.99 KB, 606x906 - ดู 133 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #41 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 05:07:12 PM »

มหาเจดีย์โพธิคยา  ประดิษฐานอยู่ทางทิศตะวันออกของต้นศรีมหาโพธิ์ มีแท่นวัชระอาสน์อยู่กลาง  ลักษณะรูปทรงกรวยสี่เหลี่ยม สูงประมาณ 52 เมตร รอบฐาน 85 เมตร มีอาคารรองรับ 2 ชั้น มีเจดีย์บริวารทั้ง 4 ด้าน  มีรอยการบูรณะกันมาตามยุคสมัย

บริเวณมหาโพธิ์วิหารกลายเป็นที่สำคัญที่สุด เพราะพระพุทธองค์เสด็จมาตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์ที่นี้  และที่ตรงนี้เป็นดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนับถืออยู่แล้ว เลยกลายว่า ที่ตรงนี้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในโลกไป


* IMG_3226.JPG (170.03 KB, 606x906 - ดู 153 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #42 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 06:07:35 PM »

ดินแดนแห่งนี้เป็นบ่อเกิดแห่งแสงสว่างของโลก จึงเป็นที่หมายปองของผู้คนที่ต้องการผลประโยชน์  พระพุทธศาสนามีจิตใจกว้างขวาง เผื่อแผ่ มีปกติที่ไม่ชิงดีชิงเด่นกับใคร มีน้ำใจให้ทุกคนเสมอ  ด้วยเหตุนี้ศาสนาพราหมณ์จึงขยับตัวเข้าสู่สถานที่แห่งนี้  มีในจารึกของปลายราชวงศ์ปาละ (ศตวรรษที่ 10) เอาไว้ว่า มีการใช้กำลังบังคับเพื่อเปลี่ยนพุทธภูมิแห่งนี้ให้เป็นดินแดนพราหมณ์ โดยเอารูปพระศิวะพราหมเข้าไปประดิษฐานในวิหารมหาโพธิ์

มหาโพธิ์สังฆารามถูกสร้างขึ้น ตั้งอยู่อย่างสวยงาม และแล้วก็ผุพังไปตามกาลเวลา  และพังเสียหายจากกระแสศรัทธาของคนแต่ละยุค จากน้ำมือพราหมณ์ ผ่านเข้ายุคมุสลิม  มหาสังฆารามก็ถูกทอดทิ้งให้ตกอยู่ในสภาพของเมืองร้าง  ถูกเผาผลาญทำลายราบเรียบและถูกทอดทิ้งให้กลายเป็นป่าดง  มหาพุทธคยาแห่งนี้จึงหลุดมือชาวพุทธไปอย่าเด็ดขาดตั้งแต่ พ.ศ.2133  ตกอยู่ในการครอบครองของนักบวชมหันต์ ในนิกาย ทัสนามิสันยาสี  โดยอ้างความชอบธรรมว่า เมื่อปี พ.ศ.1724 จักรพรรดิ์โมกุลชื่อ  มูฮัมมัดชาห์  ได้พระราชทานที่แห่งนี้ให้แก่มหันต์ เขาจึงถือว่าเขาเป็นเจ้าของวิหารและบรรดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพุทธคยานี้ทั้งหมด

ต่อมาปี พ.ศ.2354 เจ้าแผ่นดินของพม่าส่งทูตมาขอบูรณะวิหารขึ้นใหม่ แต่พวกมหันต์ไม่ให้ความสนใจ จนกระทั่งสมัยพระเจ้ามินดง พ.ศ.2417 เจรจาผ่านรัฐบาลอินเดียซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของอังกฤษ ได้รับอนุญาตให้เข้าบูรณะได้แต่มีข้อแม้ว่าอย่าทำลายเทวรูปของศาสนาฮินดู และต้องให้เครื่องเงินและทองแก่พวกมหันต์เป็นจำนวนมาก  รัฐบาลอังกฤษเกรงใจพวกมหันต์มาก จึงไม่เอาใจใส่ดูแลการบูรณะใดๆ ปล่อยให้ชาวบ้านเข้าขโมยข้าวของที่จะใช้ในการบูรณะไปเป็นอันมาก  ชาวพุทธร้องเรียนอย่างไรก็ไม่มีผล

จนกระทั่งพ.ศ.2433 เซอร์ เอ็ดวิน อาร์โนลด์ ชาวอังกฤษผู้เลื่อมใสในพุทธศาสนาเห็นว่าพุทธคยานี้ควรตกเป็นของชาวพุทธจึงจะชอบธรรม จึงทำหนังสือถึงรัฐบาลอังกฤษ ขอให้รัฐบาลยกพุทธคยาให้แก่ชาวพุทธ แต่ก็ยังไม่ได้ผล  อีกปีต่อมา มีมนุษย์ใจสิงห์ชาวลังกาผู้หนึ่ง ทำการเรียกร้องให้ชาวพุทธทั่วโลกเข้าเจรจากับมหันต์อย่างเป็นทางการ และขอซื้อที่ดินส่วนหนึ่ง  แต่พอเอาเข้าจริง มหันต์ก็ไม่ขาย แต่ชาวพุทธก็ส่งพระที่มีใจอาจหาญเข้าอยู่ที่พุทธคยา  ขบวนการกู้พุทธคยาดำเนินต่อไปจนถึงปี พ.ศ. 2436 ท่านธรรมปาละพร้อมด้วยพันเอกโอลคอตต์และนายเอดซ์ นักเทววิทยาจากดาร์จีลิงเข้าไปที่พุทธคยาก็พบกับเหตุการณ์ร้ายแรงอันมิคาดมาก่อนคือ ภิกษุ 4 องค์ได้ถูกลูกศิษย์มหันต์ตีเกือบตาย  และยังถูกชาวมหันต์ขู่ว่าจะฆ่าให้ตายทั้งหมด  มีการกระทบกระทั่งกันมาอีกนับร้อยปี  จนกระทั่งปี พ.ศ.2467 ชาวพุทธทั่วโลกเข้าชื่อกันร้องเรียนถึงสภาคองเกรสส์ และตั้งกรรมาธิการขึ้นสอบสวน พร้อมกับเสนอหาทางปรองดองโดยตั้งกรรมการชาวพุทธ 5 คน ฮินดู 5 คน เป็นผู้ดูแลพุทธคยา

ต่อมาท่านมหาตมะคานธ๊เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ว่า "วิหารพุทธคยานี้ควรเป็นสมบัติของชาวพุทธโดยชอบธรรม ไม่มีอะไรต้องสงสัย"  และท่าน รพินทรนาถ ฐากูร ก็เขียนว่า "บรรดาฮินดูผู้มีสัจจะต่อตนเองต้องยอมรับว่า ที่ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณนี้  จะตกอยู่ในความดูแลของศาสนาอื่นไม่ได้  เพราะตนเองไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง และไม่มีเยื่อใยต่อศาสนาพุทธ"  หลังจากนั้นมา ชาวมหันต์จึงยอมถอยห่างออกไป


* IMG_3227.JPG (163.67 KB, 906x606 - ดู 126 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 06:25:10 PM โดย FRW » แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
FRW
บุญและความรู้ ยิ่งให้เค้าไปเท่าไร ยิ่งได้กลับมามากเท่านั้น
ผู้ดูแลเว็บ
สมาชิกใหม่
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20


บางอย่างที่เห็น มันอาจไม่จริงเสมอไป


ดูรายละเอียด
« ตอบ #43 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 07:33:31 PM »

ภายในเจดีย์มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่สร้างด้วยหินแกรนิตสีดำอายุกว่า 1400 ปี องค์หนึ่งประดิษฐานอยู่  ปิดทองอร่าม มีเครื่องตั้งบูชาตรงหน้าพระพุทธรูป เจ้าหน้าที่ทำไม้เป็นทรงสี่เหลี่ยมครอบเอาไว้  พระพุทธรูปนี้มีชื่อว่า พระพุทธเมตตา  ทางเดินเข้าออก มีนักแสวงบุญ เข้า-ออก กันอย่างไม่ขาดสาย  ไม่มีโอกาสที่จะนั่งกราบไหว้นานๆหรอกครับ คนต่อแถวกันยาวเหยียด


* IMG_3236.JPG (147.54 KB, 606x906 - ดู 120 ครั้ง.)
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

ผู้มีบุญก็เข้ามา  หมดวาสนาก็จากไป
Andaman
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #44 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 07:51:06 PM »

ผมแวะเข้ามาดูทุกวันเลยครับ...
แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล   บันทึกการเข้า

หน้า: « 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 »   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 

กระโดดไป:  

T--shirt Motor CRC