ต่อไป »

[..วันนี้ก็ตื่นตีห้าเช่นเคยครับ..เพื่อขับรถขึ้นยอดดอยอินท์ที่เมื่อวานไปไม่ถึงนั่นแหละ..พอขึ้นมาถึงด่าน 2 เจ้าหน้าที่ถามว่าซื้อบัตรมารึยัง..ผมตอบว่ายังครับ..เพราะวันที่มาถึงนั้นราวสองทุ่มแล้ว..เจ้าหน้าที่ห้องขายบัตรข้างล่างเค้าเลิกงานไปหมดละ..ก็จอดลงไปซื้อบัตรตรงด่าน 2 ในวันนี้นี่แหละ..จากนั้นมุ่งสู่กิ่วแม่ปานซึ่งวันนี้ยังพอหาที่จอดรถได้อยู่..ท่ามกลางอุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส..แต่วันนี้มีหมอกเพียงจางๆเท่านั้น..เข้าร้านค้าสั่งโจ๊กมายาไส้ซึ่งต้องต่อคิวนานพอสมควร..จากนั้นมุ่งหน้ารีบขึ้นยอดดอยเพราะสถานการณ์จำนวนรถยังไม่น่าไว้ใจ..กลัวไม่มีที่จอดบนยอดดอยครับ..ไม่ได้อยากจะมาถ่ายพระอาทิตย์ตรงกิ่วนี่หรอก..เพราะมันก็ดวงเดียวกับที่บ้านผมนั่นแหละ....เมื่อขึ้นมาถึงยอดดอยก็จัดกล้องเดินขึ้นไปรอนกที่ผมมาสามสี่ครั้งหลังไม่ได้เจอหน้าเค้าเลย..พอเดินไปถึงด้านหลังป้ายบอกอุณหภูมิเจอเจ้าหน้าที่เอาเครื่องวัดมาวางบนยอดหญ้า..มันรายงานว่าติดลบ 1.8 องศาเซลเซียสตอนเวลา 07.07 น. น้ำค้างแข็ง-เหมยขาบ-แม่คะนิ้ง จับตามใบหญ้าขาวโพลนไปหมด..]

..วันนี้ก็ตื่นตีห้าเช่นเคยครับ..เพื่อขับรถขึ้นยอดดอยอินท์ที่เมื่อวานไปไม่ถึงนั่นแหละ..
พอขึ้นมาถึงด่าน 2 เจ้าหน้าที่ถามว่าซื้อบัตรมารึยัง..ผมตอบว่ายังครับ..เพราะวันที่มาถึงนั้นราวสองทุ่มแล้ว..เจ้าหน้าที่ห้องขายบัตรข้างล่างเค้าเลิกงานไปหมดละ..
ก็จอดลงไปซื้อบัตรตรงด่าน 2 ในวันนี้นี่แหละ..จากนั้นมุ่งสู่กิ่วแม่ปานซึ่งวันนี้ยังพอหาที่จอดรถได้อยู่..ท่ามกลางอุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส..แต่วันนี้มีหมอกเพียงจางๆเท่านั้น..
เข้าร้านค้าสั่งโจ๊กมายาไส้ซึ่งต้องต่อคิวนานพอสมควร..จากนั้นมุ่งหน้ารีบขึ้นยอดดอยเพราะสถานการณ์จำนวนรถยังไม่น่าไว้ใจ..กลัวไม่มีที่จอดบนยอดดอยครับ..
ไม่ได้อยากจะมาถ่ายพระอาทิตย์ตรงกิ่วนี่หรอก..เพราะมันก็ดวงเดียวกับที่บ้านผมนั่นแหละ..
..เมื่อขึ้นมาถึงยอดดอยก็จัดกล้องเดินขึ้นไปรอนกที่ผมมาสามสี่ครั้งหลังไม่ได้เจอหน้าเค้าเลย..พอเดินไปถึงด้านหลังป้ายบอกอุณหภูมิเจอเจ้าหน้าที่เอาเครื่องวัดมาวางบนยอดหญ้า..
มันรายงานว่าติดลบ 1.8 องศาเซลเซียสตอนเวลา 07.07 น.  น้ำค้างแข็ง-เหมยขาบ-แม่คะนิ้ง จับตามใบหญ้าขาวโพลนไปหมด..

[..จากนั้นแบกกล้องเดินรอบๆบริเวณเพื่อมองหาเจ้ากินปลีตัวที่หวัง..พอยกมือเสยผมทีไรหิมะตกที่ไหล่ผมทุกที..มันเป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่ผมเจอที่หนาวจัดๆ..หมอเคยบอกว่าเพราะผิวหนังหัวผมมันแห้งครับ..และหนังกำพร้าที่ดั้งจมูกและโหนกแก้มก็เกรียมดำ..กลับมาถึงบ้านเป็นอาทิตย์กว่าจะลอกหายไป..นั่นเพราะหนาวจัดและยืนตากแดดโดยไม่มีอะไรป้องกัน..ส่วนท่าน ผบ.ทบ.เค้าไม่มีปัญหาเรื่องนี้เพราะสารพัดสิ่งโปรเทคพอกไว้หลายชั้น..เอามาให้ผมทาด้วยแต่ผมไม่รับครับ..เพราะหากทาไปแล้วเมื่อเอาหน้าแนบจอกล้องครีมมันจะไปติดที่จอ..ขี้เกียจต้องคอยเช็ด....07.59 น.พระเอกก็มาโชว์ตัวครับ..กินปลีหางยาวเขียว..Green-tailed Sunbird. เพศผู้เต็มวัย..ขนาดราวๆ 11-13.5 เซนติเมตร..ขนาดเล็กเท่าๆกับหัวแม่โป้มือเท่านั้น..แต่สีสันเจิดจ้าสุดๆ..เป็นนกประจำถิ่นที่พบในไทยเพียงสามจุดเล็กๆ..คือที่นี่/ที่จังหวัดตาก/และที่นครศรีธรรมราชเท่านั้น..]

..จากนั้นแบกกล้องเดินรอบๆบริเวณเพื่อมองหาเจ้ากินปลีตัวที่หวัง..
พอยกมือเสยผมทีไรหิมะตกที่ไหล่ผมทุกที..มันเป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่ผมเจอที่หนาวจัดๆ..หมอเคยบอกว่าเพราะผิวหนังหัวผมมันแห้งครับ..
และหนังกำพร้าที่ดั้งจมูกและโหนกแก้มก็เกรียมดำ..กลับมาถึงบ้านเป็นอาทิตย์กว่าจะลอกหายไป..นั่นเพราะหนาวจัดและยืนตากแดดโดยไม่มีอะไรป้องกัน..
ส่วนท่าน ผบ.ทบ.เค้าไม่มีปัญหาเรื่องนี้เพราะสารพัดสิ่งโปรเทคพอกไว้หลายชั้น..เอามาให้ผมทาด้วยแต่ผมไม่รับครับ..เพราะหากทาไปแล้วเมื่อเอาหน้าแนบจอกล้องครีมมันจะไปติดที่จอ..ขี้เกียจต้องคอยเช็ด..
..07.59 น.พระเอกก็มาโชว์ตัวครับ..กินปลีหางยาวเขียว..Green-tailed  Sunbird. เพศผู้เต็มวัย..ขนาดราวๆ 11-13.5 เซนติเมตร..ขนาดเล็กเท่าๆกับหัวแม่โป้มือเท่านั้น..แต่สีสันเจิดจ้าสุดๆ..
เป็นนกประจำถิ่นที่พบในไทยเพียงสามจุดเล็กๆ..คือที่นี่/ที่จังหวัดตาก/และที่นครศรีธรรมราชเท่านั้น..

[..เค้ามากินน้ำหวานในดอกปะทัดนี่..แต่ก่อนที่นี่เคยมีการปลูกดอกโคมญี่ปุ่นซึ่งเค้าก็ชอบกิน..แต่ปัจจุบันเจ้าหน้าที่บอกต้นตายหมดละ..ตอนนี้กำลังเพาะเพื่อเอาลงปลูกใหม่..ช็อตหลังนี่เค้ามาตอน 09.23 น.ลงกินทั้งๆที่หลังกอดอกมีแม่ลูกคู่หนึ่งกำลังเซลฟี่อยู่และผู้คนเดินกันขวักไขว่..เค้าไม่มีการกลัวใครเลยครับ..ผมต้องร้องบอกแม่ลูกนั่นว่า"อย่าพึ่งลุกนะเดี๋ยวนกบินหนี..ขอผมถ่ายนกก่อนครับ"..ช็อตนี้ได้มาราวหกสิบกว่าใบถือว่าน่าพอใจแล้ว....จากนั้นแบกกล้องลงไปอ่างกา..แต่เงียบกริ๊บมีแค่เอี้ยงถ้ำกับกระรางหัวแดง..เจ้าสโนวี่กับช็อตวิงไม่รู้หายหัวไปไหนหมด..เลยแบกกล้องเดินกลับรถ..ขาขึ้นนี่เล่นเอาขาสั่นหอบแฮกเลย..เพราะปีนี้ผมเลยเบญจเพศคูณสองมาหน่อยนึงแล้ว..ฮ่าๆๆตอนนี้ยังพอขับรถเที่ยว+พอแบกกล้องไหว..แต่ไม่รู้จะทำได้อีกซักกี่ปี..กลัวจะเป็นอย่างที่เค้าว่า"อย่ารอจนแก่แล้วถึงไปเที่ยว..เพราะจะทำได้แค่ลงไปเยี่ยวแล้วกลับมารอคนอื่นที่รถ"..ก๊ากก..ก็เอาลงไว้ตรงนี้เพื่อเป็นบันทึกช่วยจำหน่อยนึงว่าไปรอบนี้ได้อะไรมาบ้าง..ส่วนฉบับเต็มไว้จะทำลงที่ห้องนกอีกที....ขอบคุณที่ตามมาเที่ยว...เดี๋ยวเจอกันกระทู้หน้าครับ..]

..เค้ามากินน้ำหวานในดอกปะทัดนี่..แต่ก่อนที่นี่เคยมีการปลูกดอกโคมญี่ปุ่นซึ่งเค้าก็ชอบกิน..แต่ปัจจุบันเจ้าหน้าที่บอกต้นตายหมดละ..ตอนนี้กำลังเพาะเพื่อเอาลงปลูกใหม่..
ช็อตหลังนี่เค้ามาตอน 09.23 น.ลงกินทั้งๆที่หลังกอดอกมีแม่ลูกคู่หนึ่งกำลังเซลฟี่อยู่และผู้คนเดินกันขวักไขว่..เค้าไม่มีการกลัวใครเลยครับ..
ผมต้องร้องบอกแม่ลูกนั่นว่า"อย่าพึ่งลุกนะเดี๋ยวนกบินหนี..ขอผมถ่ายนกก่อนครับ"..ช็อตนี้ได้มาราวหกสิบกว่าใบถือว่าน่าพอใจแล้ว..
..จากนั้นแบกกล้องลงไปอ่างกา..แต่เงียบกริ๊บมีแค่เอี้ยงถ้ำกับกระรางหัวแดง..เจ้าสโนวี่กับช็อตวิงไม่รู้หายหัวไปไหนหมด..
เลยแบกกล้องเดินกลับรถ..ขาขึ้นนี่เล่นเอาขาสั่นหอบแฮกเลย..เพราะปีนี้ผมเลยเบญจเพศคูณสองมาหน่อยนึงแล้ว..ฮ่าๆๆ
ตอนนี้ยังพอขับรถเที่ยว+พอแบกกล้องไหว..แต่ไม่รู้จะทำได้อีกซักกี่ปี..กลัวจะเป็นอย่างที่เค้าว่า"อย่ารอจนแก่แล้วถึงไปเที่ยว..เพราะจะทำได้แค่ลงไปเยี่ยวแล้วกลับมารอคนอื่นที่รถ"..ก๊ากก
..ก็เอาลงไว้ตรงนี้เพื่อเป็นบันทึกช่วยจำหน่อยนึงว่าไปรอบนี้ได้อะไรมาบ้าง..ส่วนฉบับเต็มไว้จะทำลงที่ห้องนกอีกที..
..ขอบคุณที่ตามมาเที่ยว...เดี๋ยวเจอกันกระทู้หน้าครับ..

เจ้านี่ ปากมันแหลม เรียวเชียวครับ

[..นกตระกูลกินปลีนี่ปากแหลมยาวทุกสายพันธ์ครับ..แต่ความยาวยังไม่เท่าพวกสไปเดอร์ฮันเตอร์..หรือกลุ่มปลีกล้วย..]

เจ้านี่ ปากมันแหลม เรียวเชียวครับ

..นกตระกูลกินปลีนี่ปากแหลมยาวทุกสายพันธ์ครับ..
แต่ความยาวยังไม่เท่าพวกสไปเดอร์ฮันเตอร์..หรือกลุ่มปลีกล้วย..