ต่อไป »

[..เมื่อวานถ่ายเจ้าท้องแดงแล้วคณะเราก็มามื้อเย็นและนอนพักที่สมานเบริ์ดแค้มป์ตามที่ได้จองไว้..ราวๆตีสี่ฝนเทลงมาอย่างแรง..เช้ามาก็ยังปรอยๆอยู่..คณะเราเรียบร้อยกับมื้อเช้าแล้วก็เข้าแก่งอีกทีครับ..สำรวจสองข้างทางไปตลอดตั้งแต่บ้านกร่างจนถึง กม.18 แต่ไม่มีอะไรให้ถ่ายแล้ว..ก็ตัดสินใจขึ้นพะเนินทุ่งสิ....นี่เป็นป้ายกำหนดเวลาขึ้น-ลงพะเนินทุ่งครับ..ด้วยว่าเส้นทางแคบและชัน..รวมทั้งหลุมบ่อร่องเนินเพราะเป็นทางดินที่ฝนชะมาหลายปีทำให้ถนนเสียหายวิ่งสวนทางกันลำบาก..]

..เมื่อวานถ่ายเจ้าท้องแดงแล้วคณะเราก็มามื้อเย็นและนอนพักที่สมานเบริ์ดแค้มป์ตามที่ได้จองไว้..
ราวๆตีสี่ฝนเทลงมาอย่างแรง..เช้ามาก็ยังปรอยๆอยู่..คณะเราเรียบร้อยกับมื้อเช้าแล้วก็เข้าแก่งอีกทีครับ..
สำรวจสองข้างทางไปตลอดตั้งแต่บ้านกร่างจนถึง กม.18  แต่ไม่มีอะไรให้ถ่ายแล้ว..ก็ตัดสินใจขึ้นพะเนินทุ่งสิ..
..นี่เป็นป้ายกำหนดเวลาขึ้น-ลงพะเนินทุ่งครับ..ด้วยว่าเส้นทางแคบและชัน..
รวมทั้งหลุมบ่อร่องเนินเพราะเป็นทางดินที่ฝนชะมาหลายปีทำให้ถนนเสียหายวิ่งสวนทางกันลำบาก..

[..ระยะทางจาก กม.18 ไปถึงพะเนินทุ่งที่ กม.30 มันแค่ 12 กิโลเมตรเอง..แต่ใช้เวลาวิ่งราวชั่วโมงนึงครับ..ท่านก็ลองคิดดูว่าเส้นทางมันจะมีสภาพอย่างไร..ทางอุทยานกำหนดให้เฉพาะรถโฟร์วีลเท่านั้นที่ให้ขึ้นพะเนินทุ่งได้..ราวเก้าโมงเช้าโฟร์วีลสองคันนี้ก็ขึ้นถึงพะเนินทุ่งท่ามกลางสายฝนหนัก..คือเราแวะที่ กม.28 ด้วยหวังถ่ายเจ้าหมวกกันน็อค..แต่ก็เอากล้องลงจากรถไม่ได้เพราะสายฝนนั่นแหละ..รวมทั้งนกเองก็หลบฝนไม่บินมาสร้างรัง..ผมเองไม่ได้มาที่นี่ราวสามสี่ปีแล้ว..แต่ดูเหมือนทุกอย่างยังคงเดิม..นอกจากสายฝนและเมฆหมอกที่กระหน่ำหนักในเวลานี้..มีนักท่องเที่ยวอยู่ราวยี่สามสิบคน..และมีท่าน"อาจารย์ลุงเปี๊ยก"ไกด์นกมือหนึ่งของแก่งกระจานอยู่ที่นั่นด้วย..ผมไม่ได้เจออาจารย์มาหลายปีแล้วจึงเข้าไปกราบสวัสดีและยืนทานกาแฟร้อน+ขนมปังร่วมกัน..และท่านอาจารย์เมตตาบอกหมายรังจุกดำเลี้ยงลูกให้..คณะเราสี่คนอยู่ที่พะเนินทุ่งราวๆชั่วโมงนึงก็ลงครับ..โดยแวะมาหาหมายที่อาจารย์เปี๊ยกให้มา..]

..ระยะทางจาก กม.18 ไปถึงพะเนินทุ่งที่ กม.30 มันแค่ 12 กิโลเมตรเอง..แต่ใช้เวลาวิ่งราวชั่วโมงนึงครับ..ท่านก็ลองคิดดูว่าเส้นทางมันจะมีสภาพอย่างไร..
ทางอุทยานกำหนดให้เฉพาะรถโฟร์วีลเท่านั้นที่ให้ขึ้นพะเนินทุ่งได้..ราวเก้าโมงเช้าโฟร์วีลสองคันนี้ก็ขึ้นถึงพะเนินทุ่งท่ามกลางสายฝนหนัก..
คือเราแวะที่ กม.28 ด้วยหวังถ่ายเจ้าหมวกกันน็อค..แต่ก็เอากล้องลงจากรถไม่ได้เพราะสายฝนนั่นแหละ..รวมทั้งนกเองก็หลบฝนไม่บินมาสร้างรัง..
ผมเองไม่ได้มาที่นี่ราวสามสี่ปีแล้ว..แต่ดูเหมือนทุกอย่างยังคงเดิม..นอกจากสายฝนและเมฆหมอกที่กระหน่ำหนักในเวลานี้..
มีนักท่องเที่ยวอยู่ราวยี่สามสิบคน..และมีท่าน"อาจารย์ลุงเปี๊ยก"ไกด์นกมือหนึ่งของแก่งกระจานอยู่ที่นั่นด้วย..
ผมไม่ได้เจออาจารย์มาหลายปีแล้วจึงเข้าไปกราบสวัสดีและยืนทานกาแฟร้อน+ขนมปังร่วมกัน..และท่านอาจารย์เมตตาบอกหมายรังจุกดำเลี้ยงลูกให้..
คณะเราสี่คนอยู่ที่พะเนินทุ่งราวๆชั่วโมงนึงก็ลงครับ..โดยแวะมาหาหมายที่อาจารย์เปี๊ยกให้มา..

[..เมื่อลงมาถึงหมายที่อาจารย์บอกไว้..ผมก็ลงเดินหาอยู่ราวสิบนาทีจึงเจอ..ด้วยว่าในป่ามันไม่มีบ้านเลขที่/ตรอก/ซอยกำหนดไว้..สิ่งที่พออ้างอิงได้มีเพียงต้นไม้ใหญ่ที่อาจารย์บอกมาคร่าวๆนี่แหละ..ภาพนี้จากมือถือคุณจวงที่ถ่ายจากบนรถ..ก็ฝนมันตกอยู่เลยต้องกางร่มถ่ายกันครับ..คุณหลินเอา R5+100-500 mm มายกซด..เมื่อพอแล้วผมเอากล้องมาตั้งขาถ่ายมั่งโดยมีคุณหลินถือร่มให้..ฮ่าๆๆและในที่สุดคุณจวงอดรนทนไม่ไหว..ลงมาร่วมถ่ายด้วยเช่นกัน..]

..เมื่อลงมาถึงหมายที่อาจารย์บอกไว้..ผมก็ลงเดินหาอยู่ราวสิบนาทีจึงเจอ..
ด้วยว่าในป่ามันไม่มีบ้านเลขที่/ตรอก/ซอยกำหนดไว้..สิ่งที่พออ้างอิงได้มีเพียงต้นไม้ใหญ่ที่อาจารย์บอกมาคร่าวๆนี่แหละ..
ภาพนี้จากมือถือคุณจวงที่ถ่ายจากบนรถ..ก็ฝนมันตกอยู่เลยต้องกางร่มถ่ายกันครับ..คุณหลินเอา R5+100-500 mm มายกซด..
เมื่อพอแล้วผมเอากล้องมาตั้งขาถ่ายมั่งโดยมีคุณหลินถือร่มให้..ฮ่าๆๆและในที่สุดคุณจวงอดรนทนไม่ไหว..ลงมาร่วมถ่ายด้วยเช่นกัน..

[..จับแมลงจุกดำ..Black-naped Monarch. ขนาดราวๆ 16-17.5 เซนติเมตรมีทั้งที่ประจำถิ่นและอพยบมา..ตัวนี้เป็นเพศผู้กำลังคาบเหยื่อเข้าป้อนลูกสามตัวในรังครับ..]

..จับแมลงจุกดำ..Black-naped  Monarch. ขนาดราวๆ 16-17.5 เซนติเมตร
มีทั้งที่ประจำถิ่นและอพยบมา..ตัวนี้เป็นเพศผู้กำลังคาบเหยื่อเข้าป้อนลูกสามตัวในรังครับ..

[..เอาเหยื่อเป็นแมงมุมมาป้อนลูกครับ..เพราะนี่ลูกตัวใหญ่มากแล้ว..คาดว่าคงไม่เกินอีกสองวันคงออกรังแล้ว..นกที่สร้างรังแบบถ้วยเปิดนี่ส่วนมากระยะเวลาป้อนจะสั้นกว่าชนิดรังแขวนหรือรังรูดินครับ..เฉลี่ยราวๆสิบวันเท่านั้น..]

..เอาเหยื่อเป็นแมงมุมมาป้อนลูกครับ..เพราะนี่ลูกตัวใหญ่มากแล้ว..คาดว่าคงไม่เกินอีกสองวันคงออกรังแล้ว..
นกที่สร้างรังแบบถ้วยเปิดนี่ส่วนมากระยะเวลาป้อนจะสั้นกว่าชนิดรังแขวนหรือรังรูดินครับ..เฉลี่ยราวๆสิบวันเท่านั้น..

[..รอบนี้เป็นคุณแม่เข้ามาครับ..สีสันความสวยงามอาจสู้คุณพ่อไม่ได้..]

..รอบนี้เป็นคุณแม่เข้ามาครับ..สีสันความสวยงามอาจสู้คุณพ่อไม่ได้..

[..นี่คุณพ่อมาอีกรอบ..คือเค้าเข้าป้อนกันบ่อยมากๆ..ราวๆห้านาทีมาครั้งนึง..ดีเพราะไม่ต้องรอนานครับ..]

..นี่คุณพ่อมาอีกรอบ..คือเค้าเข้าป้อนกันบ่อยมากๆ..ราวๆห้านาทีมาครั้งนึง..ดีเพราะไม่ต้องรอนานครับ..

[..นี่คุณแม่ครับ..แสงต่ำมากเพราะอยู่ใต้กิ่งใบของต้นไม้ใหญ่ในเวลาที่เมฆฝนครึ้มดำ..ผมนี่ดันไอเอสโอไป 5000 ยังได้สปีดแค่ราว 1/50-1/125 ต่อวินาที..หลายๆใบที่นกเคลื่อนไหวเร็วๆก็เบลอซะหมด..]

..นี่คุณแม่ครับ..แสงต่ำมากเพราะอยู่ใต้กิ่งใบของต้นไม้ใหญ่ในเวลาที่เมฆฝนครึ้มดำ..
ผมนี่ดันไอเอสโอไป 5000 ยังได้สปีดแค่ราว 1/50-1/125 ต่อวินาที..หลายๆใบที่นกเคลื่อนไหวเร็วๆก็เบลอซะหมด..

[..นี่คุณพ่อครับ..เปียกชื้นมะล่อกมะแล่กกันไปหมดทั้งคุณพ่อคุณแม่คุณลูก..และไอ้คนถ่ายด้วย..ต้องรีบป้อนให้ลูกโตไวๆ..จะได้หลบหน้าไอ้มนุษย์ที่มาจ้องอยู่หน้ารังได้ซะที..อิๆๆ]

..นี่คุณพ่อครับ..เปียกชื้นมะล่อกมะแล่กกันไปหมดทั้งคุณพ่อคุณแม่คุณลูก..และไอ้คนถ่ายด้วย..
ต้องรีบป้อนให้ลูกโตไวๆ..จะได้หลบหน้าไอ้มนุษย์ที่มาจ้องอยู่หน้ารังได้ซะที..อิๆๆ

[..ภาระกิจสำคัญคือหาอาหารมาป้อนลูก..ซึ่งผมสังเกตุว่าลูกนกสายตายังมองไม่เห็น..เวลาพ่อแม่บินมาเกาะกิ่งมีแรงสะเทือนเค้าจึงรู้ว่ามา..และอ้าปากชูคอรอรับอาหาร..อีกเรื่องคือหลายครั้งที่พ่อแม่เอาอาหารจุ่มใส่ปากแต่ไม่ป้อน..กลับเอาไปป้อนตัวอื่น..ซึ่งเข้าใจว่าเค้าอาจเห็นว่าลูกตัวนั้นอาหารยังคาคอย่อยไม่ทัน..เลยให้ตัวอื่นแทน....กับอีกเรื่องคือเวลาลูกถ่าย(อย่างที่เห็นเป็นถุงสีขาวๆในใบแรกนี่)ต้องคาบถุงอึ๊ไปทิ้งที่อื่น..เพราะถ้ามีอึ๊ในรังเดี๋ยวมดมาเป็นฝูงแน่..]

..ภาระกิจสำคัญคือหาอาหารมาป้อนลูก..ซึ่งผมสังเกตุว่าลูกนกสายตายังมองไม่เห็น..เวลาพ่อแม่บินมาเกาะกิ่งมีแรงสะเทือนเค้าจึงรู้ว่ามา..และอ้าปากชูคอรอรับอาหาร..
อีกเรื่องคือหลายครั้งที่พ่อแม่เอาอาหารจุ่มใส่ปากแต่ไม่ป้อน..กลับเอาไปป้อนตัวอื่น..ซึ่งเข้าใจว่าเค้าอาจเห็นว่าลูกตัวนั้นอาหารยังคาคอย่อยไม่ทัน..เลยให้ตัวอื่นแทน..
..กับอีกเรื่องคือเวลาลูกถ่าย(อย่างที่เห็นเป็นถุงสีขาวๆในใบแรกนี่)ต้องคาบถุงอึ๊ไปทิ้งที่อื่น..เพราะถ้ามีอึ๊ในรังเดี๋ยวมดมาเป็นฝูงแน่..

[..ขอให้ทั้งสามเติบโตปลอดภัยเป็นสีสันให้กับป่าพะเนินทุ่งนี่โดยสวัสดิภาพนะ..คณะเราใช้เวลาที่นี่ไม่ถึงชั่วโมงก็จบงานครับ..ขับรถล่องลงมาหามื้อเที่ยงที่แคมป์บ้านกร่างท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาตลอดเส้นทาง..เมื่อมาถึงลำธาร 3 ก็สังเกตุเห็นว่าเมื่อตอนที่เราวิ่งผ่านตอนเช้านั้นน้ำยังแห้งขอด..แต่บัดนี้เริ่มมีน้ำไหลแล้วด้วยเพราะฝนตกหนักบนเขา..คือที่จริงมันก็ตกมาหลายวันแล้ว..แต่น้ำฝนคงซึมลงพื้นดินไปซะหมดด้วยว่าแล้งมานาน..แต่เมื่อตกมามากเข้าจึงเหลือไหลลงสู่ที่ต่ำครับ....เป็นเรื่องที่ดี..เพราะน้ำในเขื่อนแก่งกระจานมีระดับต่ำมาก..และกรมอุตุแจ้งว่าปีนี้ไทยจะแล้งจัดเพราะเอลนีโญ่..ถ้าไม่มีน้ำสำรองเป็นทุนไว้เมื่อถึงหน้าแล้งจะขาดแคลนมาก....ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ.]

..ขอให้ทั้งสามเติบโตปลอดภัยเป็นสีสันให้กับป่าพะเนินทุ่งนี่โดยสวัสดิภาพนะ..
คณะเราใช้เวลาที่นี่ไม่ถึงชั่วโมงก็จบงานครับ..ขับรถล่องลงมาหามื้อเที่ยงที่แคมป์บ้านกร่างท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาตลอดเส้นทาง..
เมื่อมาถึงลำธาร 3 ก็สังเกตุเห็นว่าเมื่อตอนที่เราวิ่งผ่านตอนเช้านั้นน้ำยังแห้งขอด..แต่บัดนี้เริ่มมีน้ำไหลแล้วด้วยเพราะฝนตกหนักบนเขา..
คือที่จริงมันก็ตกมาหลายวันแล้ว..แต่น้ำฝนคงซึมลงพื้นดินไปซะหมดด้วยว่าแล้งมานาน..แต่เมื่อตกมามากเข้าจึงเหลือไหลลงสู่ที่ต่ำครับ..
..เป็นเรื่องที่ดี..เพราะน้ำในเขื่อนแก่งกระจานมีระดับต่ำมาก..และกรมอุตุแจ้งว่าปีนี้ไทยจะแล้งจัดเพราะเอลนีโญ่..ถ้าไม่มีน้ำสำรองเป็นทุนไว้เมื่อถึงหน้าแล้งจะขาดแคลนมาก..
..ขอบคุณทุกท่านที่เยี่ยมชม+ชี้แนะ...และขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ครับ.

เจาะรังเลยนะครับ

[..ครับ..ภาพไม่คมแต่อารมณ์มันได้..อิๆ..]

เจาะรังเลยนะครับ

..ครับ..ภาพไม่คมแต่อารมณ์มันได้..อิๆ..