ต่อไป »

[..เมื่อออกจากคลองลานฟลอร่าปาร์คแล้วผมตั้งหมายที่ห้วยขาแข้งครับ..ที่นี่ท่าน ผบ.ยังไม่เคยมา..เลยว่าจะพามารู้จักท่านสืบ นาคะเสถียรครับ..ระยะทาง 108 กิโลเมตร..ระยะเวลา 1.53 ชั่วโมง..เมื่อมาถึงป้อมยามที่เคยซื้อบัตรนั้น..ทางเจ้าหน้าที่บอกให้เอารถไปจอดในลานและซื้อบัตรในอาคารที่เห็นสร้างขึ้นมาใหม่..เอ..แต่ก่อนไม่เห็นจะยุ่งยากยังงี้นี่หว่า..ซื้อที่ป้อมแล้วก็เข้าได้เลย..แต่ชั่งเถอะ..ก็จอดรถแล้วลงไปซื้อบัตร..เจ้าหน้าที่สาวสองคนในนั้นถามว่ามากี่ท่านคะ..ผมบอกสอง เค้าบอกเรียนเชิญอีกท่านเข้ามาด้วยสิ..เอ..จะเอาอะไรหว่า..ต้องปั๊มหัวแม่โป้งก่อนเข้ารึไง??..พอท่าน ผบ.เข้ามาแล้วผมถึงได้ถึงบางอ้อ.. คือเค้าจะให้ลงทะเบียนชื่อและที่อยู่..เป็นหลักฐานว่าได้เข้าเยี่ยมชมนิทรรศการ+สื่อความรู้ที่จัดไว้ในอาคารหลังนั้นครับ..คงลงทุนไปเยอะและกลัวว่าตัวเลขผู้เข้าชมจะน้อย..เดี๋ยวเบื้องบนจะว่าผลงานไม่เข้าเป้า..เลยไล่ต้อนให้ไปลงชื่อครับ..เสียเวลาอยู่ราวสิบนาที..จากนั้นผมก็"ปล่อยรถ"(คือไม่แตะคันเร่งเลย)ให้ไหลไปตามถนนดิน 14 กิโลเมตรนั่นด้วยความเร็วต่ำสุดของรอบเครื่องยนต์..ส่วนสายตาก็คอยจับจ้องสองข้างทาง..ด้วยหวังจะเจอหัวขวานสักตัว..แต่แห้วครับ..มีแค่ตะขาบทุ่งสามสี่ตัวให้เห็นเท่านั้น....เข้าไปถึงลานจอดรถก่อนถึงสะพาน..เจ้าหน้าที่ไม่ให้เอารถข้ามลำห้วยครับ..จะไปหาท่านสืบคือต้องเดินราวสามร้อยเมตร..ท่าน ผบ.หน้ามุ่ยบอกไม่ไปเพราะตอนนี้แดดเปรี้ยงๆเลย..ก็เลี้ยวขวาเข้าไปฉี่ที่ค่ายเยาวชน..เสร็จแล้วก็ปล่อยรถไหลกลับออกมาอีกสิบสี่กิโลนั้นแหละ..พอขึ้นทางราดยางแล้วก็ขับมุ่งหน้าไปหุบป่าตาด..ระยะทาง 51 กิโลเมตร..ใช้เวลา 56 นาที....ที่นี่ผมผ่านบ่อย..แต่ไม่เคยแวะเข้าไปเลย..มาถึงซื้อบัตรคนละยี่สิบบาทแล้วเดินขึ้นบันไดไปราวห้าหกสิบขั้นก็จะถึงปากถ้ำที่ลอดเข้าด้านในหุบ..เก็บใบแรกหน้าถ้ำนี่ตอน 13.27 น. คือพื้นที่ในหุบนั้นล้อมรอบด้วยเขาที่เป็นหน้าผาสูงชัน..มีทางเข้าออกแค่ทางเดียวคือเดินลอดถ้้ำที่มีความยาวราว 40 เมตรเข้าไป....เห็นหลายคนหลายคณะเค้าต้องใช้บริการไกด์ซึ่งจะถือไฟฉายเดินส่องทาง..เพราะในถ้ำมันมืด..แต่ผมมีไฟฉายแบบคาดหัวอยู่ในกระเป๋ากล้องประจำเลยไม่เดือดร้อน..หรือถึงไม่มีก็ยังมีไฟจากโทรศัพท์มือถือครับ..]

..เมื่อออกจากคลองลานฟลอร่าปาร์คแล้วผมตั้งหมายที่ห้วยขาแข้งครับ..ที่นี่ท่าน ผบ.ยังไม่เคยมา..เลยว่าจะพามารู้จักท่านสืบ  นาคะเสถียรครับ..
ระยะทาง 108 กิโลเมตร..ระยะเวลา 1.53 ชั่วโมง..เมื่อมาถึงป้อมยามที่เคยซื้อบัตรนั้น..ทางเจ้าหน้าที่บอกให้เอารถไปจอดในลานและซื้อบัตรในอาคารที่เห็นสร้างขึ้นมาใหม่..
เอ..แต่ก่อนไม่เห็นจะยุ่งยากยังงี้นี่หว่า..ซื้อที่ป้อมแล้วก็เข้าได้เลย..แต่ชั่งเถอะ..ก็จอดรถแล้วลงไปซื้อบัตร..
เจ้าหน้าที่สาวสองคนในนั้นถามว่ามากี่ท่านคะ..ผมบอกสอง  เค้าบอกเรียนเชิญอีกท่านเข้ามาด้วยสิ..เอ..จะเอาอะไรหว่า..ต้องปั๊มหัวแม่โป้งก่อนเข้ารึไง??
..พอท่าน ผบ.เข้ามาแล้วผมถึงได้ถึงบางอ้อ.. คือเค้าจะให้ลงทะเบียนชื่อและที่อยู่..เป็นหลักฐานว่าได้เข้าเยี่ยมชมนิทรรศการ+สื่อความรู้ที่จัดไว้ในอาคารหลังนั้นครับ..
คงลงทุนไปเยอะและกลัวว่าตัวเลขผู้เข้าชมจะน้อย..เดี๋ยวเบื้องบนจะว่าผลงานไม่เข้าเป้า..เลยไล่ต้อนให้ไปลงชื่อครับ..
เสียเวลาอยู่ราวสิบนาที..จากนั้นผมก็"ปล่อยรถ"(คือไม่แตะคันเร่งเลย)ให้ไหลไปตามถนนดิน 14 กิโลเมตรนั่นด้วยความเร็วต่ำสุดของรอบเครื่องยนต์..
ส่วนสายตาก็คอยจับจ้องสองข้างทาง..ด้วยหวังจะเจอหัวขวานสักตัว..แต่แห้วครับ..มีแค่ตะขาบทุ่งสามสี่ตัวให้เห็นเท่านั้น..
..เข้าไปถึงลานจอดรถก่อนถึงสะพาน..เจ้าหน้าที่ไม่ให้เอารถข้ามลำห้วยครับ..จะไปหาท่านสืบคือต้องเดินราวสามร้อยเมตร..ท่าน ผบ.หน้ามุ่ยบอกไม่ไปเพราะตอนนี้แดดเปรี้ยงๆเลย..
ก็เลี้ยวขวาเข้าไปฉี่ที่ค่ายเยาวชน..เสร็จแล้วก็ปล่อยรถไหลกลับออกมาอีกสิบสี่กิโลนั้นแหละ..พอขึ้นทางราดยางแล้วก็ขับมุ่งหน้าไปหุบป่าตาด..ระยะทาง 51 กิโลเมตร..ใช้เวลา 56 นาที..
..ที่นี่ผมผ่านบ่อย..แต่ไม่เคยแวะเข้าไปเลย..มาถึงซื้อบัตรคนละยี่สิบบาทแล้วเดินขึ้นบันไดไปราวห้าหกสิบขั้นก็จะถึงปากถ้ำที่ลอดเข้าด้านในหุบ..เก็บใบแรกหน้าถ้ำนี่ตอน 13.27 น.  
คือพื้นที่ในหุบนั้นล้อมรอบด้วยเขาที่เป็นหน้าผาสูงชัน..มีทางเข้าออกแค่ทางเดียวคือเดินลอดถ้้ำที่มีความยาวราว 40 เมตรเข้าไป..
..เห็นหลายคนหลายคณะเค้าต้องใช้บริการไกด์ซึ่งจะถือไฟฉายเดินส่องทาง..เพราะในถ้ำมันมืด..แต่ผมมีไฟฉายแบบคาดหัวอยู่ในกระเป๋ากล้องประจำเลยไม่เดือดร้อน..หรือถึงไม่มีก็ยังมีไฟจากโทรศัพท์มือถือครับ..

[..เมื่อเดินทะลุถ้ำถึงด้านในของหุบแล้วก็ต้องเดินลงบันได..ความสูงก็พอๆกับตอนที่ขึ้นจากด้านนอก..ที่นี่มีสิ่งแวดล้อมและพืชพันธ์ที่แปลกตา..ด้วยว่ามันเป็นต้นปรงโบราณยุคดึกดำบรรพ์..ผมมองว่าฝนคงไม่ตกที่นี่มานานมากแล้ว..เพราะเห็นฝุ่นดินจับอยู่ที่ใบไม้จนเขรอะไปหมด..]

..เมื่อเดินทะลุถ้ำถึงด้านในของหุบแล้วก็ต้องเดินลงบันได..ความสูงก็พอๆกับตอนที่ขึ้นจากด้านนอก..
ที่นี่มีสิ่งแวดล้อมและพืชพันธ์ที่แปลกตา..ด้วยว่ามันเป็นต้นปรงโบราณยุคดึกดำบรรพ์..
ผมมองว่าฝนคงไม่ตกที่นี่มานานมากแล้ว..เพราะเห็นฝุ่นดินจับอยู่ที่ใบไม้จนเขรอะไปหมด..

[..เห็นบรรยากาศจูราสสิกแบบนี้ถ้าผมเป็น อบต.เจ้าของพื้นที่..จะจัดสร้างหุ่นยางไดโนเสาร์ทีเร็กซ์ซักสามสี่ตัวมาตั้ง..เอาแบบเคลื่อนไหวหาง/ขา/คอและคำรามได้..เพราะมันเข้ากั๊นเข้ากันกับบรรยากาศพื้นที่....เอ..แต่จะโดนฟ้องข้อหาทำให้คนหัวใจวายตายรึเปล่าหว่า?? ฮ่าๆๆ]

..เห็นบรรยากาศจูราสสิกแบบนี้ถ้าผมเป็น อบต.เจ้าของพื้นที่..จะจัดสร้างหุ่นยางไดโนเสาร์ทีเร็กซ์ซักสามสี่ตัวมาตั้ง..
เอาแบบเคลื่อนไหวหาง/ขา/คอและคำรามได้..เพราะมันเข้ากั๊นเข้ากันกับบรรยากาศพื้นที่..
..เอ..แต่จะโดนฟ้องข้อหาทำให้คนหัวใจวายตายรึเปล่าหว่า?? ฮ่าๆๆ

[..นี่กลุ่มภาพจากมือถือครับ..คุณภาพแย่แต่มุมมันกว้าง..เท่าที่เห็นในหุบนี้มีพื้นที่ไม่กว้างนัก..ราวๆ 15 ไร่มัง..เดินแป็บเดียวก็ครบรอบละ..จุดไฮไลท์ก็มีแค่จุดเดียวนะ..ใบหลังคือสิ่งมีชีวิตโบราณที่พบได้เฉพาะที่นี่..ในช่วงเวลาที่แจ้งในป้ายนั่นแหละ..แต่ก็ใช่ว่าจะมาเดินให้เห็นง่ายๆ..ต้องพลิกหินพลิกไม้หาเอาครับ..]

..นี่กลุ่มภาพจากมือถือครับ..คุณภาพแย่แต่มุมมันกว้าง..
เท่าที่เห็นในหุบนี้มีพื้นที่ไม่กว้างนัก..ราวๆ 15 ไร่มัง..เดินแป็บเดียวก็ครบรอบละ..จุดไฮไลท์ก็มีแค่จุดเดียวนะ
..ใบหลังคือสิ่งมีชีวิตโบราณที่พบได้เฉพาะที่นี่..ในช่วงเวลาที่แจ้งในป้ายนั่นแหละ..แต่ก็ใช่ว่าจะมาเดินให้เห็นง่ายๆ..ต้องพลิกหินพลิกไม้หาเอาครับ..

[..ส่วนชุดแดงนั่นไม่ใช่กิ้งกือนะ..เป็นชุดไกด์ที่พามนุษย์ลุงมนุษย์ป้าเข้ามาเกือบสิบคนครับ..คงมีความสุขสนุกกันสุดๆ..เลยเอะอะเจี๊ยวจ๊าววี๊ดว๊ายกะตู้วู้กันสนั่น..จนมนุษย์ตากับมนุษย์ยายอย่างผมต้องรีบชิ่งออกมา..]

..ส่วนชุดแดงนั่นไม่ใช่กิ้งกือนะ..เป็นชุดไกด์ที่พามนุษย์ลุงมนุษย์ป้าเข้ามาเกือบสิบคนครับ..
คงมีความสุขสนุกกันสุดๆ..เลยเอะอะเจี๊ยวจ๊าววี๊ดว๊ายกะตู้วู้กันสนั่น..จนมนุษย์ตากับมนุษย์ยายอย่างผมต้องรีบชิ่งออกมา..

[..ถ่ายหน้าป้ายใบนี้ตอน 14.22น. ..แล้วออกมานิดเดียวมาเจอไร่สตอเบอรี่..ร้อนขนาดนี้ปลูกสตอเบอรี่ได้ด้วยแฮะ..หรือว่าปลูกได้แต่ต้น..ส่วนผลผลิตนั้นเอามาจากภาคเหนือหว่า..ท่านผบ.ลงไปมองๆแล้วไม่ซื้อครับ..นี่เป็นหมายสุดท้ายของทริปเหนือรอบนี้ละ..จากนั้นผมตั้งจีพีเอสให้พากลับบ้าน..น้องเนพาออกมาทางหนองฉาง/อุทัย/มโนรมย์/เข้าสายเอเซียมุ่งหน้าลงอยุทยา..ระยะทางยังยาวไกลครับ..289 กิโลเมตร..จีพีเอสบอกต้องใช้เวลา 3.53 ชั่วโมง..เลยแวะหามื้อเย็นที่ครัวน้องเปิ้ลแล้วค่อยเดินทางต่อ....เมื่อถึงแยกวังน้อยน้องเนให้มาทางคลองหลวงขึ้นโทลเวย์..แต่พอลงดินแดงขึ้นด่วนชั้นที่หนึ่งได้ก็ติดแหง็กๆตั้งแต่เหนือถนนเพชรบุรี..เพราะนี่มันเวลาทุ่มครึ่ง..กรุงเทพกำลังหนึบเลย..ก็กระดึ๊บๆจนถึงแยกตัววายผมก็เบี่ยงขวาไปลงช่องนนทรีย์ซึ่งก็แน่นขนัดทุกช่องทาง..ต่อด้วยสะพานภูมิพล 1 และ 2 ลงปู่เจ้าสมิงพราย..ถึงบ้านเอาสองทุ่มครึ่งครับ..]

..ถ่ายหน้าป้ายใบนี้ตอน 14.22น.  ..แล้วออกมานิดเดียวมาเจอไร่สตอเบอรี่..ร้อนขนาดนี้ปลูกสตอเบอรี่ได้ด้วยแฮะ..
หรือว่าปลูกได้แต่ต้น..ส่วนผลผลิตนั้นเอามาจากภาคเหนือหว่า..ท่านผบ.ลงไปมองๆแล้วไม่ซื้อครับ..
นี่เป็นหมายสุดท้ายของทริปเหนือรอบนี้ละ..จากนั้นผมตั้งจีพีเอสให้พากลับบ้าน..น้องเนพาออกมาทางหนองฉาง/อุทัย/มโนรมย์/เข้าสายเอเซียมุ่งหน้าลงอยุทยา..
ระยะทางยังยาวไกลครับ..289 กิโลเมตร..จีพีเอสบอกต้องใช้เวลา 3.53 ชั่วโมง..เลยแวะหามื้อเย็นที่ครัวน้องเปิ้ลแล้วค่อยเดินทางต่อ..
..เมื่อถึงแยกวังน้อยน้องเนให้มาทางคลองหลวงขึ้นโทลเวย์..แต่พอลงดินแดงขึ้นด่วนชั้นที่หนึ่งได้ก็ติดแหง็กๆตั้งแต่เหนือถนนเพชรบุรี..เพราะนี่มันเวลาทุ่มครึ่ง..กรุงเทพกำลังหนึบเลย..
ก็กระดึ๊บๆจนถึงแยกตัววายผมก็เบี่ยงขวาไปลงช่องนนทรีย์ซึ่งก็แน่นขนัดทุกช่องทาง..ต่อด้วยสะพานภูมิพล 1 และ 2 ลงปู่เจ้าสมิงพราย..ถึงบ้านเอาสองทุ่มครึ่งครับ..

[..สุดท้ายใบนี้แจ้งข้อมูลการเดินทางจากรถครับ..ทริปนี้ซัดไป 2937 กิโลเมตร..ใช้เวลานั่งอยู่หลังพวงมาลัยเกือบ 58 ชั่วโมง..ใช้น้ำมันเฉลี่ย 11.6 กิโลเมตร/ลิตร..เท่ากับเผาน้ำมันไป 253 ลิตร..เป็นเงิน 7595 บาทที่น้ำมัน 30 บาท/ลิตร..ถือว่าตัวเลขนี้น่าพอใจ..เพราะเส้นทางขึ้นเขาสูงชันตลอดที่เที่ยวอยู่ทางเหนือ..และส่วนใหญ่เมื่อถึงทางราบผมอัดไป 120-150 กิโลเมตร/ชั่วโมง....ส่วนค่าเฉลี่ยความเร็ว 50 กิโลเมตร/ชั่วโมงนั้นมาจากเส้นทางวกวนบนเขาชันมันวิ่งเร็วไม่ได้..และตอนที่เข้าห้วยขาแข้งผมปล่อยให้รถไหลไปเองด้วยความเร็วราว 10 กิโลเมตร/ชั่วโมงเป็นระยะทางราวสามสิบกิโล..ซึ่งต้องเอามาเฉลี่ยความเร็วรวมครับ....ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..]

..สุดท้ายใบนี้แจ้งข้อมูลการเดินทางจากรถครับ..ทริปนี้ซัดไป 2937 กิโลเมตร..ใช้เวลานั่งอยู่หลังพวงมาลัยเกือบ 58 ชั่วโมง..
ใช้น้ำมันเฉลี่ย 11.6 กิโลเมตร/ลิตร..เท่ากับเผาน้ำมันไป 253 ลิตร..เป็นเงิน 7595 บาทที่น้ำมัน 30 บาท/ลิตร..
ถือว่าตัวเลขนี้น่าพอใจ..เพราะเส้นทางขึ้นเขาสูงชันตลอดที่เที่ยวอยู่ทางเหนือ..และส่วนใหญ่เมื่อถึงทางราบผมอัดไป 120-150 กิโลเมตร/ชั่วโมง..
..ส่วนค่าเฉลี่ยความเร็ว 50 กิโลเมตร/ชั่วโมงนั้นมาจากเส้นทางวกวนบนเขาชันมันวิ่งเร็วไม่ได้..
และตอนที่เข้าห้วยขาแข้งผมปล่อยให้รถไหลไปเองด้วยความเร็วราว 10 กิโลเมตร/ชั่วโมงเป็นระยะทางราวสามสิบกิโล..ซึ่งต้องเอามาเฉลี่ยความเร็วรวมครับ..
..ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ..

เจอกิ้งกือมั๊ยครับ

[..เจอในป้ายนั่นแหละครับ..]

เจอกิ้งกือมั๊ยครับ
[/quote

..เจอในป้ายนั่นแหละครับ..