ต่อไป »

[..วันนี้ตื่นสายหน่อยครับ..ราวๆเจ็ดโมงเช้าท่ามกลางอากาศ 14 องศา..ไม่ต้องรีบเพราะจุดท่องเที่ยวบนดอยนี้อยู่ไม่ห่างกันนัก..เมื่อคืนผมถามเจ้าหน้าที่แล้ว..เค้าบอกว่าที่ภูพิงค์ราชนิเวศน์นั่นยังไม่เปิดให้เข้าชม..ผมมาเมื่อปีที่แล้วก็ปิด..แต่ชั่งเถอะเพราะเค้ากว่าจะเปิดก็ปาเข้าไปในเวลาราชการคือแปดโมงเช้า..และพอสี่โมงเย็นก็เริ่มไล่ออกแล้ว..แถมเวลาเดินถ่ายรูปต้องระวังตัวแจ..หากออกนอกเส้นทางเพียงนิดเดียวก็จะมีเสียงนกหวีดเป่าปรี๊ดไล่..มันไม่สะดวกเพราะเค้าเป็นวังไงครับ..ระเบียบเลยต้องเยอะหน่อย....ในส่วนพญาเสือที่ขุนช่างเคี่ยนนั่นเจ้าหน้าที่บอกก็มีบานอยู่..แต่ผมไม่กล้าเอารถคันนี้ลงไปครับ..ด้วยว่าถนนเค้าแคบมาก..คือเป็นทางปูนก็จริง..แต่ไหล่ทางเป็นขอบลึกลงไปราวฟุตนึง..เวลารถสวนทางกันต้องหลีกกันแบบแทบจะต้องพับกระจกมองข้าง..เพราะหากล้อตกลงไหล่ทางนี่กว่าจะเอาขึ้นมาได้คงสาหัสครับ..ผมเคยบินมาเชียงใหม่แล้วเช่ารถลงไปครั้งนึง..ขนาดเป็นรถเล็กๆอย่างซูซูกิสวิฟนะ..กว่าจะออกมาได้เหงื่อตกเลย....มาวันนี้เลยมาเป้าหมายนี้ครับ..บ้านแม้วดอยปุย..แต่ที่จริงคำว่า"แม้ว"นี่เค้าบอกว่ามันเป็นคำเรียกที่เหยียดกัน..เหมือนเรียกคนจีนว่า"เจ๊ก"หรือเรียกคนญวนว่า"แกว"นั่นแหละ..ต้องเรียกว่า"ม้ง"ครับ..ถึงจะเป็นการเรียกที่ให้เกียรติกัน..ฉนั้นต่อไปนี้ต้องเรียกท่านทักษิณว่า"ท่านม้ง"นะครับ..แฮ่ๆๆ..ผมขับลงมาถึงก็เอารถไปจอดหน้าโรงเรียน..แล้วเดินมาหาข้าวซอยกินอยู่หน้าตลาด..จากนั้นเดินผ่านตลาดไปเข้าสวนแม้วดอยปุยครับ..จ่ายค่าเข้าชมคนละยี่สิบบาทแล้วท่าน ผบ.ก็ไปเช่าชุดม้งเพื่อถ่ายรูปซึ่งมีน้องผู้หญิงถือกล้องแคนน่อน 80 ดี+เลนส์คิทมาตื้อๆอยู่..เก่งมากนะ..อายุแค่ราวสิบห้า(แต่น้ำหนักคงราวแปดสิบกิโล)หากินเองโดยเป็นตากล้องมืออาชีพแล้ว..ผมนี่อายเลยครับ....ในที่สุดท่าน ผบ.ก็ไปถ่ายกับน้องนั่น..ส่วนผมก็เดินค่าเวลากับสวนดอกไม้นี่..ใบแรกนี่เวลาปาเข้าไป 11.04 น. มันสายไปมากๆแล้ว..]

..วันนี้ตื่นสายหน่อยครับ..ราวๆเจ็ดโมงเช้าท่ามกลางอากาศ 14 องศา..ไม่ต้องรีบเพราะจุดท่องเที่ยวบนดอยนี้อยู่ไม่ห่างกันนัก..
เมื่อคืนผมถามเจ้าหน้าที่แล้ว..เค้าบอกว่าที่ภูพิงค์ราชนิเวศน์นั่นยังไม่เปิดให้เข้าชม..
ผมมาเมื่อปีที่แล้วก็ปิด..แต่ชั่งเถอะเพราะเค้ากว่าจะเปิดก็ปาเข้าไปในเวลาราชการคือแปดโมงเช้า..และพอสี่โมงเย็นก็เริ่มไล่ออกแล้ว..
แถมเวลาเดินถ่ายรูปต้องระวังตัวแจ..หากออกนอกเส้นทางเพียงนิดเดียวก็จะมีเสียงนกหวีดเป่าปรี๊ดไล่..มันไม่สะดวกเพราะเค้าเป็นวังไงครับ..ระเบียบเลยต้องเยอะหน่อย..
..ในส่วนพญาเสือที่ขุนช่างเคี่ยนนั่นเจ้าหน้าที่บอกก็มีบานอยู่..แต่ผมไม่กล้าเอารถคันนี้ลงไปครับ..ด้วยว่าถนนเค้าแคบมาก..คือเป็นทางปูนก็จริง..แต่ไหล่ทางเป็นขอบลึกลงไปราวฟุตนึง..
เวลารถสวนทางกันต้องหลีกกันแบบแทบจะต้องพับกระจกมองข้าง..เพราะหากล้อตกลงไหล่ทางนี่กว่าจะเอาขึ้นมาได้คงสาหัสครับ..
ผมเคยบินมาเชียงใหม่แล้วเช่ารถลงไปครั้งนึง..ขนาดเป็นรถเล็กๆอย่างซูซูกิสวิฟนะ..กว่าจะออกมาได้เหงื่อตกเลย..
..มาวันนี้เลยมาเป้าหมายนี้ครับ..บ้านแม้วดอยปุย..แต่ที่จริงคำว่า"แม้ว"นี่เค้าบอกว่ามันเป็นคำเรียกที่เหยียดกัน..เหมือนเรียกคนจีนว่า"เจ๊ก"หรือเรียกคนญวนว่า"แกว"นั่นแหละ..
ต้องเรียกว่า"ม้ง"ครับ..ถึงจะเป็นการเรียกที่ให้เกียรติกัน..ฉนั้นต่อไปนี้ต้องเรียกท่านทักษิณว่า"ท่านม้ง"นะครับ..แฮ่ๆๆ
..ผมขับลงมาถึงก็เอารถไปจอดหน้าโรงเรียน..แล้วเดินมาหาข้าวซอยกินอยู่หน้าตลาด..จากนั้นเดินผ่านตลาดไปเข้าสวนแม้วดอยปุยครับ..
จ่ายค่าเข้าชมคนละยี่สิบบาทแล้วท่าน ผบ.ก็ไปเช่าชุดม้งเพื่อถ่ายรูปซึ่งมีน้องผู้หญิงถือกล้องแคนน่อน 80 ดี+เลนส์คิทมาตื้อๆอยู่..
เก่งมากนะ..อายุแค่ราวสิบห้า(แต่น้ำหนักคงราวแปดสิบกิโล)หากินเองโดยเป็นตากล้องมืออาชีพแล้ว..ผมนี่อายเลยครับ..
..ในที่สุดท่าน ผบ.ก็ไปถ่ายกับน้องนั่น..ส่วนผมก็เดินค่าเวลากับสวนดอกไม้นี่..ใบแรกนี่เวลาปาเข้าไป 11.04 น.  มันสายไปมากๆแล้ว..

[..ในสวนนี้จะมีน้ำตกเล็กๆอยู่ด้านในครับ..ท่าน ผบ.คงต้องใช้เวลานานพอสมควรกับน้องตากล้องนั่น..ผมก็เดินเก็บดอกไม้ค่าเวลาไปก่อน..]

..ในสวนนี้จะมีน้ำตกเล็กๆอยู่ด้านในครับ..
ท่าน ผบ.คงต้องใช้เวลานานพอสมควรกับน้องตากล้องนั่น..ผมก็เดินเก็บดอกไม้ค่าเวลาไปก่อน..

[..ที่นี่เมื่อก่อนจะมีแปลงฝิ่นเล็กๆไม่กี่ต้น..ปลูกไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมและรู้จักกับดอกไม้ที่สวยแต่มีพิษร้ายแรงและมีคุณประโยชน์มหาศาลถ้าเอาไปใช้ทำมอร์ฟีน..แต่พอถึงรัฐบาลประยุทธ..โดนสั่งห้ามปลูกเด็ดขาด..กอเดียวก็ไม่ได้..ที่นี่เลยขาดเสน่แห่งสีสันไปครับ..]

..ที่นี่เมื่อก่อนจะมีแปลงฝิ่นเล็กๆไม่กี่ต้น..ปลูกไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมและรู้จักกับดอกไม้ที่สวยแต่มีพิษร้ายแรงและมีคุณประโยชน์มหาศาลถ้าเอาไปใช้ทำมอร์ฟีน..
แต่พอถึงรัฐบาลประยุทธ..โดนสั่งห้ามปลูกเด็ดขาด..กอเดียวก็ไม่ได้..ที่นี่เลยขาดเสน่แห่งสีสันไปครับ..

[..ระวังเห๊อะ..ไม่ปลูกนานๆเข้าเมล็ดพันธ์ที่เคยมีมันจะฝ่อไปซะหมด..พอจะปลูกอีกอาจต้องไปขอพันธ์จากว้าแดงซึ่งยังมีปลูกอยู่หลายหมื่นไร่..ปัจจุบันนี้กลุ่มว้าแดงที่พม่าเป็นผู้ส่งออกยางฝิ่นมากที่สุดในโลก..แซงอัฟกานิสถานไปแล้ว..]

..ระวังเห๊อะ..ไม่ปลูกนานๆเข้าเมล็ดพันธ์ที่เคยมีมันจะฝ่อไปซะหมด..พอจะปลูกอีกอาจต้องไปขอพันธ์จากว้าแดงซึ่งยังมีปลูกอยู่หลายหมื่นไร่..
ปัจจุบันนี้กลุ่มว้าแดงที่พม่าเป็นผู้ส่งออกยางฝิ่นมากที่สุดในโลก..แซงอัฟกานิสถานไปแล้ว..

[..ผมเดินลงมาถึงหน้าน้ำตก..เจอร้านเช่าชุดอยู่ตรงนี้ซึ่งปีที่แล้วไม่มี..และที่สำคัญคือชุดเค้าสวยๆทั้งนั้น..ก็เดินเกร่เข้าไปถ่ายรูป..แม่ค้าสาวสวยอายุราวยี่สิบปลายๆก็ออกมาต้อนรับ..ทักทายมาด้วยภาษาญี่ปุ่น..เมื่อผมไม่ตอบเพราะฟังไม่ออกน้องเค้าก็พลิกลิ้นส่งภาษาเกาหลีมา..ผมก็ไม่ตอบอีกเพราะไม่รู้ภาษาเกาหลี(น้องเค้าคงไม่คิดว่าผมเป็นจีน..เพราะปกติคนจีนจะเที่ยวกันเป็นกลุ่มใหญ่เลย..แต่นี่ผมเดินคนเดียว..คงไม่ใช่จีนแน่)..คราวนี้เลยมาด้วยภาษาอังกฤษละ..ผมเลยต้องบอกว่า"แอมไทยซิติเซ่น"..น้องเค้าร้องอ้าววว..หน้าตาผมนี่มันอินเตอร์จริงๆ..ฮ่าๆๆคือที่เล่ามานี่เพราะอยากจะให้รู้ว่าชาวม้งปัจจุบันนี้เค้าพัฒนาไปขนาดไหนแล้ว..ขนาดร้านเช่าชุดแม่ค้ายังพูดได้สี่ห้าภาษา..เก่งจริงๆครับ....ส่วนท่าน ผบ.ทบ.ก็ยังหายเงียบไปกับน้องตากล้องนั่น..ผมเลยโทรไปตามบอกให้ลงมาดูชุดที่นี่ด้วย..พอเห็นเข้าก็เช่าถ่ายอีกชุด..และชุดนี้ผมเป็นคนถ่ายแล้วครับ..แต่ตอนทำรูปที่บ้านนี่..ท่านเห็นเข้าบอกว่าห้ามเอามาโพสต์เด็ดขาด..เพราะท่านไม่ได้แต่งหน้าทาปาก..ชุดก็สวยจัดเลยกลบรัศมีท่านซะหมด..และในคอมพ์ผมมันไม่มีแอปช่วย..เลยเอาลงเวบให้ดูไม่ได้..อิๆตอนถ่ายก็มีฝรั่งครอบครัวนึงมาขอถ่ายกับนางแบบจำเป็นนี่..โดยการรู้เห็นเป็นใจของน้องเจ้าของร้านครับ..นัยว่าจะเอาไปโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ประเทศเค้า....ขอบคุณที่ตามมาเที่ยว...เดี๋ยวเจอกันกระทู้หน้าครับ..]

..ผมเดินลงมาถึงหน้าน้ำตก..เจอร้านเช่าชุดอยู่ตรงนี้ซึ่งปีที่แล้วไม่มี..และที่สำคัญคือชุดเค้าสวยๆทั้งนั้น..
ก็เดินเกร่เข้าไปถ่ายรูป..แม่ค้าสาวสวยอายุราวยี่สิบปลายๆก็ออกมาต้อนรับ..ทักทายมาด้วยภาษาญี่ปุ่น..เมื่อผมไม่ตอบเพราะฟังไม่ออกน้องเค้าก็พลิกลิ้นส่งภาษาเกาหลีมา..
ผมก็ไม่ตอบอีกเพราะไม่รู้ภาษาเกาหลี(น้องเค้าคงไม่คิดว่าผมเป็นจีน..เพราะปกติคนจีนจะเที่ยวกันเป็นกลุ่มใหญ่เลย..แต่นี่ผมเดินคนเดียว..คงไม่ใช่จีนแน่)
..คราวนี้เลยมาด้วยภาษาอังกฤษละ..ผมเลยต้องบอกว่า"แอมไทยซิติเซ่น"..น้องเค้าร้องอ้าววว..หน้าตาผมนี่มันอินเตอร์จริงๆ..ฮ่าๆๆ
คือที่เล่ามานี่เพราะอยากจะให้รู้ว่าชาวม้งปัจจุบันนี้เค้าพัฒนาไปขนาดไหนแล้ว..ขนาดร้านเช่าชุดแม่ค้ายังพูดได้สี่ห้าภาษา..เก่งจริงๆครับ..
..ส่วนท่าน ผบ.ทบ.ก็ยังหายเงียบไปกับน้องตากล้องนั่น..ผมเลยโทรไปตามบอกให้ลงมาดูชุดที่นี่ด้วย..พอเห็นเข้าก็เช่าถ่ายอีกชุด..และชุดนี้ผมเป็นคนถ่ายแล้วครับ..
แต่ตอนทำรูปที่บ้านนี่..ท่านเห็นเข้าบอกว่าห้ามเอามาโพสต์เด็ดขาด..เพราะท่านไม่ได้แต่งหน้าทาปาก..ชุดก็สวยจัดเลยกลบรัศมีท่านซะหมด..และในคอมพ์ผมมันไม่มีแอปช่วย..เลยเอาลงเวบให้ดูไม่ได้..อิๆ
ตอนถ่ายก็มีฝรั่งครอบครัวนึงมาขอถ่ายกับนางแบบจำเป็นนี่..โดยการรู้เห็นเป็นใจของน้องเจ้าของร้านครับ..นัยว่าจะเอาไปโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ประเทศเค้า..
..ขอบคุณที่ตามมาเที่ยว...เดี๋ยวเจอกันกระทู้หน้าครับ..

น้ายอดไม่ให้อาซ้อใส่ชุดแม้วแล้วถ่ายรูปบ้างละครับ

น้ายอดไม่ให้อาซ้อใส่ชุดแม้วแล้วถ่ายรูปบ้างละครับ

..แสดงว่านี่น้าชิตไม่ได้อ่านไอ้ที่ผมพิมพ์บรรยายแทบจะละเอียดยิบไว้เลยสิ..
มีรึที่ท่าน ผบ.ทบ.จะพลาด..เพราะเค้ามาด้วยจุดประสงค์นี้อยู่แล้ว..แต่ที่ไม่ให้ผมเอาลงเวบเพราะเค้ารู้สึกว่าชุดมันสวยเกินหน้าเกินตาเค้า..
ด้วยเค้าไม่ได้แต่งหน้าทาปาก..ในคอมพ์ผมก็ไม่มีแอปช่วย..แต่ของน้องตากล้องอาชีพนั่นตอนเค้าเอารูปมาให้ในรูปนั่นเค้าแต่งหน้าท่าน ผบ.ทบ.ซะเนียนสวย..มีการดึงหน้าให้เป็นวีเชพด้วย..ฮ่าๆๆ
ท่าน ผบ.บ่นผมว่าถ่ายรูปมากี่ปีแล้ว??ไม่มีการพัฒนาอะไรเลย.. ผมบอกกล้องผมถ่ายคนก็เป็นคนถ่ายหมาก็เป็นหมาแหละ..ท่านเคืองแทบจะไม่พูดด้วย..ฮ่าๆๆ
และหลังจากนั้น..วันที่ไปเที่ยววัดห้วยปลากั้งที่เชียงรายเค้าเอามือถือเค้ามาถ่ายผม..ภาพออกมานี่ผมจำตัวเองแทบไม่ได้..
หน้าเนียนเรียวยาวยังกะพระเอกลิเก..ปากแดงคิ้วโก่งรับไม่ได้เลย..นั่นเพราะความสามารถของแอปในมือถือเค้า..ซึ่งทุกวันนี้มันไปไกลมาก..ในขณะที่ในกล้องและคอมพ์ผมไม่มี..